อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 173 ป้องกันสูตรยารั่วไหล
ตอนที่ 173 ป้องกันสูตรยารั่วไหล
ทั้งสองคนเพิ่งถึงลานจอดรถของโรงพยาบาลผิงคัง เฉิงหรานก็โทรหามู่เถาเยาพอดี
“ศิษย์พี่ใหญ่ ฉันกับอาจารย์อาเล็กอยู่ลานจอดรถแล้วค่ะ กำลังจะเข้าไป”
“..”
“ค่ะ”
มู่เถาเยากับอาจารย์อาเล็กเดินไปคุยไป
“เสี่ยวเยาเยา คนครอบครัวเฉิงตรวจสุขภาพเสร็จกันหมดหรือยัง”
“ค่ะ ก็แค่ผลตรวจยังไม่ออก”
“น่าจะไม่มีปัญหากันนะนอกจากเหลยถิง” อย่างไรเสียก็มีญาติเป็นหมอ
แต่เฉิงหรานไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องพิษ มองไม่ออกว่าเหลยถิงถูกพิษเข้าแล้ว
“น่าจะไม่มีปัญหาอะไรมาก ตอนหนูไปกินข้าวพวกเขาก็ดูโอเคดีนะคะ”
“งั้นก็ดี เหลยถิงเป็นแค่คนธรรมดา ทำไมถึงมีคนวางยาเขาได้ น่าแปลกจริงๆ!”
“หนูสงสัยว่าไม่ได้เป็นการเล่นงานเหลยถิงโดยตรงค่ะ”
“เสี่ยวเยาเยา หนูหมายความว่า มีความเป็นไปได้ว่าจ้องเล่นงานศิษย์พี่ใหญ่ของหนูเหรอ ไม่น่านะ แพทย์แผนโบราณมีชื่อเสียงอันดีงาม ไม่มีเหตุผลที่จะต้องถูกเล่นงาน ยิ่งไปกว่านั้น คนตี้ตูจะรู้ได้ไงว่าเหลยถิงเป็นญาติกับศิษย์พี่ใหญ่ของหนู”
“ยังไม่ทราบสถานการณ์แน่ชัดค่ะ”
เธอยังคงสงสัยเจียงเย่ว์อย่างไม่มีเหตุผล
แต่การสงสัยอย่างไม่มีสาเหตุนี้ อีกทั้งยังไม่มีหลักฐาน ตอบได้เพียงว่าเธอแค่ไม่ชอบเจียงเย่ว์
น่าแปลก แต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่รู้สึกอะไรกับคนแปลกหน้า ไม่ได้ชอบและก็ไม่ได้เกลียด
พอทั้งสองคนเดินถึงประตูทางเข้าก็มีทั้งคนป่วย ญาติคนไข้ หมอพยาบาล จึงหยุดคุยเรื่องนี้
ไปถึงห้องทำงานของผู้อำนวยการ คนครอบครัวเฉิงก็อยู่กันพร้อมหน้า
เฉิงหราน “อาจารย์อาเล็ก เสี่ยวเยาเยา”
คนครอบครัวเฉิงก็ทักทายพวกเขาด้วย
ทั้งสองคนทักทายตอบเสร็จ มู่เถาเยาก็ถามขึ้น “ศิษย์พี่ใหญ่คะ ผลตรวจร่างกายของเหลยถิงผิดปกติไหมคะ”
“ผลตรวจที่ออกมาแล้วยังไม่พบความผิดปกติ ไม่มีแม้แต่ภาวะเลือดจางกับขาดสารอาหาร”
อาจารย์อาเล็ก “นี่แหละคือความผิดปกติอย่างชัดเจน”
เฉิงหรานขมวดคิ้วพยักหน้า “ใช่ครับ อาถิงมีสภาพแบบนี้แค่ดูก็รู้ว่าสุขภาพไม่ดี แต่ทำไมผลตรวจกลับไม่มีความผิดปกติ”
“น้าครับ ผมก็แค่ทำงานหามรุ่งหามค่ำติดต่อกันถึงได้เป็นแบบนี้ ไว้พักผ่อนเยอะๆ ก็ดีขึ้นเองครับ น้าจำตอนผมเพิ่งเริ่มทำงานได้ไหมครับ ตอนนั้นผมก็ผอมลงไปมาก”
เหลยถิงพูดด้วยความไม่เห็นด้วย
เขาไม่คิดว่าตัวเองป่วย
“อาถิง ตอนนายเริ่มทำงานผอมลงก็จริง แต่ไม่ได้ผอมจนน่ากลัวแบบนี้ อีกทั้งตอนนั้นสีหน้าก็แค่หมองคล้ำกับซีดเหลือง อย่ามองข้ามสุขภาพของตัวเองสิ”
เสี่ยวเยาเยาบอกว่าอาถิงถูกพิษก็ต้องถูกพิษแน่นอน
“น้าครับ น้าจับชีพจรของผมแล้วก็ไม่พบความผิดปกติ ใช้เครื่องมือตรวจก็ปกติดี ผมว่าทุกคนคิดมากเกินไปแล้วครับ”
เฉิงหราน “อาจารย์อาเล็ก เสี่ยวเยาเยา ลองช่วยตรวจอาถิงดูหน่อยนะ”
เฉิงซินเร่งลูกชาย “อาถิง รีบให้อาจารย์อาเล็กกับเสี่ยวเยาเยาตรวจเร็วเข้า”
เธอเป็นแม่ ไม่มีทางไม่เป็นห่วง
เดิมทีก็คิดอยู่ว่าลูกชายผอมผิดปกติ สีหน้าก็ดูแย่มาก
น้องชายสงสัยว่าจะเป็นอะไร งั้นเธอก็ยิ่งสงสัยหนักกว่า
เหลยถิงอยากให้ทุกคนสบายใจ ไม่อย่างนั้นเขาไม่มีทางมาตรวจสุขภาพซ้ำทั้งๆ ที่เพิ่งผ่านมาครึ่งปี เขาจึงยอมให้มู่เถาเยากับอาจารย์อาเล็กตรวจชีพจร
อาจารย์อาเล็กตรวจก่อน ต่อมาก็ส่ายหน้า
เขาก็ตรวจไม่พบความผิดปกติ
นอกจากเสี่ยวเยาเยาแล้ว เฉิงหรานเป็นลูกศิษย์ที่เก่งที่สุดของศิษย์พี่ใหญ่ ขนาดเฉิงหรานยังตรวจไม่พบ งั้นเขาที่ถนัดผ่าตัดมากกว่าก็ยิ่งตรวจไม่เจอเข้าไปใหญ่
มู่เถาเยาตรวจเสร็จก็พยักหน้าให้เฉิงหราน
อาจารย์อาเล็ก เฉิงหราน เฉิงอันนั่ว ต่างเข้าใจความหมายของเธอ
คนครอบครัวเฉิงคิดว่าเธอพยักหน้าเห็นด้วยกับอาจารย์อาเล็ก ไม่พบความผิดปกติเช่นกัน
เหลยถิงยิ้มพลางพูดว่า “ผมก็บอกแล้วว่าไม่มีปัญหาอะไร”
สีหน้าของคนครอบครัวเฉิงมีรอยยิ้มอย่างเห็นได้ชัด
แต่คนที่รู้เรื่องราวกลับไม่มีใครยิ้ม
เพื่อไม่เป็นการกระโตกกระตาก มู่เถาเยาจึงตรวจชีพจรให้คนครอบครัวเฉิงหมดทุกคน
“ศิษย์พี่ใหญ่คะ ขอกระดาษกับปากกาหน่อยค่ะ ฉันจะเขียนสูตรอาหารให้พี่สาวของศิษย์พี่ ไปทำกินตามนี้ระยะหนึ่งจะช่วยขับของเสียออกจากร่างกายได้ คุณลุงคุณป้าท้องผูกกันทั้งคู่”
พ่อแม่ของเฉิงซินกับเฉิงหรานรีบพยักหน้า “ใช่ๆ กินยาก็ไม่ได้ผล ปกติจะสามสี่วันถ่ายที หนักๆ เข้าก็หนึ่งอาทิตย์ไม่ถ่ายเลย”
เฉิงหรานอึ้ง “ทำไมพ่อกับแม่ไม่บอกผม ไม่บอกพี่กับพี่เขยด้วย”
ย่าเฉิงยิ้มพูดกับลูกชายตัวเอง “มันไม่ใช่โรคร้ายแรงอะไร ลูกงานยุ่งขนาดนั้น จะให้บอกเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ทำไมกัน”
เฉิงหรานพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “แม่ครับ การปล่อยให้ท้องผูกจนชิน ต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะทำให้เบื่ออาหาร จิตใจไม่สดชื่น ขี้หงุดหงิด นอนไม่หลับ และอื่นๆ อีกมากมาย”
เฉิงอันนั่ว “ความดันโลหิตของคุณย่าสูงนิดหน่อยด้วยครับ ถ้าปกติต้องออกแรงเบ่งเวลาขับถ่าย จะเพิ่มแรงดันในช่องท้อง หรือถ้าแบ่งมากเกินไปจะทำให้ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้นอย่างกะทันหัน หนักๆ เข้าเส้นเลือดในสมองแตกได้นะครับ ทำให้เลือดออกในสมองได้”
ย่าเฉิงปู่เฉิงมีสีหน้าตะลึง
ทำไมแค่ขับถ่ายก็เลือดออกในสมองได้
“พ่อคะแม่คะ ทำไมไม่บอกพวกเราว่าท้องผูก”
เฉิงซินกับสามีรู้สึกผิด
ปกติพวกเขาต้องทำงานกันทั้งคู่ อีกทั้งในห้องของคนชราทั้งสองก็มีห้องน้ำ ต่างคนต่างใช้ห้องน้ำของตัวเอง พวกเขาก็เลยไม่รู้ว่าพ่อแม่มีปัญหาเรื่องการขับถ่าย
ปู่เฉิงอธิบายด้วยความกระอักกระอ่วน “พวกเราคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆ กินผักผลไม้มากๆ ก็ดีขึ้นเอง…”
มู่เถาเยา “คุณลุงคุณป้าคะ อันตรายจากการท้องผูกใหญ่มากค่ะ คุณลุงคุณป้าอย่าซื้อยาที่ช่วยกระตุ้นการขับถ่ายมากินอีกนะคะ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวพอมันไม่ได้ผลแล้วต้องมาล้างลำไส้เพื่อเอาอุจจาระออก”
ย่าเฉิงรีบพูด “งั้นต้องทำยังไงเหรอ ป้ากับลุงถ้าไม่กินยาจะถ่ายไม่ออก”
“หนูจะเขียนสูตรอาหารให้ ทำกินตามนี้สักระยะจะช่วยขับของเสียออกจากร่างกายจนหมด ยังช่วยปรับลำไส้ได้ด้วย ต่อไปจะไม่ท้องผูกง่ายๆ อีกค่ะ”
เฉิงซิน “เสี่ยวเยาเยา พวกเราก็กินด้วยได้ใช่ไหม พี่ก็ท้องผูกบ้างเหมือนกัน ก็แค่อาการไม่หนัก”
“ได้ค่ะ กินได้ทุกคน เหลยถิงก็กินได้ ขับพิษในร่างกายหมดการดูดซึมสารอาหารก็จะง่ายขึ้นค่ะ”
คนครอบครัวเฉิงพยักหน้า
อาจารย์อาเล็ก เฉิงหราน และเฉิงอันนั่วไม่ค่อยเข้าใจ
ไหนว่าจะรอให้วางยาพิษครั้งที่สองก่อน ทำไมจะเริ่มขับพิษตอนนี้แล้วล่ะ
ทั้งสามคนมองมู่เถาเยาด้วยสีหน้าสงสัย
มู่เถาเยาเขียนสูตรอาหารเสร็จก็ยื่นให้เฉิงซิน จากนั้นถึงพูดกับเฉิงหราน “ศิษย์พี่ใหญ่คะ ‘ยาฉุกเฉิน’ ที่ฉันให้ไป ศิษย์พี่เอาให้พวกคุณลุงคุณป้ายังคะ”
หรือก็คือยาถอนพิษ
ศิษย์พี่ใหญ่เข้าใจทันที
เฉิงหรานส่ายหน้าพลางพูด “ยังเลย เสี่ยวเยาเยา?”
“เอาให้เลยค่ะ”
เฉิงหรานหยิบขวดเล็กสีขาวสองขวดจากในกระเป๋าออกมา
มู่เถาเยารับมาแล้วยื่นให้เฉิงซิน
“พี่เฉิงคะ ในนี้เป็น ‘ยาฉุกเฉิน’ แก้ท้องผูกได้ด้วย แต่ถ้าเอามาแก้ท้องผูกก็ออกจะสิ้นเปลืองเกินไป พวกพี่เก็บไว้ให้ดีนะคะ พกติดตัวกันคนละเม็ด ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมา เป็นต้นว่าถูกงูมีพิษกัด เผลอกินยาฆ่าแมลง โลหะ หรือสารเคมี อะไรพวกนี้เข้าไป กินยานี้ก็จะช่วยขับพิษได้ค่ะ”
เฉินซินรับขวดยาไปด้วยความดีใจ “ขอบใจนะจ๊ะเสี่ยวเยาเยา”
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูมีเรื่องจะขอร้องนิดหน่อยด้วย”
พ่อของเหลยถิงยิ้มพูด “ว่ามาเลยเสี่ยวเยาเยา”
“นี่เป็นสูตรยาที่หนูคิดค้นขึ้นมาเอง ไปเก็บสมุนไพรในป่ามาทำเป็นยาเอง ใช้สมุนไพรหายากทำ ให้แค่คนใกล้ชิดเท่านั้น รบกวนช่วยเก็บเป็นความลับด้วยนะคะ เอาไว้หนูตัดสินใจทำเยอะๆ เมื่อไรค่อยให้คนอื่นรู้ ตอนนี้ห้ามสูตรรั่วไหลค่ะ”
คนครอบครัวเฉิงพยักหน้า
จุดนี้เข้าใจได้
“เหลยถิง อย่าให้เจียงเย่ว์รู้ได้ไหม เจียงเย่ว์ยังไม่ใช่คนครอบครัวเหลย ยังจัดว่าเป็นคนอื่นอยู่”
เหลยถิงรับรองกับมู่เถาเยา “ถึงเสี่ยวเย่ว์จะเรียนแพทย์แผนโบราณเหมือนกัน แถมยังเรียนเก่งด้วย แต่นี่เป็นสูตรยาของอาจารย์อาเล็ก อาจารย์อาเล็กอยากให้เก็บเป็นความลับก็ต้องทำครับ!”
ถึงเขาจะคิดว่าแฟนของเขาไม่มีทางมีความคิดขโมยผลงานของคนอื่น แต่เขาก็ควรช่วยเก็บเป็นความลับ