อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 450 ซุกซน
ตอนที่ 450 ซุกซน
เขาหันไปมองทางหลินจือเซี๋ยวที่อยู่ข้าง ๆ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ซุกซนจังนะ”
“อ้วก…..” เธอทำท่าเหมือนจะอ้วก ก่อนจะพูดต่อ “เร็วเข้า รีบสวมเสื้อผ้าเถอะ”
“ใช่!”
……
อันโหรวขณะนั้นกำลังนั่งอยู่ในห้องทำงาน หลินจือเซี๋ยวเองก็รีบวิ่งเข้ามาในห้องทำงานด้วยท่าทีที่ร้อนรน
ดวงตากลมโตเบิกกว้างมองไปที่เธอ ก่อนจะเอามือทั้งสองของตัวเองไปจับตัวเธอไว้ “โหรวโหรว เร่งด่วนมาก ช่วยด้วย!”
“อะไรเหรอ?” เธอเหลือบสายตามองออกไปนอกห้องทำงาน หรือว่าจะมีคนไล่ตามเธอมา?
แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของฉีเซิ่งเทียนเลยสักนิดเดียว!
“โหรวโหรว พวกเราเดินไปคุยไปกันเถอะ เธอรีบตามฉันมานะ” ตอนนี้เธอไม่มีเวลาแม้แต่จะอธิบายแล้ว
อันโหรวหยิบกระเป๋าของตัวเอง ก่อนจะเดินตามเธอออกไป
แต่ว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาทำงานซึ่งเลขาหายไปสองคน แบบนี้มันจะดีเหรอ?
แล้วจิ่งเป่ยเฉินจะทำยังไง?
สิบนาทีต่อมา อันโหรวและหลินจือเซี๋ยวได้ออกมาที่ห้องสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ก่อนจะตรงไปที่ร้านเสื้อผ้าผู้ชาย
อันโหรวมองเธอด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะพูดว่า “เธอจะซื้อเสื้อผ้าให้ฉีเซิ่งเทียนงั้นเหรอ? เนื่องในโอกาสอะไร?”
ตอนที่เดินทางมาเธอเองก็แอบเห็นรอยจูบจาง ๆ ที่ต้นคอของหลินจือเซี๋ยวเข้าพอดี ก่อนจะพาเธอมาที่ห้างตั้งแต่เช้า
“โหรวโหรว คือเรื่องมันเป็นแบบนี้ ฉันโยนกระเป๋าของผู้จัดการฉีออกจากบ้านฉันไป พอฉันออกไปหาอีกทีก็ไม่เห็นมันแล้ว! ฉันต้องซื้อคืนเขา” เธออยากร้องไห้แต่น้ำตาก็ไม่ไหลออกม มา!
อีกอย่างเสื้อผ้าของฉีเซิ่งเทียนก็ราคาไม่น้อยกว่าหมื่นทั้งนั้น เพราะงั้นเธอเลยพาโหรวโหรวมาด้วย ก่อนจะค่อยหาทางจ่ายคืนเธอทีหลัง
“กระเป๋าของเขาไปอยู่บ้านเธอได้ยังไง?”
“โหรวโหรว นี่มันไม่ใช่ประเด็นนะ ประเด็นก็คือฉันต้องหาทางชดใช้เสื้อผ้าของเขาเนี่ยสิ แต่ฉันไม่ค่อยจะรู้ว่าเขามักจะสวมยี่ห้ออะไรกันแน่ เธอช่วยฉันเลือกหน่อย ฉันจะรีบจัด ดการให้เสร็จโดยเร็ว จะได้รีบเอากลับไปคืนระหว่างที่เขาไม่รู้ตัว พอถึงตอนนั้นก็จะบอกกับเขาว่าเสื้อผ้าไม่สวยเลยหาเสื้อผ้าใหม่ให้เขาแทน อย่างน้อยก็ดีกว่าเขามารู้ว่าฉันโยน นเสื้อผ้าเขาทิ้งไป!”
ถ้าอย่างนั้น………จะได้ไม่ต้องขายหน้าด้วย
อันโหรวพยักหน้า ก่อนจะพูดตอบกลับอย่างสบาย ๆ “ฉลาดดี”
ฉีเซิ่งเทียนคงไม่รู้ตัวว่ามีอะไรแปลก ๆ เกิดขึ้นแน่ จือเซี๋ยวคงไม่ใช่ว่าตอนนี้เริ่มตกหลุมรักเขาแล้วหรอกนะ?
ช่างเถอะ ตอนนี้ช่วยเธอเลือกซื้อเสื้อผ้าน่าจะสำคัญที่สุด
หลังจากซื้อของในช่วงเช้าเสร็จ หลินจือเซี๋ยวก็เดินถือกระเป๋าเดินทางกลับมายังอพาร์ตเมนต์ของตัวเองทันที
เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ได้ยินเสียงกุกกักอยู่ภายในห้องครัว หรือว่าตอนนี้จะมีโจรเข้ามาในบ้าน?
เธอวางกระเป๋าเดินทางลงทันที ก่อนจะรีบเดินเข้าไปในห้องพร้อมกับหยิบไม้กวาดขึ้นมา ถ้าหากเป็นพวกขโมยจริง ๆ เธอคงไม่มีทางสู้ได้แน่ ๆ หรือว่าจะแอบหนีออกไปดี?
แต่นี่เป็นบ้านของเธอนะ โจรเข้ามาในห้องครัว หรือว่ามันจะหิวกันแน่?
เป็นหนูหรือเปล่า?
เมื่อเธอเดินเข้าไปในห้องครัวก็เหลือบมองเข้าไปด้านใน พลันเห็นฉีเซิ่งเทียนยืนอยู่ข้างในและกำลังมองดูหม้อกับกระทะที่อยู่ข้างหน้าด้วยความไม่พอใจ
เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขามาที่นี่ทำไม เธอก็รีบถอยหลังหนีทันที
ฉีเซิ่งเทียนได้ยินเสียงเคลื่อนไหว ก่อนจะรีบเดินออกมาด้วยความรวดเร็ว ก็มองเห็นหลินจือเซี๋ยวเพิ่งโยนไม้กวาดลงไปบนพื้น
“เซี๋ยวเซี๋ยว เธอ……..” เธอกลับมาทำไมกัน?
เมื่อครู่นี้คงไม่ใช่ว่าถูกเธอจับได้แล้วใช่ไหม?
แต่คนที่แอบหนีมาก็ควรเป็นเขาสิถึงจะถูก ทำไมเธอถึงรีบกลับมาที่นี่เร็วแบบนี้?
คงไม่ใช่ว่าเธอคิดว่าที่บ้านถูกขโมยเข้าบ้านหรอกนะ?
หลินจือเซี๋ยววางกระเป๋าเดินทางไว้ข้างหลัง แต่ทว่ากระเป๋าของเธอค่อนข้างใหญ่ มันเลยปกปิดไว้ไม่มิดเท่าไรนัก
“ผู้จัดการฉีกลับมาที่บ้านฉันตั้งแต่หัววันแบบนี้ มาทำอะไรงั้นเหรอ?” เธอแสร้งทำเป็นมองเขาอย่างไม่รู้เรื่อง “คุณหยุดอยู่ตรงนั้นเลย ไม่ต้องเดินมา!”
“เซี๋ยวเซี๋ยว เธอซ่อนอะไรไว้ด้านหลัง ฉันเห็นนะ เธอหยิบกระเป๋าเดินทางมาคิดจะทำอะไร?” และยังเป็นสีดำอีก
เธอเป็นผู้หญิงชอบกระเป๋าเดินทางสีดำขนาดใหญ่?
“ฉันชอบ! มันอยู่ในบ้านของฉัน ฉันเอาอะไรเข้ามาก็อันนั้นแหละ คุณสนใจด้วยเหรอ?” ทำไมเธอถึงได้ซวยแบบนี้นะ!
ฉีเซิ่งเทียนไม่คิดว่าเมื่อวานที่บอกจะล้างจานก็ไม่ได้ล้าง เวลาเข้างานจึงแอบกลับมา แต่ทั้งสองก็มาบังเอิญเจอกันอีก!
“เซี๋ยวเซี๋ยว วันหลังฉันจะคอยดูเธอ” เขาเดินมาหยุดอยู่ด้านหน้าเธอ ทำเหมือนว่าไม่ได้เกิดอะไรขึ้นและถามด้วยรอยยิ้ม “มื้อกลางวันกินอะไรดี?”
“อืม ฉันกินมาแล้ว ผู้จัดการฉี คุณไปกินเถอะค่ะ! ฉันจะเอากระเป๋าเดินทางไปเก็บแล้วก็จะกลับแล้ว” เธอจะกินได้ยังไง!
ไปซื้อเสื้อผ้ากับโหรวโหรวจนถึงตอนนี้ก็จะกลับไป ใครจะไปคิดว่า….
ผู้ชายคนนี้จะอยู่ที่นี่!
ซวยจริง ๆ
“ฉันช่วยเธอยก” ฉีเซิ่งเทียนทำท่าจะเดินไปด้านหลังของเธอเพื่อช่วยยกกระเป๋า
“ไม่ต้อง ฉันยกขึ้นไปเองได้ ไม่ต้องจริง ๆ” เธอจับกระเป่าเดินทางเอาไว้แน่น
มือของฉีเซิ่งเทียนสัมผัสด้านบน เมื่อเธอเห็นก็รู้สึกไม่ดี!
จึงนั่งไปบนนั้นและมองไปที่เขา “ผู้จัดการฉีคะ ของของฉันในตอนนี้ไม่ควรจับจะดีกว่าไหม? ส่วนในห้องครัวเดี๋ยวฉันเก็บกวาดเอง คุณไปกินข้าวเถอะ ปล่อยให้ท้องหิวแบบนี้คงจะไม่ดี”
เมื่อมองใบหน้าที่มีรอยยิ้มขึ้นมา ฉีเซิ่งเทียนก็รู้สึกว่ากระเป๋าเดินทางใบนั้นแปลก ๆ
“เธอคงไม่ได้คิดจะฆ่าคนและอำพรางศพหรอกนะ? ขอแค่ไม่ใช่ฉัน เธอต้องการใคร บอกฉันมา ฉันจะช่วยเธอเอง” กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ขนาดนี้ทำได้แน่นอน
ผู้จัดการฉี ในหัวสมองของคุณมันใหญ่เกินไปหรือยังไง?
“ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย ก็แค่จะเอามาใส่เสื้อผ้า” ทำไมเขายังไม่ไปอีกนะ!
ความกระตือรือร้นนั้นดูล้นหลามจริง ๆ
“เธอเก็บเสื้อผ้าไว้เยอะขนาดนั้นเลยหรือไง?” เขาเตะมันดู หลินจือเซี๋ยวก็ยังคงนั่งนิ่งอยู่แบบนั้นไม่เปลี่ยนท่า “แข็งแรงไม่เลว ดูท่าน่าจะสามารถรับน้ำหนักคนได้ห้าสิบกิโลแน่ ๆ”
“คุณนี่! ผู้จัดการฉี คุณนี่มันยังไง ระวังชีวิตของตัวเองไว้ด้วย” เขาอยู่ที่บ้านของเธอ แถมยังนอนอยู่บนเตียงของเธอ ถ้าเกิดฆ่าและยัดศพลงในกระเป๋า เป้าหมายแรกก็คงเป็นเขา า
“จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง เซี๋ยวเซี๋ยวของพวกเราออกจะน่ารักและใจดีขนาดนี้ จะทำใจฆ่าฉันได้ยังไงกัน” เขายิ้มพลางหัวเราะออกมา ดวงตาเหลือบมองไปทั่วทั้งตัวเธอ
ในกระเป๋าใบนี้มีอะไรอยู่กันแน่?
ถ้าหากเธอเพิ่งเอากลับมาจากข้างนอก ทำไมข้างในถึงไม่ว่าง?
หรือเซี๋ยวเซี๋ยวมีอะไรปิดบังเขาอยู่?
“ผู้จัดการฉี คุณกินข้าวแล้วหรือยัง? เพราะเมื่อคืนฉันเชื่อใจคุณมากขนาดนั้น อีกทั้งยังไม่ได้เก็บกวาดห้องครัวเลยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้มาอยู่กินเฉย ๆ ได้ยังไง ฉันขอบอกเลยนะ ไม่ได้ แล้ว ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงตอนนี้ คุณเก็บกระเป๋าออกจากบ้านฉันไปเลย!”
ขณะที่พูดเธอก็ลุกและดันกระเป๋าไปข้างหน้าเขา “ผู้จัดการฉี นี่กระเป๋าของคุณ”
“ไม่ใช่ของฉันสักหน่อย” ฉีเซิ่งเทียนเหลือบมองไปที่ตัวเธอ ก่อนจะมองลงไปที่ด้านล่างและเปิดซิปกระเป๋าขึ้น
หลินจือเซี๋ยวเห็นแบบนั้นก็รีบวิ่งออกไปข้างนอกทันที
แต่เขาจะปล่อยเธอให้หนีออกไปได้ยังไง ก่อนจะรีบจับตัวเธอกลับมาใกล้ ๆ ทันที
หลินจือเซี๋ยวที่ถูกจับได้ก็เดินตามเขาไปที่กระเป๋าอีกครั้ง ก่อนเขาจะเปิดมันออกมาดู
“นี่เธอให้ของขวัญกับฉันงั้นเหรอ?” จู่ ๆ ก็ใจดีกับเขาแบบนี้เลย?
เมื่อคืนก็เป็นฝ่ายเริ่มก่อน ตอนนี้ก็มาซื้อกระเป๋าให้เขาอีก
เมื่อเปิดดูเต็ม ๆ ก็เห็นเสื้อผ้าและกางเกงจำนวนไม่น้อย อีกทั้งแต่ละชิ้นแต่ละอย่างก็ล้วนเป็นของแบรนด์เนมทั้งนั้น ถึงแม้ว่าเสื้อผ้าบางตัวเขาจะไม่ได้ใส่มัน แต่มองแล้วก็ดูดี ไม่ใช่น้อย
เขาชอบมากจริง ๆ
หลินจือเซี๋ยวตกใจกับสายตาที่เขามองไปแบบนั้น
อย่ามามองด้วยสายตาที่ตื่นเต้นอย่างนั้นสิ อย่ามามองด้วยสายตาที่ซาบซึ้งแบบนั้น เธอก็แค่รู้สึกผิดและกำลังขอโทษเท่านั้นเอง
ทันใดนั้นตัวเธอก็ถูกเขากอดทันที ก่อนจะถูกประทับริมฝีปากที่อบอุ่นเข้าไป สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ล้วนแตกต่างจากที่เธอจินตนาการเอาไว้มาก
เธอคิดไม่ถึงเลยว่าผลลัพธ์จะกลายเป็นแบบนี้
“อืมมมมมมม…..” เธอพยายามจะใช้แรงผลักเขาออกไป แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี!