อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 441 ผิดหวัง
ตอนที่ 441 ผิดหวัง
“ตอนนี้ยังเร็วไป เธอผิดหวัง?” ฉีเซิ่งเทียนทำท่าทางเข้าไปโอบตัวเธอ “แต่เธอไม่อยากเล่น ฉันจะพาเธอกลับไป”
ส่งเธอกลับไปไม่ได้ทำให้เธอกลายเป็นวายร้ายเหรอ?
มีหลายคนคิดอยากจะเล่นกับฉีเซิ่งเทียน แต่เธอต้องการที่จะพาเขาออกไป
เธอยิ้มออกมาและพูดขึ้นว่า “ไม่เป็นไร อยากเล่นก็ไปเล่นสิ! แต่ฉันคงไม่ร่วมด้วยหรอกนะ”
“ไปด้วยกันเถอะ อยู่คนเดียวข้างนอกก็เบื่อพอดี!”
สุดท้ายหลินจือเซี๋ยวก็เข้ามาดูพวกเขาเล่นเกมด้วยกัน เธอแทบจะพูดอะไรไม่ออก แต่ก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมอย่างเต็มที่!
พูดความจริงหรือถูกทำโทษ!
มีขวดไวน์อยู่ตรงกลาง ครั้งนี้มันจะหมุนไปที่ใครกันนะ!
เกมที่สุ่มตามโชคแบบนี้ มันไม่ค่อยมีความหมายเท่าไร ไม่ได้มีความท้าทายที่ตื่นเต้นเลยสักนิด!
“จูบคนข้าง ๆ ที่อยู่ทางมือซ้าย จะทำได้หรือเปล่า!” คนที่ถือขวดมองไปรอบ ๆ ก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมา
การทำโทษนี้ถือว่าค่อนข้างเบามาก
แต่ทุกคนต่างก็ไม่ได้ออกความเห็นอะไร
ภายในห้องส่วนตัวมีผู้คนนับสิบคน เป็นไปไม่ได้แน่ที่จะให้พวกเขาหันหน้ามองกันตรง ๆ แบบนี้ หลินจือเซี๋ยวหยิบแตงโมมาชิ้นหนึ่ง ตอนนี้กำลังกินอยู่เงียบ ๆ
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงกึกก้องดังขึ้นและมองมาที่เธอ เมล็ดแตงโมแทบจะหลุดพรวดออกจากปาก ทำไมเธอถึงโชคดีขนาดนี้?
คนที่อยู่ทางมือซ้ายของเธอเป็นหมิ่นลี่ไม่ใช่เหรอ?
“พี่ชาย แบบนี้น่าสนใจไม่เลวเลยนะ!” หมิ่นลี่ยิ้มขึ้นก่อนจะมองไปทางฉีเซิ่งเทียนที่อยู่ข้าง ๆ เขาด้วยท่าทีที่มีความสุขจนออกนอกหน้า
แต่ทันใดนั้นปากของหมิ่นลี่ที่ยิ้มและหัวเราะอยู่ก็ถูกปิด กลายเป็นฉีเซิ่งเทียนเข้ามาจูบกับเขาแทน
เหมือนกับว่าเอาปากไปแตะอย่างเดียว สุดท้ายก็เอาออก
เมื่อเสร็จภารกิจ ฉีเซิ่งเทียนก็กลับมานั่งและพูดอย่างเรียบเฉย “ต่อๆ!”
ตอนนี้ฉีเซิ่งเทียนออกมาจากห้องส่วนตัวแล้ว คนอื่น ๆ ตอนนี้กำลังมองดูเขาด้วยท่าทีที่มึนงง โดยเฉพาะหมิ่นลี่ที่เพิ่งถูกจูบ เขารู้สึกอึ้งและงุนงง อีกทั้งคนที่อยู่ข้าง ๆ อย่างห หลินจือเซี๋ยวเองก็งงตามไปด้วยเช่นกัน
มีใครบ้างไหมที่สามารถบอกพวกเขาได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น!
ทำไมพวกเขาถึงมองดูแล้วไม่เข้าใจแบบนี้!
“คุณชายรองฉี ดูเหมือนคุณจะหุนหันเกินไปแล้วนะ! คุณหลินยังไม่ทันจะเลือกพูดความจริงหรือถูกลงโทษเลยนะ! คุณกลับชิงจูบคุณชายหมิ่นไปซะอย่างนั้น”
เมื่อเสียงนี้ดังขึ้น ใบหน้าของหลินจือเซี๋ยวก็ปรากฏรอยยิ้มอย่างอดไม่ได้
ตอนนี้ใบหน้าของฉีเซิ่งเทียนกลายเป็นมืดดำดิ่งลง
พอเขาได้ยินคำพูดของหมิ่นลี่แบบนั้น และนึกถึงริมฝีปากสีชมพูของคนที่เขาชอบแล้ว จะให้ไปจูบคนอื่น มีหรือเขาจะทนไหว เพราะงั้นสู้ยอมช่วยเธอไว้จะดีกว่า!
แต่มันหุนหันพลันแล่นจนเกินไป
ตรงมุมปากของหลินจือเซี๋ยวตอนนี้เปื้อนไปด้วยน้ำแตงโม ฉีเซิ่งเทียนหยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาเช็ดให้เธอด้วยท่าทีที่จริงจัง ทำท่าทางไม่ได้ยินสิ่งที่คนเมื่อครู่นี้พูด
“ให้ตายสิ! ฉันเป็นผู้ชายแท้ ๆ ฉีเซิ่งเทียน อย่ามาพิศวาสฉันเชียวนะ! ถึงแม้ฉันจะปฏิบัติกับนายเป็นพี่น้องก็เถอะ แต่มาจูบฉันแบบนี้ไม่ได้!” หมิ่นลี่เอามือถูริมฝีปากของตัวเอง ข ขนาดแฟนสาวยังหาไม่ได้ จูบแรกยังไม่ทันได้ใช้ก็ถูกชิงไปเสียแล้ว!
หลินจือเซี๋ยวเงยหน้าขึ้นมองไปที่เขา มือที่อ่อนโยนกำลังขยับไปมาอย่างช้า ๆ แต่ทั่วทั้งตัวตอนนี้เหมือนกำลังปกปิดความโกรธที่ไม่อาจซ่อนเอาไว้ได้
จากคำพูดของหมิ่นลี่เมื่อครู่นี้มันฟังดูแล้วน่าหัวเราะออกมาจริง ๆ
“ครั้งนี้ฉันจะขอเริ่มก่อนก็แล้วกัน! คุณชายรองฉี ฉันดูแล้วคืนนี้คุณอาจจะเป็นเจ้าก็ได้นะ เพราะงั้นเตรียมพร้อมให้ดี ๆ”
ขวดแก้วบนโต๊ะถูกหมุนอีกครั้ง ฉีเซิ่งเทียนเอาแต่มองไปที่หลินจือเซี๋ยวตลอดเวลา ไม่ได้สนใจรอบ ๆ โต๊ะเลยด้วยซ้ำ
กระดาษทิชชูที่อยู่ในมือของเขาถูกโยนทิ้งลงถังขยะ ก่อนจะเผยรอยยิ้มและมองไปที่เธอ “แค่เธอยิ้มและหัวเราะแบบนี้ก็มีความสุขแล้ว! เธอคิดว่าฉันเป็นรักร่วมเพศ?”
“เปล่า”
“ฉันเป็นชายแท้ หรือว่าเธอจะไม่รู้กัน?” ตอนที่นอนด้วยกันคืนนั้น ก็เป็นเขาที่โน้มตัวหาเธอ
“เรื่องนานขนาดนั้น ช่วยอย่าถามถึงจะได้ไหม? ถ้านายจะถามละก็ ไป……”
หลินจือเซี๋ยวถูกเสียงหัวเราะของคนในห้องส่วนตัวขัดจังหวะพูด
“คุณชายรองฉี มาสิ มาสิ! จะพูดความจริงหรือจะถูกลงโทษ?”
“พูดความจริง”
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน!
ก่อนหน้านั้นฉีเซิ่งเทียนอยู่เล่นกับพวกเขา ต่างก็เลือกถูกลงโทษทั้งนั้น!
ไม่มีคำพูดใด ๆ เอ่ยออกมาเป็นสัญญาณเลยสักนิดเดียว!
“อืม ๆ งั้นขอถามหน่อย คุณชายรองฉีครั้งแรกที่มีอะไรกับผู้หญิงตอนไหนงั้นเหรอ? เป็นใครกัน? รู้สึกยังไงบ้าง?”
ช่างกล้าถามจริง ๆ นะ!
คนอื่น ๆ ต่างก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่คนถาม และก็อยากรู้ว่าฉีเซิ่งเทียนจะพูดอะไรออกมา
แม้แต่หมิ่นลี่ที่เป็นพี่น้องกับเขาก็ยังต้องหันไปมอง
หลินจือเซี๋ยวยิ่งไม่ต้องพูดถึง แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ทุกคนต่างก็รู้ดีถึงหัวข้อซุบซิบที่เกิดขึ้นกับฉีเซิ่งเทียน
ฉีเซิ่งเทียนมองไปที่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า ตอนนี้ภายในดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัย เธอมองมาที่เขาด้วยใบหน้าที่สงสัย มันเลยทำให้เขาอดไม่ได้ที่คิดจะอยากจะดึงเธอออกไปข้างนอกและสั งสอนซะเดี๋ยวนี้เลย!
เขากัดฟันพูดออกไปว่า “เธอถามสามคำถามนะ”
“งั้นเอาข้อแรก อายุเท่าไร!”
หลินจือเซี๋ยวรู้สึกเหมือนฉีเซิ่งเทียนกำลังเผชิญหน้ากับอะไรบางอย่าง ดวงตาที่กลมโตของเธอมองไปที่เขาแทบไม่กะพริบ โดยเฉพาะริมฝีปากของเขา
หลินจือเซี๋ยวเข้าใจแจ่มแจ้ง ไม่ใช่เพราะคิดอยากจูบเขา แต่คิดอยากจะได้ยินคำตอบจากปากเขามากกว่า
เขาหันหน้ามองไปที่หลินจือเซี๋ยว ก่อนจะพูดอย่างเย็นชาไปว่า “สิบแปด”
“ตาฉัน ตาฉัน!” หลินจือเซี๋ยวเมื่อได้ยินคำตอบจากปากเขาก็เริ่มรู้สึกน่าสนใจ ก่อนจะถือขวดและหมุนทันที
ถ้ารู้ว่าจะรังแกเธอแบบนี้ คืนนี้จะต้องทำให้เขาไม่ได้อยู่ดีเป็นสุข!
ทันใดนั้นฉีเซิ่งเทียนก็รู้สึกเหมือนกับว่าเธอต้องการที่จะเล็งมาที่เขา
ไม่เพียงแต่ฉีเซิ่งเทียนจะรู้ตัว คนอื่น ๆ ต่างก็รู้เช่นกัน
เมื่อขวดที่หลินจือเซี๋ยวหมุนยังไม่หมุนไปโดนฉีเซิ่งเทียน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่โดนฉีเซิ่งเทียนตรง ๆ เพราะมีคนบังเอิญทำท่าเหมือนไปแตะขวด ก่อนที่ขวดนั้นจะค่อย ๆ หันชี้ไปทางฉีเซิ่งเที ยนตรงหน้า
หลินจือเซี๋ยวมองไปที่เขาอย่างตื่นเต้น ก่อนจะพูดไปว่า “ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครเหรอ? ชื่อว่าอะไร? สวยหรือเปล่า? ตอนนี้พวกคุณยังติดต่อกันอยู่ไหม?”
“นี่มันสี่คำถามแล้วนะ” ฉีเซิ่งเทียนมองไปที่ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอที่กำลังตื่นเต้น เห็นเธอเป็นแบบนี้เขาควรมีความสุขดีไหมนะ?
ควรหัวเราะออกมาอย่างมีความสุขหรือเปล่า!
เขากวาดสายตามองไปที่คนอื่น ๆ พวกเขาทุกคนต่างก็รุมมองมาที่เขาทั้งนั้นเลย!
โดยเฉพาะคนอื่น ๆ เหมือนกับยุ่งกับธุระของตัวเอง ไม่ได้สนใจเขาเลยสักนิด บ้างดื่มเหล้า เล่นโทรศัพท์ ไม่ได้มองมาที่เขา เหมือนปล่อยให้เขาเผชิญกับคำถามและตอบอย่างเงียบ ๆ
แต่ภายในใจของฉีเซิ่งเทียนกลับรู้สึกมีความสุขแปลก ๆ เหมือนว่าเซี๋ยวเซี๋ยวจะสนใจอดีตของเขาไม่ใช่น้อย หรือว่าตอนนี้เธอเริ่มสนใจเขาแล้ว?
หรือว่าจะ……
เขาคิดมากจนเกินไป บางทีเธออาจจะหาทางทิ้งระยะกับเขาแน่ ๆ เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะพวกข่าวลือซุบซิบนินทาบ้าบอพวกนั้น!
ทันใดนั้นฉีเซิ่งเทียนก็ลุกขึ้น คว้าขวดแก้วออกจากตรงนั้นทันที และดึงมือเธอออกไปที่ด้านนอก “เธออยากรู้อะไรก็ถามฉันได้ทั้งนั้น ฉันจะบอกหมดเลย แต่พวกเราต้องกลับไปคุยต่อกันท ที่บ้านอย่างช้า ๆ นะ”
“กระเป๋าของฉัน! กระเป๋าของฉัน!” เธอเดินตามฉีเซิ่งเทียนออกไปข้างนอก พลางมองไปที่ด้านหลังอย่างกังวล
หมิ่นลี่หยิบกระเป๋าขึ้นมาก่อนจะโยนไปหาเธอตรงหน้า แต่เธอกลับรับมันไม่ทัน
“ฉีเซิ่งเทียน รอเดี๋ยว!”
ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าชะงักฝีเท้าและหยุดทันที ทำให้เธอชนเขาอย่างไม่อาจเลี่ยง ไม่ช้ากระเป๋าที่ร่วงอยู่บนพื้นก็ถูกเขาหยิบขึ้นมา
“ฉันจะเดินเอง!”
“เธอเดินช้าเกินไป!” ฉีเซิ่งเทียนอุ้มหลินจือเซี๋ยวขึ้นมา
เมื่อพวกเขาเดินออกไป ภายในห้องต่างก็ยิ้มและหัวเราะขึ้นมา นี่เป็นครั้งแรกที่เล่นเกมแล้วฉีเซิ่งเทียนหนีออกไปได้!
“ว่าแล้ว ร้ายกาจจริง ๆ แค่ผู้หญิงคนเดียวก็สามารถจัดการเขาได้แล้ว” หมิ่นลี่เผลอถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
แต่ตัวเขานี่สิ เมื่อไหร่จะหาผู้หญิงได้สักคนกัน!
“คุณชายหมิ่น ที่จริงแล้วฉันคิดว่าคุณเองก็หล่อ ทั้งสูง พื้นฐานครอบครัวก็ดี จะมีผู้หญิงที่ไหนไม่สนใจ ให้ฉันช่วยแนะนำให้ไหม!”
“ไม่เอา!” เขารีบปฏิเสธทันที
ภายในห้องยังคงเล่นเกมต่อ แต่คนที่น่าสนุกตอนนี้ได้ออกไปแล้ว ตอนนี้จึงไม่ได้ดูน่าสนใจเท่าไรนัก
หลินจือเซี๋ยวตอนนี้รู้สึกว่าตัวเริ่มร้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนจะเอนพิงไปที่ตัวเขา มันเหมือนกับมีอะไรบางอย่างมาสะกิดทำให้เธอคิดอยากเข้าไปใกล้ ๆ เขา
“เซี๋ยวเซี๋ยว เธอไม่สบายหรือเปล่า?” ฉีเซิ่งเทียนก้มหน้าลงมองเธอด้วยความเป็นห่วง เพราะตอนนี้ใบหน้าน้อย ๆ ของเธอเริ่มแดงขึ้นเรื่อย ๆ