อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 429 กินเธอ
ตอนที่ 429 กินเธอ
“กินเธอ!”
แน่นอนว่าผลลัพธ์ต้องเป็นแบบนี้ หลินจือเซี๋ยวเองก็รู้ว่าตัวเองนั้นถามผิดไป!
“ผู้จัดการฉี ดูเหมือนไม่ค่อยดีเท่าไร ถ้าหากว่าฉันนั่งโต๊ะของคุณนะ” เมื่อเห็นว่าเขายังคงนิ่งเฉยไม่ขยับไปไหน ทันใดนั้นใบหน้าเล็ก ๆ ก็รู้สึกเศร้าขึ้นมา “ช่วยออกไปให้ฉันหน่อย ได้ไหม ประธานจิ่งให้งานฉันไว้เยอะมาก ถ้าไม่ทำคงต้องถูกไล่ออกแน่ ถ้าเป็นแบบนั้นฉันก็จะไม่มีเงินเดือนและก็ไม่มีเงินใช้หนี้คุณ!”
เมื่อเห็นเธอร้องไห้ แต่กลับไม่มีน้ำตาไหลออกมา ท่าทางที่เหมือนกับหลอกลวงนี้คิดหรือว่าจะให้เขาปล่อยไป!
เขาขมวดคิ้วขึ้นมา ก่อนจะยิ้มและพูดว่า “ไม่มีเงิน มีเนื้อให้ชิมก็ถือว่าใช้ได้นะ!”
“เนื้อของฉันไม่คุ้มค่าเงินหรอก เฉินเหยียนน่าจะไม่เลว เห็นว่าสัดส่วนรูปร่างของเธอนั้นดี แถมยังสวยมากอีก พื้นฐานครอบครัวก็ถือว่าดีมาก เพราะงั้นผู้จัดการฉีไปหาเธอเถอะค่ะ!” หลินจือเซี๋ยวพยักหน้า เธอจะต้องไปหาโหรวโหรวเพื่อยืมเงิน จะได้จ่ายเงินให้ฉีเซิ่งเทียนไป เขาจะได้ไม่ต้องพูดเรื่องนี้อีก
ไม่อย่างนั้นเขาก็จะเอาแต่พูดเรื่องเงินสองร้อยห้าสิบล้านอยู่แบบนี้!
“ฉันจะมาหาเธอแทน” ขณะที่เขาพูดก็เอื้อมมือไปที่เสื้อผ้าของเธอ เห็นทีเธอต้องโดนสั่งสอนสักหน่อยแล้ว
ตั้งแต่ที่เมาเมื่อครั้งก่อนก็แทบไม่มีอะไรพัฒนาขึ้นเลย เห็นแบบนี้แล้วก็หลีกเลี่ยงราวกับงูที่เลื้อยไปมาอยู่ได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ผ่านงานวันเกิดเมื่อครั้งก่อน บวกกับทันใดนั้นเมื่อคืนเฉินเหยียนปรากฏตัวขึ้น เขาก็รู้ดีว่าบางทีหลินจือเซี๋ยวน่าจะเข้าใจผิด!
หลินจือเซี๋ยวพยายามอย่างหนักที่จะรั้งเขาไม่ให้ไป เมื่อมองดูสายตาของเขาแล้วจึงพูดขึ้นว่า “ผู้จัดการฉี ได้โปรดให้เกียรติตัวเองด้วย!”
“ให้เกียรติตัวเองอะไร? ให้เกียรติตัวเองแบบไหน?” ฉีเซิ่งเทียนก้มหน้าลงและเดินเข้าไปใกล้เธอ หลินจือเซี๋ยวเอนตัวไปที่ด้านหลังทันที ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าเอวของเธอแทบจะหัก
ก่อนที่มือใหญ่ ๆ จะวางลงบนหลังของเธอ นั่นทำให้เธอกลับมานั่งตัวตรงอีกครั้ง ก่อนจะมองไปที่หน้าอันหล่อเหลาของฉีเซิ่งเทียนที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “เซี๋ยวเซี๋ยว เอวเธอแข็งแรงดีจั งเลยนะ”
ทำไมเขาถึงยิ้มอย่างมีความสุขแบบนั้น?
“อันที่จริงเอวของฉันไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไร จริง ๆ แล้วเอวของฉันเจ็บมากเลย……..” เธอแสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมา ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอค่อย ๆ ย่น บ่งบอกถึงความเจ็บปวดและความเสียใจ “ผู้จ จัดการฉี เอวฉันมันเจ็บมากเลย ฉันว่าฉันต้องไปหาหมอหน่อยแล้ว คุณช่วยปล่อยฉันไปก่อนนะ!”
“ฉันจะพาเธอไปเอง!” เขาก้มลงไปอุ้มเธอขึ้นมาและพาออกจากโต๊ะไปทันที
“นี่คุณจะอุ้มฉันไปไหนเนี่ย? ปล่อยฉันนะ! ปล่อย!” เธอไม่อยากจะเข้าไปในห้องรับรองของเขาเลยสักนิด ถ้าเกิดเข้าไปคงได้เกิดเรื่องบัดสีบัดเถลิงแน่ ๆ
“ฉันเป็นหมอจีนเก่านะ เดี๋ยวจะช่วยดูให้” ตอนนี้เมื่อเห็นเธอพยายามดิ้นไปมาเขาก็พูดขึ้นทันที
เขาแทบไม่พูดอะไรต่อ เพราะรู้ว่ามันไร้ประโยชน์ แต่ช่วงที่เขาพูดก็รู็สึกปวดหลังขึ้นมา พูดไปก็รู้สึกราวเหมือนกับเห็นความโกหกได้ทันที
“คุณเป็นหมอจีนเก่าเหรอ? คุณเหมือนคนขับรถแก่ ๆ มากกว่า!” หลินจือเซี๋ยวเห็นว่าตัวเองอยู่ไม่ไกลจากเตียงใหญ่ ใบหน้าของเธอก็ดูน่าเกลียดขึ้นมาทันที
“ผู้จัดการฉี คุณนอนอยู่บนเตียงนี้กับผู้หญิงคนอื่นมาแล้วกี่คนกันแน่! ตอนนี้ถึงตาฉันต้องนอนกับคุณแล้วอย่างนั้นเหรอ! สกปรก ฉันนอนไม่ได้!” เธอเริ่มดิ้นไปมาเพื่อให้หลุดจากต ตัวเขา เธอไม่มีท่าทีที่จะชอบเขาเลยสักนิดเดียว!
สิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้ชายคนนี้ดูน่ารังเกียจมากจริง ๆ แถมยังฉวยโอกาสตอนเธอเมาอีก และนั่นเป็นครั้งแรกของเธอด้วย!
สารเลว!
ฉีเซิ่งเทียนเริ่มเปลี่ยนเป็นอารมณ์เย็นชา ทันใดนั้นก็โยนเธอลงไปบนเตียง เธอตกใจมากก่อนจะพลิกตัวและขยับไปที่ขอบเตียง เธอมองไปที่ใบหน้าของเขา ตอนนี้ทั้งสองคนกำลังมองหน้ากันแ และกันอยู่
“หลินจือเซี๋ยว เธอเคยเห็นฉันพาผู้หญิงคนอื่นเข้ามาที่นี่หรือไง?” ก่อนหน้านั้นเขามีผู้หญิงคนอื่นมาก่อนก็จริง แต่เขาไม่เคยพาผู้หญิงพวกนั้นมาที่นี่เลยสักครั้ง
เขาจะกล้าพาผู้หญิงคนอื่นมาที่นี่นอกจากพี่เฉินได้ยังไงกัน ถ้าหากเขาทำแบบนั้นเขาก็คงไม่คิดอยากมีชีวิตอยู่แล้ว
“ผู้จัดการฉี ที่คุณพูดมาก่อนหน้านั้นฉันไม่ใช่เลขาของคุณมาก่อน แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าคุณพาผู้หญิงคนอื่นเข้ามาที่นี่หรือเปล่า?!” เธอจัดแจงเสื้อผ้าของตัวเอง เมื่อครู่นี่ถูก กฉีเซิ่งเทียนเลิกเสื้อขึ้นไปไม่น้อย
“หลินจือเซี๋ยว เธอพูดอีกประโยคหนึ่งดูสิ!”
“ฉันไม่รู้จริง ๆ” เธอเบิกตากว้างขึ้นและมองไปที่หน้าของเขาอย่างไร้เดียงสา “ผู้จัดการฉี ตอนนี้คุณเป็นผู้ชายที่มีคู่หมั้นแล้ว คุณน่าจะรู้ดีนะว่าคุณควรรับผิดชอบตัวเองยังไง แ และรับผิดชอบต่อคู่หมั้นของคุณยังไง ตอนนี้เรื่องระหว่างพวกเราถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น โอเคหรือเปล่า?”
“หมายความว่ายังไง เรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้น? ความหมายของเธอคือสิ่งที่เธอคิดเอาเอง ก่อนหน้านั้นพวกเรามีความสัมพันธ์แบบนั้นมาก่อนนี่?” เธอคนนี้คงดีใจมากเลยสินะถึงได้ยิ้มมุมปา ากขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
“ไม่เลยสักนิด!” เธอส่ายหน้าไปมาพลางคิดว่าจะออกจากที่นี่ได้ยังไง
“เธอมานี่สิ” ฉีเซิ่งเทียนจับมือของเธอ ก่อนจะกะพริบตาไปมา ท่าทางดูง่ายดายมาก……
เหมือนกับกำลังอ้อนวอน!
ออกไปไม่ได้แน่ ในใจของหลินจือเซี๋ยวนั้นเอาแต่บอกว่าไม่มีทางออกไปได้แน่!
ก่อนหน้านั้นแม้จะรู้ว่าเขามีผู้หญิงคนอื่นมาก่อน แต่จริง ๆ แล้วตัวเขาก็ถือว่าเป็นคนดี แต่ตอนนี้ดูไม่เหมือนเดิมเลย เพราะการปรากฏตัวคู่หมั้น
เธอจะไม่มีวันอยู่กับผู้ชายที่มีคู่หมั้นแบบนี้แน่นอน
“ผู้จัดการฉี ก่อนหน้านั้นพวกเรามีเรื่องเข้าใจผิดเกิดขึ้นมาก่อน โอเคหรือเปล่า? คิดซะว่าเป็นฉันเองที่พลาดพลั้งไป!” เธอสงสารตัวเองตรงที่ยังไม่มีแฟน แต่สิ่งที่หวังจะให้แฟนก็หาย ไปเสียแล้ว!
“ฉันเป็นผู้ชาย ตอนนั้นที่ทำกับเธอไป มันไม่ได้เข้าใจผิดเลย หรือว่าเธอจะนอนกับฉันอีกสักคืนไหม พวกเราจะได้ยุติธรรมกันไป” ฉีเซิ่งเทียนพยายามขึ้นไปบนเตียงและพยายามจะขยับตัวเข ข้าไปใกล้เธอ
หลินจือเซี๋ยวหันหลังก่อนจะวิ่งออกไป แต่ก็ถูกเขาดึงมือเอาไว้และรั้งให้กลับมาหาเขา ทันใดนั้นแผ่นหลังก็แนบชิดติดกับกำแพงทันที เธอมองไปที่เขาอย่างเงียบ ๆ “เมื่อกี้คุณยังไ ไม่ได้ถอดรองเท้า เตียงสกปรกหมดแล้ว ผู้จัดการฉี เอาไว้ครั้งหน้าค่อยนัดกันนะ ตอนนี้เตียงสกปรกขนาดนั้น ฉันนอนไม่ลงหรอก”
“ใครบอกว่าจำเป็นต้องที่เตียง” ฉีเซิ่งเทียนขยับเข้าไปใกล้เธอ มองดูใบหน้าที่แดงระเรื่อขึ้นเรื่อย ๆ ของเธอ รู้สึกน่าสนใจไม่ใช่น้อย
ภายในหัวของหลินจือเซี๋ยวเต็มไปด้วยภาพที่เคยพบเจอตรงกำแพงเมื่อครั้งนั้น บางครั้งก็ไปตรงโน้นตรงนี้ แต่บางทีอยู่บนโต๊ะทำงานน่าจะดีกว่า!
ลมหายใจของผู้ชายตอนนี้ปกคลุมไปทั่วทั้งตัวของเธอ ทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมาก ท่าทางแบบนี้ราวกับกำลังจะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น
เธอกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะหันหน้าไปมองเขา “คุณคิดจะให้ฉันเป็นมือที่สามของคุณอย่างนั้นเหรอ? ฉันไม่มีทางเป็นมือที่สามหรอกนะ ผู้จัดการฉี คุณมีปัญหาเรื่องความคิดหรือเปล่า? ผู้หญิง งที่เป็นคู่หมั้นสวยขนาดนั้นกลับไม่ชอบ คุณจะมากวนฉันอยู่เรื่อยทำไมกัน? ปล่อยฉันไปได้แล้ว!”
“ความหมายของเธอคือ….” ทันใดนั้นเขาก็หยุดพูด ก่อนจะเอนตัวเข้าไปใกล้ ๆ หูของเธอและกระซิบเบา ๆ “ถ้าหากว่าฉันไม่มีคู่หมั้นละก็ เธอจะอยู่กับฉันไหม?”
“ไม่ได้หมายความแบบนั้น!”
“แล้วหมายความว่ายังไง?” ฉีเซิ่งเทียนหรี่ตาลงเล็กน้อย ใบหน้าเผยอารมณ์ที่ดูดุดัน
แววตาของเขาบ่งบอกราวกับว่าถ้าหากเธอกล้าปฏิเสธละก็ เขาจะทำให้เธอตกเป็นของเขาทันที!
“อย่างน้อยคุณก็ต้องโสดเสียก่อนแล้วค่อยมาพูดเรื่องนี้ ไม่อย่างนั้นพวกเราก็จะพัฒนาความสัมพันธ์ไม่ได้? คุณไม่โสด มีคนอยู่ในหัวใจ เดี๋ยวความรู้สึกมันจะเจ็บปวดเอาเปล่า ๆ” เธอต ตอบอย่างระมัดระวัง เพื่ออย่างน้อยให้สามารถหลบหนีรอดไปได้ในวันนี้
“เมื่อคืนนี้เธอเป็นยังไงบ้าง? เล่นกับฉันอย่างนั้นเหรอ?” จู่ ๆ เธอก็เปลี่ยนเส้นทางไปแบบนั้น เป็นแบบนั้นคงพอทนได้อยู่บ้าง แต่นี่กลับวิ่งหนีไปบ้านพี่เฉินแทน
แถมเมื่อคืนยังหนีไปนอนกับหน่วนหน่วนอีก เธอนี่มันฉลาดเก่งกาจจริง ๆ
ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนั้นละก็ เขาไม่มีทางเข้าไปกวนเธอแน่!
“ไม่มีอะไรหรอก หน่วนหน่วนโทรบอกมาว่าคิดถึงฉันก็เท่านั้น ฉันก็เลยขับรถตรงไปหาเธอ ถ้าไม่เชื่อละก็ คุณลองโทรศัพท์ไปหาเธอดูสิ จะได้รู้ว่าฉันพูดจริงหรือเปล่า? อีกอย่างเรื่อ องเมื่อคืนเกิดขึ้นเร็วมากเลยลืมบอกให้คุณรู้ แต่บางทีคู่หมั้นของคุณอาจจะคุยโทรศัพท์กับคุณอยู่ก็ได้! ฉันเลยรู้สึกว่าบางทีพวกเราไม่จำเป็นต้องมานั่งอธิบายให้เข้าใจแบบนั้นก็ ได้ เพราะงั้นคุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นหรอก……….”
ตอนเช้าเธอบอกกับหน่วนหน่วนเอาไว้แล้วว่าถ้าหากฉีเซิ่งเทียนถามอะไรละก็ ให้บอกว่าหน่วนหน่วนโทรมาหาเธอเอง
ซึ่งเธอกับหน่วนหน่วนมีความสัมพันธ์ที่ดี หน่วนหน่วนไม่มีทางขายเธอแน่นอน!
“ฉันกับเขาไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดหรอกนะ พ่อแม่ของฉันมัวแต่บังคับเล่นตลกอยู่ได้ ฉันจริงจังกับเธอต่างหาก!”