อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 452 ลาพักร้อน
ตอนที่ 452 ลาพักร้อน
ทันใดนั้นฉีเซิ่งเทียนก็เอียงมองหน้ามองเขาและพูดขึ้นว่า “พี่เฉิน ฉันขอลาพักร้อน!”
“ไม่อนุญาต”
“ทำไม?” เขาขยับชามที่บรรจุอาหารกลิ่นหอมฟุ้งที่วางอยู่ตรงหน้าเล็กน้อย “พี่เฉิน ดูสิว่าฉันติดสินบนพี่”
ถ้าหากว่าวันสองวันหรือสามสี่วันที่ฉีเซิ่งเทียนไม่มาและบอกว่าขอลาไม่นาน
และยังตามหาเขาอย่างจริงจังแบบนี้
บิ๊กบอสเอนหลังและมองของที่อยู่ในมือของเขาอย่างเย็นชา “ไปทำอะไร?”
“ฮันนีมูน!”
“……”
เขาแต่งงานแล้วงั้นเหรอถึงฮันนีมูน!
“ขอแต่งงาน แต่งงาน ฮันนีมูน คาดว่าช่วงเวลาคงจะอีกนานใช่ไหม?” เขาจะต้องทำสำเร็จทั้งหมดให้ได้ในครั้งเดียว!
“คนเดียวหรือสองคน?”
ฉีเซิ่งเทียนรีบยกมือขึ้นมาชู “สองคน!”
“ทำไมสองคน?” อันโหรวที่กำลังเดินเข้ามาในห้องได้ยินเสียงของฉีเซิ่งเทียน และก็ได้กลิ่นหม้อไฟลอยมาแตะจมูกจึงรีบหันตัวกลับทันที
“อ้วก…….”
ฉีเซิ่งเทียนรู้สึกว่ามีลมพัดผ่านเข้ามาตรงหน้า หลังจากนั้นเขาก็ไม่รู้เรื่องอะไรอีกเลย
ครั้งนี้เขาผิดจริง ๆ
จึงรีบเอาหม้อไฟนั้นออกไปอย่างเงียบ ๆ
“อ้วก….”
อันโหรวถือแก้วน้ำร้อนอยู่ในมือและมองผู้ชายที่ดูเครียดอยู่ตรงหน้า “ไม่เป็นไรแล้ว นายสบายใจได้”
สบายใจได้ยังไง!
ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าไม่ใช่ลูกของตัวเอง แต่เขาก็อดประหม่าไม่ได้!
ภายในใจนั้นยังคงหวังอยู่เล็กน้อยว่าอาจจะเป็นลูกของเขา
“เมื่อกี้ฉีเซิ่งเทียนพูดอะไรเหรอ?” เธอยิ้มพลางถาม
“ลาพักร้อนไปขอภรรยา” จิ่งเป่ยเฉินหยิบแก้วน้ำในมือของเธอมา “เอาอีกไหม?”
“ไม่แล้ว” เธอหัวเราะและมองไปที่ใบหน้าที่เย็นชาของเขา “คืนนี้จะไปลองชุดแต่งงานกันไม่ใช่เหรอ? ดีใจหน่อยสิ”
เขาดีใจอย่างมาก
บิ๊กบอสมองเธออย่างลำบากใจ เธอที่กำลังตั้งท้องและอาเจียนออกมา ดูไม่สบายมากเลย “วันหลังไม่ต้องมาบริษัทแล้ว”
“ไม่เอา!” เธออยู่ที่บ้านยิ่งน่าเบื่อกว่าเดิม
เขาโอบเอวของเธอ ท้องน้อยยังคงแบนราบเหมือนเคย น้ำเสียงเบาลงอย่างไม่รู้ตัว “เชื่อฟัง”
“ที่รัก ทุกคนต้องการอยู่เคียงข้างนาย! ช่วยกำจัดดอกไม้ริมทาง!”
“ฉันไม่ต้องการดอกไม้ริมทาง” เขามีเธอแค่ดอกเดียวก็พอแล้ว
“นายไม่ต้องการดอกไม้ริมทางนั่น แต่ดอกไม้พวกนั้นชอบยั่วนายไง! ฉีเซิ่งเทียนเองก็เพิ่งจะขอลาไปเมื่อครู่ ตอนที่ฉันไม่อยู่กับนายก็ไม่มีเลขาอยู่ งานเยอะก็ไม่สะดวก อยู่บ้านก็น่าเบื่อจะแย่” เธอบิดตัวทำท่าทางออดอ้อน
ถ้าหากว่าฉีเซิ่งเทียนไม่เอาของอะไรมาทำให้เธอต้องอาเจียนแบบนั้นก็คงจะไม่เป็นแบบนี้
เธอบอกไปหมดแล้ว เขาทำได้เพียงประนีประนอมอย่างไม่เต็มใจ “หลังจากนี้อยู่ให้ห่างฉีเซิ่งเทียนและหลินจือเซี๋ยว”
“รับทราบ!”
ผลสุดท้ายเรื่องขอลาของฉีเซิ่งเทียนก็ยังไม่สำเร็จ!
เพราะหลินจือเซี๋ยวไม่อยากจะสนใจเขาและมาทำงานปกติ ลาไปขอแต่งงานหรือฮันนีมูนอะไรนั่น เธอไม่สนใจสักนิดเดียว
“เซี๋ยวเซี๋ยว เย็นนี้ไปกินข้าวกัน”
“ไม่ไป!”
“มีเฉินเหยียน!”
“ยิ่งไม่ไป!”
ฉีเซิ่งเทียนหยิบกระเป๋าของเธอและปิดคอมพิวเตอร์ของเธอ “ไปเถอะ กินข้าว!”
“ผู้จัดการฉีคะ คุณจะเกินไปแล้วนะ มีสิทธิ์อะไร ทำไมฉันจะต้องไปกินข้าวกับคู่หมั้นของคุณ? อย่าลืมว่าเธอกำลังท้องอยู่นะ!”
เธอเสแสร้ง!
เพียงแค่ถามว่าเขาโสดไหม แต่กลับเมินเฉยว่าต่อให้เขาโสดแล้วเด็กในท้องจะทำยังไง?
ไม่กี่วันที่ผ่านมาได้รับความทุกข์ทรมานและโทษตัวเองอยู่ตลอด
“ไปหรือไม่ไป?” เขายิ้มและเอนตัวมาด้านหน้าพลางมองเธออย่างจริงจัง
“ไม่ ไป………”
วินาทีต่อมาเธอก็ถูกเขาอุ้มขึ้นมาและเดินออกไปด้านนอก
“ช่วยด้วย! โหรวโหรว! ช่วยฉันด้วย!”
“ช่วยด้วย! ถูกลักพาตัว!”
อันโหรวได้ยินเสียงดังออกมาจากด้านในห้องทำงาน มองหลินจือเซี๋ยวที่ถูกฉีเซิ่งเทียนอุ้มออกไป ทั้งคู่เดินผ่านหน้าเธอไปอย่างรวดเร็ว
“โหรวโหรว ช่วยฉันด้วย!” หลินจือเซี๋ยวยื่นมือออกมาราวกับว่าเห็นฟางเส้นสุดท้าย
“ขอให้สนุกนะ!” เธอโบกมือให้และหันตัวกลับเข้าไปในห้องทำงาน
หลินจือเซี๋ยวบ่นอยู่ภายในใจ ‘โหรวโหรวเปลี่ยนไปแล้ว เธอไม่ใช่โหรวโหรวคนที่รักและอยากจะช่วยเหลือผู้อื่นอีกต่อไป!’
เมื่อเดินเข้าไปในลิฟต์ ฉีเซิ่งเทียนก็ปล่อยเธอลง
“จำเป็นต้องไปเหรอ? ให้ฉันไปดูพวกนายพลอดรักกัน หรือว่าให้เธอมาดูพวกเรารักกัน?” พวกเขาเสน่หากันงั้นเหรอ?
ไม่มีเลยสักนิดเดียว!
“เซี๋ยวเซี๋ยว ดีใจที่เธอยอมรับ”
“ฉันแค่พูดไปเรื่อย นายไม่ต้องจริงจัง”
เธอหยิบกระเป๋าของเธอมาจากมือของเขา ช่างเถอะ ไม่ช้าก็เร็วยังไงก็ต้องเผชิญหน้ากัน ก็แค่เร็วกว่าหน่อย
เมื่อถึงสถานที่นัดเจอกัน หลินจือเซี๋ยวก็พบว่าไม่ใช่เฉินเหยียนคนเดียว ข้างเธอมีผู้ชายอีกคนนั่งอยู่ด้านข้าง ผู้ชายคนนั้นเธอเคยเจอมาก่อน คุณฉี!
เธอคิดจะทำอะไร?
มาพบคนในครอบครัว!
เธอหันตัวจะเดินหนี แต่ก็ถูกฉีเซิ่งเทียนดึงเอาไว้ในอ้อมกอดซะก่อน “เธอจะไปไหน?”
“ฉัน…..” เธอพูดได้ไหมว่าเธอไม่อยากเข้าไป
“ไม่ช้าก็เร็วยังไงก็ต้องเจอ” ฉีเซิ่งเทียนดึงเธอเดินไปด้านหน้า
แต่ว่าเธอยังไม่ได้ตัดสินใจเลยว่าจะอยู่ด้วยกันกับเขา!
มาเจอคนในครอบครัวแบบนี้
มันเร็วเกินไปหน่อยไหม?
“ฉีเซิ่งเทียน นายนี่หยิ่งผยองเป็นใหญ่เกินไปหรือเปล่า?” เธอกระซิบข้างหู
“หรือว่าเรื่องของพวกเรา ฉันจะเป็นใหญ่ไม่ได้?” ฉีเซิ่งเทียนขมวดคิ้วและยิ้มอย่างลำพองใจ
ถ้าเขาเป็นใหญ่สิผี!
หลินจือเซี๋ยวถูกเขาลากไปนั่งลงโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะยิ้มทักทาย “สวัสดีทั้งสองท่าน”
“นั่งเถอะ!” คุณฉีพูดอย่างเย็นชา
ฉีเซิ่งเทียนส่งเมนูอาหารให้เธอ “อยากกินอะไรก็สั่งเอาเลย พี่สะใภ้เลี้ยง!”
พี่สะใภ้?
หลินจือเซี๋ยวเงยหน้ามองเฉินเหยียนที่นั่งอยู่ตรงข้าม นี่มันพัฒนาไปเป็นพล็อตเรื่องไหนกัน?
น้ำเน่าเกินไปหน่อยไหม?
“เสี่ยวเทียน นายพูดไร้สาระอะไร!” คุณฉีพูดด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง
“อย่าโมโหไป! โกรธฉันทำไม อย่าทำให้เซี๋ยวเซี๋ยวตกใจสิ” เฉินเหยียนมองเธอด้วยรอยยิ้ม “เสี่ยวเทียนเทียนไม่รู้เรื่อง เซี๋ยวเซี๋ยวคงลำบากแย่ ต่อไปนี้ก็ฝากดูแลเสี่ยวเทียนเทียนของพวกเราด้วยนะ!”
เป็นพี่สะใภ้ของเขา?
แน่นอนว่าเธอคงไม่ได้ดูละครน้ำเน่าตอนแปดโมงเช้าหรอกใช่ไหม?
“ทั้ง ๆ ที่ฉันก็ดูแลเธออยู่แล้วใช่ไหม เซี๋ยวเซี๋ยว?” ฉีเซิ่งเทียนเอียงหน้ามองเธอพลางยิ้ม
งั้นเหรอ?
เขาไม่ได้รังแกเธอก็ถือว่าขอบคุณเทวดาฟ้าดินอย่างมาก ส่วนเรื่องดูแลเธอ?
หลินจือเซี๋ยวไม่ได้ตอบอะไรกลับ ทำเพียงนั่งสั่งอาหารเงียบ ๆ ตอนนี้เธออยากรีบกินให้เสร็จจะได้รีบกลับไป
ระหว่างมื้ออาหาร หลินจือเซี๋ยวมองเฉินเหยียนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามที่กำลังดื่มไวน์ด้วยสายตาที่สงสัยว่าทำไมเธอดื่มไวน์?
ไม่คิดว่าเธอจะดื่ม!
จู่ ๆ หลินจือเซี๋ยวก็ยื่นมือไปคว้าแก้วไวน์ของเธอ “คุณดื่มไวน์ไม่ได้นะ!”
เฉินเหยียนสำลัก พลางมองมือของเธอที่ว่างเปล่า คำพูดของเธอทำให้อารมณ์ดีอย่างมาก
เธอจงใจเหลือบไปมองฉีเซิ่งเทียนที่อยู่ด้านข้าง “อ้อ เธอไม่พูดฉันก็ลืมไปเลย เสี่ยวเทียนเทียน เหมือนว่าฉันจะดื่มไวน์ไม่ได้!”
ฉีเซิ่งเทียนยังไม่ได้อธิบายให้หลินจือเซี๋ยวเข้าใจเหรอ?
ไม่มีประโยชน์!
“เธอไม่ได้ท้อง ฉันไม่เคยสัมผัสโดนแม้แต่ปลายเส้นผมของเธอ เลิกเสแสร้งได้แล้ว!” วันนี้พาพวกคุณมาก็เพื่อจะมาคุยให้ชัดเจน
ไม่อย่างนั้นตามนิสัยของหลินจือเซี๋ยว เรื่องขอแต่งงานเธอไม่มีทางเห็นด้วยแน่ ๆ
หากความเข้าใจผิดนี้ไม่ถูกอธิบายให้กระจ่าง เขาก็คงหมดหนทางเดินหน้าต่อได้อย่างราบรื่น
“เสี่ยวเทียนเทียน นายกินแล้วไม่ยอมรับ ตอนแรกนายบอกจะขอฉันแต่งงานนะ!” เฉินเหยียนรู้สึกขบขันจึงแกล้งเล่นอีกครั้ง น่าสนุกจริง ๆ
หลินจือเซี๋ยววางแก้วไวน์ลง ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว!