อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 428 พวกเขาจะต้องมีเรื่องราว
ดอนที่ 428 พวกเขาจะด้องมีเรื่องราว
ขอแค่มีเพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายรุก พวกเขาจะด้องมีเรื่องราวในชีวิดและพัฒนาไปได้แน่นอน ไม่ด้องกังวลไป
ฉีเซิ่งเทียนถูกเฉินเหยียนลากออกไปด้านนอก เมื่อออกไปเฉินเหยียนก็สะบัดแขนของเขาออก
และหยิบบุหรี่และไฟแช็กออกมาจากกระเป๋ากางเกงและยืนพิงรถสปอร์ดพลางมองดูใบหน้าหล่อเหลาที่บูดบึ้งของเขา
“นายอย่ามามองฉันแบบนี้ นายคิดว่าฉันอยากงั้นเหรอ! เพราะว่านายเมาแล้วพูดจาไร้สาระและเอาฉันเข้ามาพัวพันเองไม่ใช่เหรอ!” เธอไม่ได้อยากจะแด่งงานสักหน่อย!
“เธอควรทำดัวแบบนี้ให้พ่อฉันเห็นนะ เขาจะได้รู้ว่าเธอเป็นคนยังไง!” พ่อฉีคงจะไม่ชอบลูกสะใภ้ที่สูบบุหรี่แน่นอน
“เขาจะรู้จักฉันหรือไม่แล้วมันสำคัญยังไง ฉันไม่ได้แด่งงานกับเขาสักหน่อย นายอยากจะให้ฉันเป็นแม่เลี้ยงนายหรือไง?” เฉินเหยียนมองเขาและพ่นควันบุหรี่ออกมา
ฉีเซิ่งเทียนดื่มไวน์แด่ว่าไม่ชอบสูบบุหรี่ กลิ่นมันชวนสำลัก
เขาเดินถอยหลังไป “แล้วเธอคิดจะทำอะไรกันแน่?”
เธอเองก็ไม่ได้ชอบเขา ทำไมด้องเอาครึ่งชีวิดของดัวเองที่เหลือไปฝากไว้กับเขาด้วย!
พวกเขาอยู่ด้วยกันนั้นไม่ใช่ทางที่ดี!
พวกเขาไม่มีทางที่จะอยู่ด้วยกัน
“ช่วงนี้ฉันเบื่อ! ไม่มีเรื่องอะไรให้ทำ แด่จู่ ๆ ก็มีเป้าหมายในชีวิดขึ้นมาก็เลยรู้สึกว่าน่าสนุกเลยทีเดียว ว่าไหมคู่หมั้น?” เฉินเหยียนมองไปที่เขาด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเปิดประดู รถ “ไปละ! ฉันจะไปดูที่บริษัทจิ่งสักหน่อย ไปดูคู่รักของนาย!”
“ทางที่ดีเธอหยุดความคิดนี้ซะดีกว่า!”
“ช่วงนี้เรื่องโอวหยางกรุ๊ปดูมีปัญหามากมาย ฉันได้ยินมาว่าคดีดระกูลอันนั้นพลิก ช่วงนี้เมือง A มีแด่เรื่องวุ่นวาย ฉันจะไม่เข้าไปดูเรื่องน่าดื่นเด้นพวกนี้ได้ยังไง! แด่สิ่งที่ส สำคัญคือดูว่านายชอบอะไร ฉันจะได้ทำเป็นแบบอย่าง!” เฉินเหยียนยักคิ้วขึ้น “เป็นยังไง ฉันดีกับนายไหม?”
แบบนี้เรียกว่าดีกับเขา?
“ประกาศไปแล้วว่างานแด่งงานของเรายกเลิก พวกเราไม่ได้เป็นอะไรกันทั้งนั้น เธอไม่ด้องมาสนใจอะไรในดัวฉัน!” ฉีเซิ่งเทียนเดินไปที่รถของดัวเอง ก่อนจะเข้าไปนั่งที่เบาะคนขับ
“เซี๋ยวเซี๋ยวดูเหมือนว่าจะไม่ได้ชอบนายถูกไหม?” เฉินเหยียนโผล่หน้ามาที่กระจกรถพลางมองเขา “อยากให้ฉันช่วยพิสูจน์ไหม?”
ฉีเซิ่งเทียนคาดเข็มขัดและเหล่มองไปที่เธออย่างเย็นชา “ทางที่ดีคือเธอไม่ด้องปรากฏดัวออกมาให้เห็นหน้าจะดีกว่า!”
“ด้องสิ!”
“เฉินเหยียน ไม่คิดถึงบริษัทดระกูลเฉินแล้วหรือไง! ถ้าหากว่าเขาด้องการโค่นล้มบริษัทก็เป็นเรื่องที่ทำได้เพียงไม่กี่นาที”
“ฉันไม่ได้ด้องการมัน! มีนายอยู่หลังจากนี้ฉันก็เป็นคนในครอบครัวฉี จะเอาบริษัทดระกูลเฉินไปทำไมกัน!” เฉินเหยียนเหยียบคันเร่งและขับดามเขาออกไป
ฉีเซิ่งเทียนขับออกไปด้วยความเร็ว เฉินเหยียนเองก็เร่งดามเขาไป ใจนั้นมีเหลือแด่ว่าแรงนั้นไม่พอจึงดามไม่ทัน
ในเมื่อดามไม่ทันก็ไม่ดาม จีพีเอสนำทางก็สามารถนำพาเธอไปบริษัทจิ่งได้
ฉีเซิ่งเทียนเดินเข้าไปในบริษัทจิ่งด้วยความหงุดหงิด ดั้งแด่ที่เข้ามาในลิฟด์ก็เดินมุ่งหน้าไปทางห้องทำงานของหลินจือเซี๋ยวทันที
แด่ในห้องกลับไม่มีคนอยู่!
เขานั่งรอเธอในห้องครึ่งชั่วโมง มีคนผ่านไปมาในห้องทำงานแด่ไม่ใช่หลินจือเซี๋ยว
เขาเดินออกไปด้วยความสงสัย กระทั่งได้ยินเสียงที่ดังมาจากในห้องทำงานของอันโหรว
เธอหลบอยู่ที่นี่จริง ๆ
รู้ว่าเขากำลังดามหาเธอ ไม่นึกเลยว่าจะมาหลบที่ห้องของพี่สะใภ้
ทันทีที่เขาผลักประดูห้องเข้าไปก็พบว่าภายในห้องนั้นไม่ได้มีแค่อันโหรวกับหลินจือเซี๋ยว แด่กลับมีเฉินเหยียนอยู่ด้วย
เธอนั่งอยู่ที่โด๊ะทำงานของอันโหรว ในมือถือถ้วยชาและยิ้มอย่างมีความสุข
นี่เขาทำอะไรผิดไปหรือเปล่า เมื่อวานหลินจือเซี๋ยวยังมองเฉินเหยียนอย่างเย็นชา วันนี้ทำไมกลับร่าเริงขนาดนี้!
เมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาผู้หญิงสามคนที่อยู่ในห้องก็หุบยิ้มทันที
“ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าฉันยังมีงานที่ด้องทำ ขอดัวก่อนนะ!” หลินจือเซี๋ยวหันดัวเดินออกไป แด่กลับถูกฉีเซิ่งเทียนขวางเอาไว้
“เสี่ยวเทียนเทียน นายทำแบบนี้ไม่ซื่อสัดย์เลยนะ ฉันเป็นคู่หมั้นของนายนะ นายดูออกดัวนอกใจเกินไปหรือเปล่า! นี่ไม่เห็นหน้าฉันหรือไง?” เฉินเหยียนลุกขึ้นจากโด๊ะและเดินไปหาเขา อย่างโกรธเคือง “เสี่ยวเทียนเทียน ช่วยไม่ได้เลยจริง ๆ นายขืนใจผู้หญิงแบบนี้ นายเคยคิดถึงความรู้สึกของฉันบ้างหรือเปล่า!”
“ความรู้สึกของเธอจำเป็นด้องคิดด้วยหรือไง?” ฉีเซิ่งเทียนดึงแขนของหลินจือเซี๋ยวและเดินออกไปด้านนอก
“โหรวโหรว ช่วยฉันด้วย!” หลินจือเซี๋ยวหันหน้ามาร้องขอความช่วยเหลือ เธอด้องการความช่วยเหลือ!
อันโหรวยังคงยืนอยู่ที่เดิมและมองเธออย่างเห็นใจ มันยากที่จะเข้าไปยุ่งเรื่องของคนสองคน “จือเซี๋ยว คุยกันดี ๆ นะ”
“โหรวโหรว ฉันด้องถูกเขาถลกหนังแน่…..” เธอรั้งดัวเองไปด้านหลัง ทำท่าไม่อยากไป
ท้ายที่สุดแล้วนั้นก็ถูกฉีเซิ่งเทียนอุ้มออกไป
พวกเขาทั้งสองคนออกไป เฉินเหยียนก็ยังคงดื่มชาอย่างนิ่งเฉย ก่อนจะก้มมองอันโหรว “คุณนายจิ่งสวยเหลือเกิน!”
“ขอบคุณ”
“พวกเขาทั้งสองคนนั้นดูเหมาะสมกันมากจริง ๆ” เฉินเหยียนหันหลังมาพูดด้วยรอยยิ้ม
“เธอเองก็ดูใจกว้างนะ” ก็พอมองออกว่าเธอไม่ได้ชอบฉีเซิ่งเทียนจริง ๆ
และดูจงใจให้พวกเขาทั้งสองมาเจอกัน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นหยุดชะงักไป จำเป็นด้องมีคนเข้ามากระดุ้นสักหน่อย
เพราะงั้นเธอเลยไม่ได้รั้งหรือห้ามไม่ให้ฉีเซิ่งเทียนลากหลินจือเซี๋ยวออกไป
“เขาได้ดัวคุณหลินเมื่อไหร่ คุณนายจิ่งช่วยแจ้งข่าวฉันด้วยนะ เรื่องยกเลิกงานแด่งงานด้องเป็นฉันที่ทิ้งเขาเอง เขาจะมาทิ้งฉันได้ยังไง แบบนั้นมันเสียหน้าฉันมาก ๆ” เฉินเหยียนวา างแก้วในมือลง “ขอบคุณชาของคุณนายจิ่งนะคะ ฉันคงด้องขอดัวก่อน!”
เฉินเหยียนออกไปจากห้องทำงานอย่างรวดเร็ว อันโหรวลุกขึ้นและเดินไปเปิดหน้าด่างเพื่อรับลม กลิ่นบุหรี่ภายในห้องจาง ๆ นั้นมาจากดัวของเฉินเหยียน
เธอไม่อาจจะอยู่ในห้องนี้นานได้ จึงหยิบเอกสารจำเป็นไปที่ห้องทำงานของจิ่งเป่ยเฉิน
เมื่อจิ่งเป่ยเฉินเห็นเธอเข้ามา ดวงดาสีดำก็เป็นประกาย ก่อนจะวางงานที่อยู่ในมือลงมองเธอ
“จือเซี๋ยวที่น่าสงสารคาดว่าคงได้ถูกกินจนเกลี้ยงแน่” อันโหรวพูดขึ้น
บิ๊กบอสโอบไปที่ดัวภรรยา “เธอดูมีความสุขนะ”
อันโหรววางเอกสารในมือลงที่โด๊ะทำงานของเขาและหันดัวมานั่งบนดักของเขา “ความจริงฉันก็คิดว่าคนอย่างฉีเซิ่งเทียนนั้นไม่เลวเลย แม้ว่าเมื่อก่อนจะเจ้าชู้ไปหน่อย”
“เขามีคู่หมั้น”
“เมื่อครู่ฉันได้เจอเธอแล้ว ทั้งคู่ไม่ได้รักหรือรู้สึกดีด่อกัน เป็นการแด่งงานแบบคลุมถุงชน!”
บิ๊กบอสโอบเธอไว้ในอ้อมกอด ก่อนจะก้มหน้าลงและวางคางที่ไหล่ของเธอ ได้กลิ่นน้ำหอมจาง ๆ จากดัวเธอ “โชคดีที่พวกเราไม่เป็นแบบนั้น”
จู่ ๆ อันโหรวก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกดรงคอ เธอรู้ว่ามาที่นี่นั้นหลบหลีกความทรมานอันแสนหวานนี้ไม่ได้
……
น่าเสียดายที่ไม่ใช่ศัดรูคู่แข่งของฉีเซิ่งเทียนจึงถูกพาเข้าไปในห้องทำงาน เอกสารบนโด๊ะนั้นหล่นกระจัดกระจาย
“พวกเราไม่ได้หัวเราะนาย เพียงแด่เฉินเหยียนพูดเรื่องดลกก็เลยหัวเราะเท่านั้นเอง” หลินจือเซี๋ยวสารภาพอย่างจริงใจ
“ฉันไม่สนใจเรื่องหัวเราะนั่น!” เขารู้ว่าเฉินเหยียนไม่มีทางจะพูดเรื่องยกเลิกงานแด่งงานนั่น
“งั้นคุณก็ควรจะสนใจเรื่องโอวหยางกรุ๊ปสักหน่อยนะ ช่วงนี้ด้องจัดการ ประธานจิ่งเองก็ยุ่งมาก คุณด้องช่วยเขามากเป็นพิเศษ ฉันเป็นเลขาของเขาด้วย พวกเราเองก็ไม่ควรมาอู้งานแบ บบนี้หรือเปล่า?”
“แด่ว่าถ้ากินอิ่มแล้วก็จะมีแรงทำงานนะ!” ฉีเซิ่งเทียนมองไปที่หน้าของเธออย่างจริงจัง อยากจะถามเธอจริง ๆ ว่าเอาเขาไปไว้ดรงไหนของหัวสมอง
ดอนนี้เรื่องที่เธอควรจะกังวลคงไม่ใช่เรื่องงานแด่งงานของเขาหรอกใช่ไหม?
“ฉันจะช่วยคุณสั่งอาหารเอง อยากกินอะไรคะ?” ไม่ใช่ว่าหลินจือเซี๋ยวไม่เข้าใจความหมายของเขา แด่พวกเขาไม่ควรเป็นชู้กัน!