อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 432 เพราะนายตาบอด
ตอนที่ 432 เพราะนายตาบอด
“ฉันเห็นด้วยตาทั้งสองข้างเลยนะ!” เฉินเหยียนเดินเข้าไปโอบเขา “เป็นยังไงบ้าง? คงไม่ใช่ว่านายทิ้งเด็กน้อยที่น่ารักพวกนั้นเอาไว้แล้วมาหาฉันหรอกนะ!”
ฉีเซิ่งเทียนแทบไม่ได้ชำเหลืองสายตามองไปที่เธอด้วยซ้ำ ก่อนจะพูดไปว่า “เธออยู่ไหน? ทำไมจู่ ๆ ฉันถึงได้มองไม่เห็นกันเนี่ย!”
“ก็เป็นเพราะว่านายตาบอดไง!”
ฉีเซิ่งเทียนหันหน้ามองไปที่เธอ “ฉันตาบอด เพราะงั้นเธอคงไม่ต้องการคนตาบอดหรอกนะ! ขอร้องเถอะ!”
“ขอร้องฉันไปก็ไม่มีประโยชน์ ช่วงเวลานั้นนายเป็นคนทับตัวฉันเอง หนำซ้ำยังบอกว่าจะแต่งงานกับฉัน ตอนนี้มานึกเสียใจทีหลัง ไม่มีทางแล้ว! ของที่ถูกส่งออกไปแล้ว ไม่มีวันกลับคืนม มาได้หรอก!” เฉินเหยียนพาเขาไปที่นั่ง ก่อนจะพานั่งลง
ผู้คนที่อยู่ข้าง ๆ ล้วนเดินจากไป ทำให้พวกเขามีที่ว่างสำหรับนั่ง
เฉินเหยียนวางไพ่ลงและยื่นให้กับฉีเซิ่งเทียน ก่อนจะยกแก้วไวน์ขึ้นมาจิบ พร้อมกับเอ่ยถาม “เล่นได้ใช่ไหม?”
“ถ้าฉันช่วยเธอให้ชนะ แล้วฉันจะได้อะไร?”
เฉินเหยียนใช้ศอกแตะไปที่เขาหนึ่งที ก่อนจะพูดว่า “เอาไว้นายชนะให้ได้ก่อนแล้วค่อยพูด!”
“ฉันเป็นนักธุรกิจ ถ้าหากไม่มีประโยชน์อะไร เธอคิดเหรอว่าฉันจะยอมลงไปเล่น?” ไพ่ที่อยู่ในมือเขาถูกวางลงบนโต๊ะทันที “เธอก็รู้ว่าฉันคิดอะไร”
“ฉันรู้ว่านายคิดอะไรอยู่ สิ่งที่นายต้องการก็คือฉันไง!” มุมปากของเฉินเหยียนเผยรอยยิ้มเล็ก ๆ ก่อนที่แก้วจะถูกยื่นไปตรงหน้าเขา “ยังไงดี ลองชิมไหม?”
“ไม่!” เห็นได้ชัดว่านี่เป็นแก้วที่เธอเพิ่งดื่มต่อหน้าเขาเมื่อกี้
“น่าเบื่อ! เสี่ยวเทียนเทียน!” เฉินเหยียนหยิบไพ่ที่เขาเพิ่งวางลงขึ้นมา “เอาแบบนี้! ถ้านายช่วยฉันให้ชนะ ฉันจะยกเลิกงานแต่งงานต่อหน้าเซี๋ยวเซี๋ยวของนายให้เอง!”
“จริงเหรอ?” ฉีเซิ่งเทียนไม่อยากจะเชื่อในคำพูดของเธอเท่าไร ตั้งแต่ตอนไหนกันที่เธอพูดจาดูง่ายแบบนี้?
“หรือว่านายไม่คิดอยากจะยกเลิกงานแต่ง? ไม่คิดเรื่องพวกนี้ก็ได้นะ ฉันก็แค่แต่งเข้าบ้านนาย ไม่ได้มีอะไรสำคัญต่อฉันอยู่แล้ว!” เพราะว่าตอนนี้ตัวเธอก็ไม่ได้มีคนอยู่ในใจ แต่งง งานกับใครก็ได้ทั้งนั้น
“ตกลง ฉันจะช่วยให้เธอชนะเอง” ฉีเซิ่งเทียนมองไปที่ไพ่ในมือ มันช่างเป็นไพ่ที่ค่อนข้างแย่ชะมัด
ถ้าหากเป็นแบบนี้มีหวังคงได้แพ้แน่ ๆ ฟ้าดินช่างลงโทษ “ดวงเธอนี่มันแย่จริง ๆ”
“เพราะงั้นถึงได้เรียกให้นายมาไง! เพราะฉันแพ้ไปเยอะแล้ว! นายต้องช่วยให้ฉันชนะบ้าง!”
เมื่อเฉินเหยียนพูดแบบนั้น ผู้คนที่อยู่ภายในห้องส่วนตัวต่างก็มองมาที่พวกเขา “เรียกความช่วยเหลือจากด้านนอกอย่างนั้นเหรอ?”
“ไม่รู้แหละ! พวกคุณคงไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะคนนอกที่มาช่วยสินะ!” เฉินเหยียนพูดอย่างเรียบเฉย ก่อนจะยื่นแก้วไวน์หนึ่งแก้วไปให้ฉีเซิ่งเทียน
ฉีเซิ่งเทียนลงสนามมาแล้วหลายประเภท การเล่นไพ่ก็ถือว่าเป็นของเด็ก ๆ สำหรับเขา ไม่ต้องใช้เวลาถึงสิบนาที เขาก็สามารถเอาชนะได้หมดด้วยซ้ำ!
“เสี่ยวเทียนเทียน นายนี่มันร้ายกาจจริง ๆ เอายังไงดีนะ ฉันเริ่มรู้สึกว่ารักนายแล้วสิ ไม่คิดอยากจะยกเลิกงานแต่งซะแล้ว!” เฉินเหยียนมองไปที่ใบหน้าของเขาก็เห็นใบหน้าหล่อเหลา ที่ปรากฏ แทบอยากจะแนบเข้าไปพิงตัวเขาเลยด้วยซ้ำ
ฉีเซิ่งเทียนเบือนหน้าหนีจากเธอทันที “นั่งลงดี ๆ ซะ!”
“แค่แสร้งทำต่อไปสิ! ว่ากันว่าก่อนหน้านั้นนายเป็นหนุ่มเพลย์บอย ตอนนี้กลายเป็นหนุ่มรักเดียวใจเดียวแล้วเหรอ? ทำไมฉันมองไม่ออกเลยนะ! คุณชายสองทำตัวเป็นคนดีแบบนี้ พ่อหนุ่มเสเ เพลกลับใจแล้วสินะ!” เฉินเหยียนถือแก้วไวน์ไว้ในมือ ก่อนจะมองไปที่ไพ่ในมือของเขา ดวงตาพลันเป็นประกายขึ้นมาทันที
เมื่อคนอื่น ๆ เห็นสีหน้าของเฉินเหยียน พวกเขาก็คิดว่าไพ่ในมือของฉีเซิ่งเทียนนั้นดีมาก นั่นทำให้พวกเขาไม่กล้าที่จะวางไพ่ต่อทันที!
“yes! พวกเราชนะแล้ว!” เฉินเหยียนดึงไพ่ในมือของเขาวางลงบนโต๊ะ
คนอื่น ๆ ต่างก็มองไปที่ไพ่ในมือของฉีเซิ่งเทียน เป็นไพ่ที่ไม่ได้ดีเลยสักนิด แต่กลับมาพ่ายแพ้แบบนี้ พวกเขาแทบไม่เต็มใจเลยสักนิดเดียว!
“เสี่ยวเทียนเทียน ดูเหมือนว่าถ้าพวกเราร่วมมือกันคงดูไม่เลวเลยนะ นายลองพิจารณาดูหน่อยไหม ถ้าหากพวกเราไปที่ลาสเวกัสด้วยกันจะเป็นยังไง?” เฉินเหยียนถือแก้วไวน์ในมือ ก่อนจะยื่น นไปตรงหน้าเขา “เสี่ยวเทียนเทียน มองมาตรงนี้หน่อยสิ!”
“เสี่ยวเทียนเทียน ที่จริงแล้วฉันเพิ่งมารู้ว่านายหล่อขนาดนี้เลย เป็นรสนิยมที่ฉันชอบด้วยสิ นายคิดว่ายังไง ถ้าหากว่านายจะมาชอบฉันบ้าง!” ตัวของเฉินเหยียนขยับเข้าใกล้เขามาก กขึ้นเรื่อย ๆ
ทันใดนั้นประตูห้องส่วนตัวก็ถูกเปิดออก คนที่อยู่ในห้องต่างก็เงียบลงทันที เสียงรองเท้าส้นสูงค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้
“เสี่ยวเทียนเทียน นายรักฉันไหม?” เฉินเหยียนแทบไม่ได้สนใจคนที่เดินเข้ามา และไม่ได้หวาดกลัวคำพูดที่ชวนตายแบบนั้น
แต่ทว่าฉีเซิ่งเทียนกลับเห็นหลินจือเซี๋ยวเดินเข้ามา ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็ดำดิ่งมืดลง
เห็นได้ชัดว่าเขาขยับตัวออกไป ทำไมเฉินเหยียนถึงได้พยายามเกาะติดเขาอยู่แบบนี้
หลินจือเซี๋ยวเห็นท่าทีแบบนั้นก็คิดอยากจะตะโกนออกมา มีเรื่องอะไรถึงได้เรียกให้เธอมาที่นี่กัน!
แต่เธอนี่โง่เง่าจริง ๆ โง่ถึงขนาดคิดว่าฉีเซิ่งเทียนเมาจนไม่สามารถกลับบ้านได้เลยสักนิด!
ให้ตายสิ เขาเมาขนาดนั้น ทำไมถึงยังส่งข้อความพวกนั้นมาได้อีกกัน!
เธอนี่มันเป็นคนโง่เง่าอันดับหนึ่งของโลกเลยนะจือเซี๋ยว!
หลินจือเซี๋ยวเห็นรอยยิ้มของเฉินเหยียนและเห็นมือของเธอที่กำลังเกาะแขนของฉีเซิ่งเทียนไว้แน่น เธอจึงเอ่ยปากพูดขึ้นว่า “ผู้จัดการฉี ขอให้สนุกนะคะ ตอนงานแต่งอย่าลืมให้บัตรเชิ ญมาด้วย เดี๋ยวฉันจะหาของขวัญดี ๆ ไปให้”
พอพูดจบ เธอก็หมุนตัวเดินออกไปจากห้องส่วนตัวทันที
เธอสาบานเลยว่าหลังจากนี้เธอจะไม่เชื่อคำพูดไร้สาระของฉีเซิ่งเทียนอีก!
“ปล่อย!” ฉีเซิ่งเทียนมองเฉินเหยียนด้วยใบหน้าที่จริงจัง ทำไมจู่ ๆ แรงของเธอถึงได้เยอะขนาดนี้ เกาะเขาไว้แน่นมาก!
“เสี่ยวเทียนเทียน เธอไปแล้ว ตอนนี้นายควรจะอยู่เล่นที่นี่นะ!” เธอค่อย ๆ คลายมือออกจากแขนของเขา
ทันทีที่ถูกปล่อย ฉีเซิ่งเทียนก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้และรีบวิ่งไปข้างนอกทันที
เฉินเหยียนถือโทรศัพท์สีดำไว้ในมือแน่น ก่อนจะเปิดมันขึ้นมา
เมื่อหลินจือเซี๋ยวลงไปด้านล่างก็ได้ยินเสียงข้อความดังขึ้น เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อเปิดดู ก็เห็นข้อความของฉีเซิ่งเทียนที่ถูกส่งเข้ามา
เมื่อฉีเซิ่งเทียนลงไปที่บันไดก็เห็นรถของเธอขับออกไปแล้ว!
“ให้ตายสิ!”
ระหว่างทางกลับบ้าน ทันใดนั้นหลินจือเซี๋ยวก็รู้สึกหงุดหงิด หงุดหงิดมากเป็นพิเศษ ไม่รู้ว่าในใจคิดอะไรอยู่กันแน่
เมื่อครู่นี้เธอเห็นเฉินเหยียนแนบชิดพิงตัวฉีเซิ่งเทียนชัด ๆ มันทำให้เธออึดอัดจนพูดไม่ออก ในใจรู้สึกไม่ค่อยสบายเท่าไรนัก
ความรู้สึกนี้ทำให้เธอคิดอยากจะออกจากที่แห่งนั้นทันที นี่เธอชื่นชอบคนอย่างเขาไปแล้วงั้นเหรอ?
นี่มันบาปเกินไปแล้ว!
ทำไมถึงได้ไปชอบคนที่มีคู่หมั้นแบบนั้น!
ก็แค่หลับนอนเพียงแค่ครั้งเดียวเองไม่ใช่เหรอ?
อีกอย่างครั้งนั้นเธอก็แทบไม่ได้รู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำ ตอนนั้นสตินึกคิดก็แทบไม่เหลือ เป็นไปไม่ได้แน่ที่จะ….
“อาาาาาาาา!!”
เธอจับพวงมาลัยแน่นขึ้น แต่ทันใดนั้นเองก็เห็นว่ามีรถตามหลังเธอมา มันเป็นรถที่เธอคุ้นเคยและรู้ดีว่าเป็นรถของใคร
ฉีเซิ่งเทียนนี่เขาทำบ้าอะไรอยู่?
ไม่ใช่ว่าอยู่กับคู่หมั้นหรอกเหรอ?
คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเป็นผู้ชายที่พูดจาสามคมอะไรแบบนี้ เมื่อครู่นี้อยู่กับคู่หมั้น พูดคุยกันสนิทสนม แต่ตอนนี้กลับขับรถออกมาตามเธอเสียแล้ว!
ผู้ชายแบบนี้ไม่ว่ายังไงก็ไม่อยากได้หรอกนะ!
ไม่มีทางเสียหรอก!
หลินจือเซี๋ยวพยายามเตือนสติตัวเองอยู่ในใจ ก่อนจะเหยียบคันเร่งเพื่อเร่งความเร็วรถให้เร็วขึ้น แต่ทว่าทักษะการขับรถของฉีเซิ่งเทียนนั้นเหนือกว่าเธอมาก ไม่ช้าก็ตามติดตัวเธอได้
เมื่อเห็นแบบนั้นเธอก็รู้ดีว่าตัวเองคงหนีไปไหนไม่ได้แล้ว
ก่อนที่จะเห็นเส้นทางไปยังอพาร์ตเมนต์ของตัวเอง เธอรีบจอดรถและเดินลงจากรถไปด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะใช้เวลาไม่นานเปิดประตูบ้าน ช่วงขณะที่กำลังจะเข้าไป ยังไม่ทันได้เหยียบเข้าป ประตูก็ถูกฉีเซิ่งเทียนวิ่งตามมาจากด้านหลังด้วยความรวดเร็ว
ก่อนประตูจะถูกปิดด้วยความรวดเร็ว
“ออกไปเลย! นี่ถือว่าคุณบุกรุกนะ!” หลินจือเซี๋ยวตะโกนใส่เขา เขาทำแบบนี้ได้ยังไงกัน!
“บุกก็บุกสิ พรุ่งนี้เธออยากฟ้องก็ค่อยไปฟ้อง!” เขาเริ่มทนไม่ไหวแล้ว พอทีกับเรื่องพวกนี้!
หลินจือเซี๋ยวกำลังจะเตรียมวิ่ง แต่ทว่าก็ถูกเขาคว้าเสื้อผ้าที่ด้านหลังเอาไว้ ทำให้เธอล้มลงไปแนบชิดติดกับอ้อมแขนของเขา กลิ่นน้ำหอมจาง ๆ บนตัวเขาลอยมาแตะจมูก ตามมาด้วยกลิ่น นบุหรี่และแอลกอฮอล์ มันทำให้เธอรู้สึกอึดอัด คิดอยากจะอ้วกออกมา!
“อ้วก…..” ทันใดนั้นเธอก็อ้วกออกมาทันที “ฉีเซิ่งเทียน ตัวนายเหม็นมาก สกปรก กลิ่นเหม็น อยู่ให้ห่างฉันเลยนะ!”