อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 443 ตราประทับ
ตอนที่ 443 ตราประทับ
ไม่ต้องพิงประตูใกล้ขนาดนั้นก็ได้!
“เธอกังวลตัวเธอเองเหรอ?” ฉีเซิ่งเทียนมองไปที่ตราประทับบนร่างกายของเธอก็พลันรู้สึกดีขึ้นมาทันที
“ฉันไม่มีอะไรเกี่ยวกับคุณ ไม่ต้องทำเหมือนพวกเรามีส่วนร่วมกัน ต้องทำงานไม่ใช่เหรอคะ? ผู้จัดการฉีก่อเรื่องในเชิงลบแบบนี้ ระวังบิ๊กบอสจะไม่ต้องการคุณนะคะ!” เธอมองเขาด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย
โดยทั่วไปแล้วเขาควรคิดว่าตัวเองนอนกับผู้หญิงคนอื่นไม่ใช่เหรอ?
ทำไมถึงต้องมาหาเธอด้วย!
ถ้ารู้แบบนี้ทำไมเธอถึงต้องพยายามหาผู้หญิงอื่นมาด้วย!
“ไม่ต้องห่วง ความสัมพันธ์ของพวกเรายังแน่นแฟ้นกันดีอยู่ ถ้าหากเขาไม่ต้องการแล้ว แต่ฉันต้องการเธอ!”
“ผู้จัดการฉีคะ บิ๊กบอสไม่ได้ต้องการฉันแต่แรก พวกเราเป็นแค่คนร่วมงานกัน อย่ามาพูดจาอะไรที่มันคลุมเครือแบบนี้ได้ไหมคะ?”
“อืม ไปเถอะ! ไปทำงานกับฉัน” วันนี้เขายืนกรานที่จะปกป้องเธอไม่ให้กินยา!
……
เพราะงั้นจึงอยู่ภายในห้องทั้งวัน ฉีเซิ่งเทียนให้เธอพิมพ์เอกสารโดยนั่งอยู่ในห้องทำงานของเขา นั่งตรงข้ามกับเขา จับตาดูเธอแม้กระทั่งเข้าห้องน้ำ ราวกับว่าเธอไม่รู้ทาง
ในที่สุดก็ถึงเวลาเลิกงาน เธอคิดว่าจะหลุดพ้นและได้รับอิสระจากเขาแล้ว
ทว่ากลับไม่เป็นอย่างนั้น ฉีเซิ่งเทียนเดินตามเธอทุกฝีก้าว ไม่ว่าเธอจะเดินไปไหน เขาจะเดินตามเธอไปด้วย
ตอนนี้เธอทำได้เพียงซ่อนตัว….
จิ่งเป่ยเฉินและอันโหรวเพิ่งลงจากรถ หลินจือเซี๋ยวเองก็เพิ่งลงมาเช่นกัน เธอรีบไปรั้งอันโหรวอย่างตื่นเต้น
“โหรวโหรว…….” เธอกลัวจริง ๆ ไม่กล้ากลับบ้าน!
“เย็นนี้เธออยากกินอะไร? ฉันจะบอกให้ครัวทำให้เธอ” อันโหรวยิ้มและเดินเข้าไปกับเธอ
จิ่งเป่ยเฉินมองดูด้วยสีหน้าที่ไม่ยินดี ผู้หญิงสองคนนี้คิดจะทำอะไรอีก?
ทันใดนั้นฉีเซิ่งเทียนก็ได้รับสายตาที่มืดครึ้มจากคนด้านหน้า เหมือนว่าทางที่ดีควรพาผู้หญิงคนนั้นกลับไปและอยู่ให้ห่างจากผู้หญิงของเขา!
ฉีเซิ่งเทียนมองอย่างบริสุทธิ์ใจ เขาเองก็คิดแบบนั้น!
“คุณน้าจือเซี๋ยว”
เมื่อเห็นเธอก็ยิ้มทักทาย
“คุณลุงฉี!”
“โอ้โห หลาน ๆ ของฉัน!” ฉีเซิ่งเทียนเดินไปหาพวกเขาเร็วกว่าอันโหรวและหลินจือเซี๋ยว เขากอดหยางหยางไว้ “เซี๋ยวเซี๋ยว เธอดูว่าเด็กน้อยน่ารักแค่ไหน!”
หลินจือเซี๋ยวมองหยางหยางที่มีใบหน้าเหมือนกับบิ๊กบอสมาก ๆ ก่อนจะมองเขาแวบหนึ่ง ทำไมเธอรู้สึกว่าเหมือนจะมีประโยคหลังที่จะพูดตามมา!
ประโยคนั้นคือ……
“พวกเรามามีลูกด้วยกันเถอะ!”
มื้อค่ำวันนี้มีคนมาเพิ่มสองคนก็ยิ่งสนุกสนาน ถึงแม้ว่าจิ่งเป่ยเฉินจะยังคงเย็นชา แต่ว่าก็ยังดูแลอันโหรวทุกขั้นตอน กลัวว่าจะไม่สบาย
“อ้วก…..”
อันโหรวหันไปอ้วกและอดทนไว้สักพักก็ดีขึ้น อาการแพ้ท้องนั้นเป็นเรื่องปกติ
“น้องคนเล็กไม่เชื่อฟัง” หน่วนหน่วนมองแม่จ๋าด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง
ด้านหน้าอันโหรวมีน้ำร้อนวางอยู่ เธอดื่มไปสักพักก็รู้สึกดีขึ้น
หลินจือเซี๋ยวและฉีเซิ่งเทียนที่อยู่ตรงข้ามมองมาที่พวกเขา ทั้งสองมีความคิดขึ้นมาว่าโหรวโหรวท้อง!
แต่ว่าฉีเซิ่งเทียนกลับคิดมากกว่านั้น นั่นคือลูกในท้องใช่ลูกของพี่เฉินหรือเปล่า?
ไม่นึกว่าเขาจะไม่บอกอะไรเลย!
“น้องเชื่อฟังจ้ะ เป็นปกติดีนะ” ช่วงนี้เธอแพ้ท้องน้อยลงมาก หนำซ้ำยังกินอาหารได้มากขึ้นและไม่อาเจียนเวลาได้กลิ่นอาหารแล้วด้วย
“หน่วนหน่วน ทำไมถึงรู้ว่ามีน้องสาวคนเล็กคะ?” หลินจือเซี๋ยวถามอย่างกะทันหัน โหรวโหรวเกินไปจริง ๆ แม้แต่เธอก็ไม่บอก!
อยู่ในบริษัทแสดงเก่งขนาดนั้น ท่าทางก็ดูปกติ ดูแล้วไม่เหมือนคนกำลังท้องเลย
“น้องชายก็ได้ค่ะ แต่หนูว่าเป็นน้องสาว” หน่วนหน่วนหรี่ตาพลางยิ้ม ดวงตาสีฟ้ากลมโตมองแล้วดูน่ารัก
ไม่คิดเลยว่าอาหารที่เสิร์ฟมาในคืนนี้จะได้กำไรมาอย่างคาดไม่ถึง
หลังจากมื้อค่ำหลินจือเซี๋ยวก็ไม่ได้คิดจะกลับไป โหรวโหรวท้องแต่ไม่ได้บอกเธอ วันนี้เธอมีเรื่องเยอะแยะมากมายที่จะพูดคุยกัน
บิ๊กบอสมองดูภรรยาของตัวเองที่กำลังถูกภรรยาของคนอื่นฉกตัวไปด้วยสีหน้าที่มืดมน คืนนี้เขาจะต้องอยู่ในห้องคนเดียว
ทุก ๆ วันได้เพียงแต่มองดูโดยไม่สามารถกินได้ แค่นั้นก็หดหู่มากพอแล้ว แต่กลับต้องเจอเรื่องที่น่าสลดใจแบบนี้อีก
ฉีเซิ่งเทียนไม่กล้าที่จะพูดต่อหน้าเขาแล้ว
“พี่เฉิน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฉันนะ ตอนแรกฉันจะพาเธอกลับไป” เขารีบแสดงจุดยืนของตัวเองทันที
ถ้าหากไม่ใช่เพราะอยากพาหลินจือเซี๋ยวกลับก็คงไม่ตามเธอมาถึงที่นี่
“หลังจากนี้ไม่อนุญาตให้พามาอีก!” จิ่งเป่ยเฉินเหลือบตามองอย่างเย็นชาและขึ้นไปชั้นบน
หยางหยางและหน่วนหน่วนกลับขึ้นไปนานแล้ว ภายในห้องโถงใหญ่นั้นเหลือเพียงเขาคนเดียว ไม่สิ ยังมีคนรับใช้อยู่!
ในห้องนอนรับแขก
อันโหรวและหลินจือเซี๋ยวนั่งลงบนเตียงขนาดใหญ่ มือของหลินจือเซี๋ยวสัมผัสไปที่ท้องน้อยของเธอและลูบเบา ๆ
อันโหรวคิดว่าเธอจะพูดเกี่ยวกับเรื่องลูกในท้อง แต่ว่าสิ่งที่เธอได้ยินกลับเป็น……
“โหรวโหรว ผิวพรรณเธอดีจัง มือก็เรียวยาว ลูบแล้วดูลื่นมาก ไม่อยากจะปล่อยเลย”
อันโหรวงุนงง สิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่แบบนี้
และมือของเธอไม่ได้ปล่อยออกจริง ๆ “โหรวโหรว ทำไมเธอไม่พูด! ฉันไม่รู้หรอกนะพวกเธอปิดบังกันเก่งเกินไปหรือเปล่า?”
“โดยปกติแล้วต้องผ่านไปสามเดือนก่อนถึงจะประกาศเรื่องนี้ได้ นี่เพิ่งจะเดือนเดียวเอง แต่ก็เกือบจะสองเดือนแล้ว เลยไม่ได้รีบอะไร”
ถ้าหากไม่ใช่เพราะมื้อค่ำวันนี้เกิดอาเจียนออกมาก็คงจะไม่พูดหรอก
“บิ๊กบอสคงจะดีใจเอามาก ๆ” เธอจินตนาการหลังจากนี้บิ๊กบอสจะกลายเป็นคุณพ่อที่มีลูกสาวสองคนแล้ว!
“เขา……..”
ตอนนี้ยังไม่ได้ดีใจถึงขีดสุด รอให้เขารู้ว่าลูกน้อยเป็นลูกของเขา คงจะดีใจอย่างมากแน่ ๆ
“โหรวโหรว เธอเป็นอะไร? ดูอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ นะ!” หลินจือเซี๋ยวที่กำลังลูบท้องของเธอหยุดอย่างกะทันหัน “ฉันรู้แล้ว บิ๊กบอสคงไม่ได้กินเนื้อแน่ ๆ เลยดูไม่ดีใจเอาซะเลย!”
ที่หลินจือเซี๋ยวพูดมาก็มีเหตุผลอยู่ ร่างกายที่เร่าร้อนอยู่ข้างเธอทุกวัน แทบอยากจะฉีกเธอเป็นชิ้น ๆ แต่ว่าก็ไม่สามารถทำได้
“บิ๊กบอสที่น่าสงสาร คงปวดใจน่าดู” หลินจือเซี๋ยวลูบท้องที่แบนราบของเธออีกครั้ง “ตั้งชื่อลูกแล้วหรือยัง?”
“จิ่งเซ่อ”
“เพราะมาก! เป็นชื่อผู้หญิงถูกไหม! เธอก็คิดว่าเป็นลูกผู้หญิงเหรอ?”
ครอบครัวน่ามหัศจรรย์จริง ๆ ถ้าหากคลอดออกมาเป็นผู้ชายคงจะไม่ถูกโดนปฏิเสธหรอกนะ
“ค่อยว่ากัน! ฉันตั้งชื่อลูกไม่เก่งหรอก” ชื่อของหยางหยางและหน่วนหน่วนก็ตั้งขึ้นมาแบบธรรมดา
“ดีจัง เธอจะมีลูกสามคนแล้ว ไม่เหมือนฉัน แม้แต่ครึ่งนิ้วของแฟนก็ยังไม่โผล่ออกมาให้เห็น! “ หลินจือเซี๋ยวจู่ ๆ ก็รู้สึกปลงขึ้นมา หรือว่าทั้งชีวิตนี้เธอจะไม่ได้แต่งงานจริง ๆ
เมื่อได้ยินเธอพูดว่าปลง อันโหรวก็หัวเราะขึ้นมา “ไม่ใช่ว่ามีฉีเซิ่งเทียนหรอกเหรอ?”
“โหรวโหรว เธออย่าล้อเล่นได้ไหม ฉันไม่มีทางแทรกเข้าไปเป็นมือที่สามหรอก”
“แล้วถ้าหากว่าพวกเขายกเลิกงานแต่ง ถ้าพวกเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันแล้ว?”
“รอให้มันผ่านพ้นไปค่อยว่ากันเถอะ! ตอนนี้ไม่ควรแม้แต่จะคิดพิจารณา” หลินจือเซี๋ยวดึงมือตัวเองกลับมาและตบที่หน้าท้องของตัวเองเบา ๆ ผ่านชุดนอนบาง ๆ “เธอตั้งท้องแล้วก็ควรจะนอนเร็วหน่อยนะ”
ช่วงนี้การพักผ่อนของเธอไม่เหมือนกับเมื่อก่อนจริง ๆ จิ่งเป่ยเฉินนั้นเครียดกว่าเธออย่างเห็นได้ชัด
ถึงยังไงเธอก็เคยมีประสบการณ์ในการคลอดหยางหยางและหน่วนหน่วนมาแล้ว
ภายในใจไม่ได้รู้สึกเครียดเลยสักนิด เพียงแค่รอเวลาที่จะบอกจิ่งเป่ยเฉินเท่านั้น หัวใจของเธอนั้นต้องเครียดและตื่นเต้นมากอย่างแน่นอน