อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 161 ไม่เข้าใจภาษาคน
ตอนที่ 161 ไม่เข้าใจภาษาคน
เช้าวันอาทิตย์ ทุกคนฝึกกำลังตามปกติ
เยี่ยอิ่งพากลุ่มเยาวชนเข้ามา
เด็กผู้ชายผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่หกปีถึงสิบห้าปีเหล่านี้ต่างมองด้วยความอยากรู้อยากเห็น
พอเห็นผู้ใหญ่กับเด็กที่นั่งกันอยู่เต็มห้อง ต่างก็อดระแวงไม่ได้
เยี่ยอิ่งขมวดคิ้ว
สติปัญญาของเด็กน้อย ต่อให้สูงแค่ไหนก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ
แม้พวกเขาจะมีความมุ่งมั่นสูงก็ตาม
เฉิงซิ่นใช้ไหล่สะกิดเยี่ยอิ่ง “ไหนว่าเหาะเหินเดินกำแพงได้ไง แบบจอมยุทธ์ในหนังกำลังภายในน่ะ!”
“ดูถูกกันชัดๆ ! เหมือนที่ไหนกันเล่า เก่งกว่าในละครอีก! นายดูเอาเองแล้วกัน! ฝีมือของฉันกับยัยฉลาดเป็นกรดนั่น…”
ตี้อู๋เปียนที่อยู่ข้างๆ หันไปจ้องเขาเขม็ง
“…เทียบกับหมอเทวดาน้อยคนนั้น มีแต่จะถูกกดให้จมดินไม่เหลือซากในเสี้ยววินาที!”
ตี้อู๋เปียนพยักหน้าด้วยความพอใจ “อืม”
เยี่ยอิ่ง “…” เขาก็แค่ถ่อมตัวเหอะ!
จมดินในเสี้ยววินาทีมันก็จริงหรอก แต่ซากก็ยังเหลืออยู่บ้าง!
ดวงตาของเฉิงซิ่นเปล่งประกาย
“พี่ ผมขอนับถือหมอเทวดาน้อยเป็นอาจารย์ได้ไหม”
“ไม่ได้ เธอยุ่งมาก ไม่ว่างสอนนาย”
และเขาก็ไม่อยากให้อยู่ด้วยกันตามลำพังสองต่อสองด้วย
“ก็ได้ งั้นผมไปฝากตัวเป็นศิษย์กับอาจารย์ของเธอก็ได้ แบบนี้ผมก็จะได้เป็นศิษย์น้องของเธอแล้ว”
ตี้อู๋เปียนพูด “ฝันไปเถอะ! นายไม่มีเวลาอยู่ที่หมู่บ้านเถาหยวนซานนานนักหรอก!”
ไม่อนุญาตให้ใกล้ชิดกันเป็นอันขาด!
“…งั้นผมไปขอคัมภีร์ฝึกยุทธ์สักเล่มคงได้ใช่ไหม!”
“ฉันจำได้หลายเล่มแล้ว กลับไปเดี๋ยวสอนให้”
“…พี่ ผมไม่กล้าให้พี่สอนหรอก กลัวถลำลึกจนกลายเป็นคนสติฟั่นเฟือน…”
เยี่ยอิ่งหัวเราะเสียงดัง
ตี้อู๋เปียนมองค้อนใส่เขา
หลังจากฝึกกำลังตอนเช้าเสร็จ ตี้อู๋เปียนก็แนะนำกลุ่มเด็กอัจฉริยะให้ทุกคนในลานบ้านรู้จัก
ไม่ได้ปิดบังว่าเด็กกลุ่มนี้แต่ละคนมีไอคิวเกินสองร้อยทั้งนั้น เป็นเด็กอัจฉริยะที่ประเทศบ่มเพาะเป็นพิเศษ
ผู้อาวุโสตระกูลถังอดถอนหายใจไม่ได้ “เยาวชนเก่งประเทศแข็งแกร่งสินะ!”
“ระยะนี้ก็ขอรบกวนคุณปู่ทั้งสามท่านด้วยนะครับ”
ซย่าโหวโซ่วยิ้มพลางพูด “จะสอนคนเดียวหรือสอนเป็นกลุ่มก็คือสอนเหมือนกัน”
คนกลุ่มนี้ที่ต้องฝึกพิเศษต่างมากันหมด ยกเว้นเย่ว์หลั่งที่พาห้าคนนั้นของเผ่าไปชมการฝึกทหารของหน่วยป้องกันชายแดน
ที่เย่ว์หลั่งต้องออกไปก็เพราะตี้อู๋เปียนแอบไปบอกให้พ่อสั่งออกไป
มีพ่อที่ติดลูกสาวเป็นพิเศษแบบนี้อยู่ เขาอย่าได้หวังจะคุยกับซาลาเปาน้อยเลย
พอทำความรู้จักกันแล้วก็แยกย้าย กลับไปกินอาหารเช้าที่บ้านที่ตัวเองอาศัยอยู่
หลังกินอาหารเช้าเสร็จ มู่เถาเยาก็ถามผู้อาวุโสตระกูลถังถึงความรู้สึกหลังจากกินดอกไม้สองชีวิต จากนั้นก็คุยกันเรื่องวิชาพิษ
หยวนเหยี่ยกับถังถังไปทำยาถอนพิษที่ห้องข้างๆ
อาจารย์เล็กพากลุ่มลูกศิษย์ไปเด็ดลูกท้อ เย็นนี้จะได้ให้มู่เถาเยาเอากลับเมืองเย่ว์ตู
เป่ยซีกับอาจารย์แม่เล็กดื่มน้ำชาพูดคุยกับอาจารย์ซังและอาจารย์สวี
ซย่ามั่ว ซย่าอวี่ ซูจื่อหนิง พาซังหลิ่นหราน ซย่าโหวจิ่งเหยา ซย่าโหวข่ายเกอ ถังเซิ่นอวี๋ ไปเก็บผลไม้เล่นที่สวนผลไม้ตรงตีนเขา
ตี้อู๋เปียนไปดูดอกฉยงฮวากับดอกเถียนซินที่สวนด้านหลังตามลำพัง
นับตั้งแต่ดอกฉยงฮวารู้จักกับดอกเถียนซิน มันก็ไม่อยากไปจากที่นี่อีก เหมือนลูกได้เจอแม่ ทำเอาตี้อู๋เปียนหมดคำจะพูด
‘ความรักที่มีให้แม่’ มันออกจะเยอะเกินไปหน่อยนะ!
หรือพวกมันจะเป็นวงศ์ตระกูลเดียวกันจริงๆ
“เสี่ยวฉยง หมอลู่ไปอยู่ที่ไหนแล้ว”
ดอกฉยงฮวาโยกตัว “ตอนนี้ไปข้างในอีกแล้ว”
“…มันเรื่องอะไรกัน เธอไม่ได้เตรียมกลับออกมาแล้วเหรอ”
“ข้าจะรู้ได้ยังไง ข้าสื่อสารกับเธอโดยตรงไม่ได้เสียหน่อย”
“งั้นจับตาดูเธอไว้ให้ดีนะ ห้ามคลาดกันล่ะ”
“เป็นไปไม่ได้! ข้าเรียกใช้ต้นไม้ทุกต้นในป่าได้หมด!”
“อย่าโม้!”
ดอกฉยงฮวาชักโมโห “เจ้านาย ข้าพูดจริงนะ!” ต่อไปต้องได้แน่นอน!
ดอกเถียนซินอยู่ในที่ของตัวเองเงียบๆ มองข้ามพวกเขาอย่างสิ้นเชิง
“เสี่ยวฉยง ขอถามหน่อยสิ เมื่อวานพวกซาลาเปาน้อยเกิดเรื่องอะไรขึ้นในป่าเหรอ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรเธอไม่มีทางกลับมาเย็นขนาดนั้นหรอก ไม่มีทางทำให้พวกผู้ใหญ่ในบ้านเป็นห่วงเพราะมัวแต่เก็บผลไม้หรอก”
“ได้ เจ้านายรอสักครู่”
ตี้อู๋เปียนไปเก็บมะม่วงมาหนึ่งผล กินระหว่างรอ
พอเขากินเสร็จล้างมือกลับมา ดอกฉยงฮวาก็สืบได้ความมาแล้ว
“เจ้านาย พวกซาลาเปาน้อยไปเจองูเหลือมป่ามา แถมยังเป็นตัวที่ใหญ่ที่สุด หนักพันกว่ากิโลได้”
ตี้อู๋เปียนรีบถามต่อ “งั้นเธอได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า” เขาตกใจเหงื่อแตกแล้วตอนนี้
“เจ้านาย ล้อเล่นหรือเปล่า พี่ซาลาเปาน้อยออกจะเก่งปานนั้น! เธอจะบาดเจ็บได้ยังไง!”
นับตั้งแต่มาหมู่บ้านเถาหยวน ดอกฉยงฮวาก็ยินดีเริ่มเรียกว่าพี่แล้ว
“เธอสู้กับงูเหลือมป่าหรือเปล่า พวกปู่ซย่าโหวล่ะ”
“ไม่ได้สู้กัน ปู่ซย่าโหวพาพี่ถังถังกับผู้อาวุโสออกไปหลบ พี่ซาลาเปาน้อยล่องูเหลือมป่าออกไปอีกทาง”
“ทำไมเธอไม่ไปหลบด้วยกันล่ะ”
“ข้าจะไปรู้หรือ ต้นไม้อื่นๆ ก็ไม่เข้าใจภาษามนุษย์ เล่าให้ข้าฟังไม่ได้ ก็เลยไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน”
ตี้อู๋เปียนอยากบีบคอมันจริงๆ
“…จากนั้นล่ะ”
“พี่ซาลาเปาน้อยล่องูเหลือมป่าออกไปเสร็จก็กลับมาที่เดิม ต่อมาปู่ซย่าโหวก็พาพี่ถังถังกับผู้อาวุโสกลับมา พวกเขาเดินเส้นทางเดิมต่อ ไปเก็บผลใจเขียว”
ตี้อู๋เปียนเข้าใจแล้ว
ซาลาเปาน้อยน่าจะรู้ว่าทางนั้นมีผลใจเขียว ก็เลยต้องล่องูเหลือมไปทางอื่น
งูเหลือมป่าตัวใหญ่ขนาดนั้นจะต้องเทอะทะมากแน่นอน ไม่มีทางไล่ตามซาลาเปาน้อยได้
แต่สาวน้อยคนนี้ก็ใจกล้าเหลือเกิน
เด็กสาวคนอื่นเจองูแบบนั้นมีแต่จะตกใจตาย!
แต่ไม่เพียงแต่เธอจะไม่หลบ ยังเข้าไปเผชิญหน้าด้วย
“เสี่ยวฉยง มีข่าวของดอกไม้สองชีวิตกับหญ้าพิษชีวิตบ้างไหม”
“…เจ้านาย ยังไม่มี เจ้านายต้องใจเย็นๆ เดี๋ยวก็เจอ ป่าใหญ่ขนาดนั้น ถ้าจะให้หาทุกซอกทุกมุมต้องใช้เวลานานมาก”
เอ่อ หลักๆ คือทุกคนไม่รู้จักมัน ไม่ค่อยเชื่อฟังมัน ดังนั้น…มันต้องใช้เวลาในการตีสนิทกับชาวบ้านหน่อย…
“อืม แกใส่ใจหน่อยก็แล้วกัน สุดสัปดาห์หน้าฉันจะกลับเมืองหลวง แกอยู่ที่นี่ไปแล้วกัน ใส่ใจเรื่องหมอลู่เป็นพิเศษด้วยล่ะ ระหว่างหมอลู่กับดอกไม้สองชีวิตกับหญ้าพิษชีวิต หมอลู่ต้องมาก่อน”
“รับทราบ หมอลู่เป็นคนตัวใหญ่ขนาดนั้น รับรองไม่คลาดกันแน่นอน”
“ฉันกลับเมืองหลวงการส่งข่าวคงต้องใช้เวลาสักระยะ ติดต่อกันโดยตรงไม่ได้ ดังนั้นแกต้องส่งข่าวผ่านต้นลิ้นมังกรในห้องฉันล่วงหน้า ส่งข่าวให้มากหน่อยยิ่งดี ห้ามคลาดกันเป็นอันขาด”
“รู้แล้วๆ พี่ซาลาเปาน้อยให้ความสำคัญเรื่องหมอลู่มาก ข้าไม่มีทางปล่อยให้คลาดสายตาแน่นอน”
ดอกฉยงฮวาใช้ใบตีลำต้นของตัวเองเพื่อเป็นการรับรองต่อเจ้านาย
ตี้อู๋เปียนก็ยังคงไม่ค่อยวางใจ
ดอกฉยงฮวายังเด็กอยู่ ติดเล่นได้ง่าย
ถ้าไม่มีเขาคอยจับตาดูอยู่ตลอด กลัวว่ามันเจอต้นไม้พิเศษอะไรเข้าก็จะไปเล่นจนลืมหน้าที่
แต่ดอกฉยงฮวาไม่ใช่คน ใช้คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ไม่เป็น
น่ากลุ้มใจจริงๆ
“เจ้านาย วางใจให้ข้าทำงานได้เลย”
“อืม”
ไม่วางใจก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี จะเอามันไปต้มยำทำแกงก็ไม่ได้
“เสี่ยวฉยง ในบรรดาต้นไม้ที่แกรู้จักในป่ามีพวกสมุนไพรอะไรบ้าง อย่างโสม หลิงจือ เหอโส่วอู มีเยอะหรือเปล่า”
“เยอะสิ! มีทุกอย่างเลย! เจ้านายอยากไปเก็บเหรอ”
“รอก่อน ไว้คราวหน้าซาลาเปาน้อยเข้าป่าค่อยพาเธอไปเก็บ”
“อ่อๆ เข้าใจแล้ว”
“ฉันกลับล่ะ แกก็เฝ้าให้ดีนะ”
ดอกฉยงฮวารับประกันอีกครั้งว่าจะจับตาดูหมอลู่ให้ดี!
“อืม มีความผิดปกติอะไรก็มาบอกฉัน” กำชับอีกครั้ง
ตี้อู๋เปียนสั่งดอกฉยงฮวาเสร็จก็ไปหยิบอุปกรณ์ด้านข้าง จัดการสอยพวกมะม่วงลูกใหญ่แล้วเอากลับไปที่ห้องรับแขก
ทำตัวเป็นแม่บ้านแม่เรือนอย่างกับผู้หญิง จัดการปอกเปลือกมะม่วงที่เปลือกบางเนื้อหนาออก จากนั้นก็ยกไปให้พวกมู่เถาเยากับทางเป่ยซีกิน