อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 458 สิ่งที่ฉันเสียใจที่สุดก็คือเธอ
ตอนที่ 458 สิ่งที่ฉันเสียใจที่สุดก็คือเธอ
“เดิมทีฉันคิดจะบอกตอนวันแต่งงาน……ว่าเป็นลูกนาย แต่…….” แต่ตอนนี้มันไม่มีอีกแล้ว!
“โหรวโหรว เด็กไม่อยู่แล้วฉันเองก็เสียใจ แต่สิ่งที่ฉันเสียใจที่สุดก็คือเธอนะ!” เพราะตอนนี้ถ้าหากเธอเป็นแบบนี้ สุขภาพของเธอก็มีแต่จะแย่ลง
หมอบอกว่าเลือดของเธอถูกขับออกมามาก เพราะงั้นเลยจำเป็นต้องพักผ่อนเยอะ ๆ ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดผลกระทบตามมาทีหลังได้
เธอค่อย ๆ สูดลมหายใจเข้าอย่างช้า ๆ ภายในหัวใจของเธอนั้นยังเจ็บปวดอยู่ เธอไม่ใช่แม่ที่ดี ดูแลลูกน้อยของตัวเองก็ไม่ดี
ภายในห้องผู้ป่วยตอนนี้เงียบสงบ ตอนนี้มีเพียงเสียงอันโหรวที่พยายามสูดลมหายใจเข้า
หลังจากที่ผ่อนคลายอยู่นาน สักพักก็หยุดสำลักลมหายใจ
จิ่งเป่ยเฉินดูแลเธอให้กินอะไรลงไปบ้าง ก่อนจะพิงตัวนอนอยู่บนเตียงอีกครั้งหนึ่ง ใบหน้าเล็ก ๆ ซีดขาวขึ้นมาก ดวงตายังคงแดงก่ำ ริมฝีปากไม่มีร่องรอยเลือดใด ๆ
จิ่งเป่ยเฉินนอนไม่หลับทั้งคืน ใบหน้าของเขาตอนนี้ไม่ต่างกับเธอมากเท่าไรนัก ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า
“ดูสภาพนายสิ เสื้อผ้าก็ไม่เปลี่ยนเลยสักนิด!” อันโหรวมองดูตัวเขาที่ยังคงสวมเสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยจุดสีแดงเปรอะเปื้อนไปหมด ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอตอนนี้โกรธอย่างเห็นได้ชัด
บิ๊กบอสก้มหน้าลงมองที่เสื้อผ้าของตัวเอง ก่อนจะพูดเบา ๆ ว่า “ไม่หล่อเหรอ?”
“หล่อ สามีหล่อที่สุดแล้ว!”
“ตาถึงนะ” เขาเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอ “ไว้รอหยางหยางกับหน่วนหน่วนมา เรื่องของเด็กพวกเขาคงยังไม่รู้”
“ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องรู้อยู่ดี ไม่เป็นไรหรอก” แม้ว่าเด็กจะไม่มีอีกแล้ว ถึงอย่างไรเธอก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้อยู่ดี
“พวกเรามีอีกคนก็ได้นะ” เขายิ้มมุมปากขึ้นมา แต่อาการแพ้ท้องของเธอก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของเขา จึงทำให้เกิดอาการลังเลขึ้นมาอีกครั้ง “แต่ไม่ต้องก็ได้นะ”
“ไม่ต้องการจริงเหรอ? งั้นหลังจากนี้ฉันไม่ให้เกิดอีกแล้วนะ!” เมื่อมองดูใบหน้าที่จริงจังของเขาก็เผยรอยยิ้มออกมา
“ในหัวเล็ก ๆ ของเธอคิดอะไรอยู่? พักผ่อนเยอะ ๆ นะ นอนหลับดี ๆ” เขาต้องรีบออกไปจัดการกับคนที่ทำแบบนี้กับเธอ
“ฉันคิดว่าในที่สุดนายก็รู้จักยับยั้งชั่งใจได้แล้วนะ ต่อให้ไม่มีลูกน้อยแล้วก็ตาม” เธอเฝ้าดูเขาห้ามจิตใจตัวเองมาเดือนกว่าแล้วจึงพูดออกไป
“ฉันคิดว่าเธอน่าจะพักผ่อนให้เยอะ ๆ นะช่วงนี้”
“ไม่ต้องหรอก!”
“เมื่อคืน…..” เธอมองดูใบหน้าของเขาที่ขยับเข้ามาใกล้พลางพูดเบา ๆ ออกไป เมื่อคืนนี้มีใครอีกคนที่เธอไม่รู้ว่าเป็นใคร
แต่ที่แน่ ๆ คงไม่ใช่เขา!
เธอจำได้ว่าเมื่อคืนตอนที่กำลังดูงานออกแบบอยู่กับถังซือเถียน ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตัวเองไม่ได้สติและมึนหัวเล็กน้อย ถังซือเถียนจึงพาเธอไปพักผ่อน หลังจากนั้นก็รู้สึกว่าหัวของ งตัวเองหนักอึ้งมากขึ้นเรื่อย ๆ และก็ไม่ได้สติอะไรอีกเลย
แต่พอตื่นขึ้นมาก็รู้สึกว่าร่างกายของตัวเองร้อนผิดปกติ มันเหมือนกับความรู้สึกเมื่อหกปีก่อนไม่มีผิด
ร่างกายก็เริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ คิดอยากจะเข้าใกล้คนที่อยู่ข้าง ๆ …..
เมื่อจิ่งเป่ยเฉินนึกถึงสภาพตอนที่เห็นเธอเมื่อคืน ดวงตาของเขาก็เผยอารมณ์อำมหิตขึ้นมา ผู้หญิงของเขา ลูกของเขา!
“โหรวโหรว พักผ่อนเยอะ ๆ เรื่องเมื่อคืนเดี๋ยวฉันจะจัดการให้เอง” จิ่งเป่ยเฉินลูบใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอ ก่อนจะพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำเบา ๆ “นอนเถอะ ฉันจะอยู่ตรงนี้เอง”
“อืม…..” ครั้งนี้เธอรู้สึกเหนื่อยล้ามากจริง ๆ
การแท้งลูกมันเจ็บปวดมาก ๆ มันรู้สึกเหมือนว่าตัวเองได้สูญเสียอะไรบางอย่างไป ทำให้ตัวเองอ่อนแอ
โชคดีที่เมื่อคืนเขาปรากฏตัวขึ้น ไม่อย่างนั้นเขาเองก็ไม่รู้เลยว่าตัวเองจะทำอะไรลงไปบ้าง
ข้าง ๆ กายมีกลิ่นที่คุ้นเคยอยู่เลยทำให้อันโหรวหลับตาลงและเข้าสู่ห้วงแห่งการหลับใหลไปทันที
ภายในห้องพักที่เงียบสงบ เมื่อได้ยินเสียงลมหายใจของเธอ จิ่งเป่ยเฉินก็นั่งลงมองสักพักหนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปจากห้อง
……
ฝีเท้าที่มั่นคงค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ แต่ละย่างก้าวราวกับจะผลักเธอลงไปในขุมนรก
ตอนนี้ถังซือเถียนถูกมัดเอาไว้ บรรยากาศภายในห้องผ่าตัดเต็มไปด้วยกลิ่นของยา ทั้งเงียบและน่ากลัวมาก
เธอทำผิดแล้วจริง ๆ
เธอไม่ควรวางแผนทำแบบนั้นกับอันโหรวและพี่ชายของเธอเลย
เธอแค่คิดว่าถ้าหากอันโหรวกับพี่ชายอยู่ด้วยกัน เธอจะสามารถอยู่กับพี่เฉินได้ แต่เธอไม่รู้มาก่อนจริง ๆ ว่าอันโหรวกำลังตั้งท้องอยู่
เมื่อคืนเธอถูกจับเอาไว้ จากปากของฉีเซิ่งเทียนทำให้รู้มาว่าอันโหรวออกมาจากห้องผ่าตัดแล้ว และเด็กก็ไม่ได้อยู่กับเธออีกแล้ว
เธอแท้งงั้นเหรอ?
เพราะว่าเธอให้อันโหรวกินยานั่นหรือเปล่า?
ในขณะนั้นเธอก็เริ่มรู้ตัวแล้วว่าเธอต้องตายแน่ ๆ
เดิมทีเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจิ่งเป่ยเฉินจะกลับมา อีกทั้งไม่รู้อีกด้วยว่าจิ่งเป่ยเฉินจะหาอันโหรวเจอ ตราบใดที่มีเวลากันทั้งคืน พี่ชายกับอันโหรวจะต้องเกิดเรื่องแบบนั้นกันแน่ ๆ ๆ และคงไม่มีทางที่จิ่งเป่ยเฉินจะอยู่กับอันโหรวอย่างแน่นอน
แต่ทำไมทุกอย่างมันถึงได้เป็นแบบนี้!
ตอนนี้เธอถูกประกบด้วยบอดี้การ์ดสองคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยสีหน้าที่จริงจัง ไฟในห้องผ่าตัดสว่างไสวมากในตอนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนเตียงผ่าตัดที่ตอนนี้เปิดไฟถึงสี่ดวง มีคราบเลื อดเกาะเป็นก้อน ๆ อีกทั้งอุปกรณ์ผ่าตัดก็มีเลือดเปรอะเปื้อนอีกด้วย
เมื่อเห็นภาพเหล่านี้ ภายในใจของเธอก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที เธอกลืนน้ำลายไปหลายอึก ก่อนจะมองไปที่เครื่องมือและอุปกรณ์เย็น ๆ ที่แผ่รังสีอำมหิตแปลก ๆ
ว่ากันว่า…….เมื่อคืนนี้อุปกรณ์พวกนั้นเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ผ่าตัดอันโหรว
และได้นำเด็กในท้องที่ยังไม่โตออกจากท้องไป
ตอนนี้เธอถูกขังอยู่ภายในห้องผ่าตัดแห่งนี้ จิ่งเป่ยเฉินคิดจะทำอะไรกับเธอกันแน่?
เธอยังคงจำความรู้สึกตอนที่ฉีเซิ่งเทียนพาเธอเข้ามาในนี้ได้เป็นอย่างดี ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกสงสารและก็รู้สึกรังเกียจแปลก ๆ ……
เมื่อประตูห้องผ่าตัดเปิดออก ชายที่เป็นผู้นำเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่เย็นชา ทุกคนต่างก็มองไปที่เธอ สายตาเต็มไปด้วยความเย็นชาที่หมางเมิน ไร้ซึ่งความเห็นใจ มองด้วยความรังเกียจ และเผยอารมณ์ที่เกลียดชังออกมา
ทุกอย่างเป็นเพราะเธอไม่รู้ประสีประสา ทำให้ลูกของอันโหรวต้องหายไป
เธอควรถูกลงโทษ เป็นเพราะทุกอย่างที่เธอทำมันผิด ตอนนี้ภายในห้องผ่าตัดเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หนาวเย็นและน่าหวาดกลัว
ตอนนี้ภายในใจเธอเต้นโครมครามด้วยความวิตกกังวล เธออยากจะขอความช่วยเหลือออกมา แต่ปากก็ถูกปิดแน่น ไม่รู้จะตะโกนอะไรออกไปดี
ตั้งแต่เมื่อคืนเธอไม่ได้เห็นพี่ชายของตัวเองเลย คนเดียวที่จะช่วยเธอได้ตอนนี้ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหนแล้ว
กลายเป็นว่าตอนนี้เธอไม่มีใครที่จะช่วยเหลือเธอได้เลยสักคน
เธอสังเกตเห็นเสื้อผ้าของพวกเขาที่ตอนนี้เต็มไปด้วยคราบเลือด มันคล้ายราวกับดอกไม้สีแดง เปรอะเป็นจุด ๆ ดูแล้วมีเสน่ห์แปลก ๆ
แต่นั่นคือร่องรอยของเลือดที่ไหลออกมา……….
ของอันโหรว!
ชายคนหนึ่งที่ยังไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าเลยตั้งแต่เมื่อคืน เมื่อมาถึงในห้องนี้เขาก็เดินเข้าไปหาเธอ และก็ทนรอที่จะแก้แค้นไม่ไหวแล้ว
“พี่เฉิน นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ตั้งใจให้แบบนั้น ฉันไม่รู้ว่าพี่โหรวโหรวตั้งท้องอยู่ ปล่อยฉันไปเถอะ!” เธอรีบเอ่ยขอโทษและขอร้องความเมตตา ร่างกายของเธอสั่นเทาเบ บา ๆ
ตั้งแต่เมื่อคืนเธอก็อยู่ที่นี่ ห้องน้ำก็ไม่ได้เข้าเลยสักนิด เมื่อตอนนี้ได้เห็นใบหน้าที่เย็นชาของเขามองมา ตัวเธอก็เริ่มหวาดหวั่น
ขาของเธอตอนแรกถูกตรึงเอาไว้ ก่อนจะมีคนนำเชือกมามัดขาของเธอไว้และจับแยกออกจากกัน ตอนนี้สภาพของเธอถูกแหกแข้งแหกขาจนหมด
“ลูกของฉันหายไปแล้ว แล้วที่เธอพูดมาคือไม่ได้เจตนาอย่างนั้นเหรอ?” จิ่งเป่ยเฉินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา นัยน์ตาสีดำมองมาที่ตัวเธอ
ถังซือเถียนตกใจมาก น้ำเสียงของเขาราวกับยมทูตที่จะมาพรากวิญญาณ อีกเพียงไม่กี่วินาทีต่อจากนี้ตัวเธอคงได้ถูกพรากชีวิตไปแน่ ๆ
“พี่เฉิน ฉันแค่ไม่รู้เรื่อง ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันไม่ทำร้ายพี่โหรวโหรวแน่นอน ฉันไม่รู้ว่าเธอตั้งท้อง” ถ้าหากเธอรู้ว่าอันโหรวตั้งท้องละก็ เธอคงไม่ทำแบบนั้นแน่ ๆ
แค่เพราะการที่เธอไม่รู้ อีกทั้งเรื่องตั้งท้องพวกเขาจะปกปิดไปทำไมกัน?
ถ้าหากพูดเรื่องพวกนี้มาก่อนหน้านี้ละก็ ถ้าหากบอกพวกเขา เธอคงไม่มีทางทำเรื่องโง่ ๆ แบบนี้แน่
“ช่างทำเรื่องโง่เขลามากนัก” จิ่งเป่ยเฉินยืนตัวตรง ก่อนจะมองดูเธอที่กำลังสั่นไปทั้งตัว
“พี่เฉิน ฉันขอร้อง พี่ช่วยเห็นแก่หน้าพี่ชายฉันได้ไหม ช่วยปล่อยฉันไปทีเถอะนะ! ฉันขอสาบานเลยว่าจะไม่สร้างปัญหาอีกแล้ว! ฉันจะจากไปไกล ๆ และไม่กลับมาอีก จะไม่ปรากฏตัวให้พี่ โหรวโหรวเห็นอีกด้วย!” ตอนนี้เธอได้แต่ต้องพึ่งพาตัวเองแล้ว
“พี่เธอเหรอ เหอะเหอะ” จิ่งเป่ยเฉินเค้นน้ำเสียงเย็นชา ในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น