อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 207 ขาดแค่หมาป่า
ตอนที่ 207 ขาดแค่หมาป่า
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา มู่เถาเยา ตี้อู๋เปียน เจ้าถุงลมน้อย รวมถึงอาหยวนอาฉีก็ออกมาพร้อมกัน
“อาหยวน อาฉี กลับไปกินข้าวที่บ้านผู้ใหญ่บ้านเถอะ”
“ครับ เดี๋ยวค่ำหน่อยพวกเราจะมาดูพวกมันอีกรอบครับ”
“ไม่ต้องแล้วล่ะ ฉันอยู่ใกล้ เดี๋ยวฉันดูเอง”
“งั้นก็ได้ครับ พวกเรากลับก่อนนะครับ”
“อืม ไปเถอะ”
พอทั้งสองคนไปแล้ว มู่เถาเยากับสองอาหลานตระกูลตี้ก็กลับเข้าบ้าน
“ซาลาเปาน้อย เธอไปอาบน้ำแล้วค่อยลงมากินข้าวไหม”
“อืม ขอกระเป๋าหน่อย”
ตี้อู๋เปียนส่งกระเป๋าคืนเธอ
เป่ยซีกำชับลูกสาว “เสี่ยวเยาเยา อาบน้ำเสร็จลงมากินข้าวเลยนะ เรื่องอื่นไว้กินเสร็จค่อยว่ากัน วันนี้ลูกใช้พลังไปมาก กลางวันก็ไม่ค่อยได้กินอะไรคงหิวแล้ว”
“ค่ะ”
ย่าตี้มองตามหลังสาวน้อยแล้วยิ้มพลางพูด “เสี่ยวซี เสี่ยวเยาเยาไม่เป็นไรหรอก วางใจเถอะ”
แม่ที่ใจคอไม่ดีมาทั้งวัน ไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายเหมือนลูกสาวที่เข้าเขตป่าชั้นในเลยสักนิด
“ค่ะ เลยพลอยทำให้ทุกคนเป็นห่วงไปด้วย”
ย่าตี้ตบหลังมือของเป่ยซีเบาๆ “อย่าพูดอะไรห่างเหินแบบนั้น เสี่ยวเยาเยาก็เป็นคนในครอบครัวของเราเหมือนกัน จะเป็นห่วงก็เรื่องปกติ”
อาจารย์ใหญ่มองทุกคนในบ้านแล้วพูดขึ้น “ใครที่ต้องกลับไปไหนก็กลับได้แล้วนะ”
พอเห็นมู่เถาเยากลับมาอย่างปลอดภัย พวกไป๋เฮ่าอวี๋ที่มารออยู่ที่นี่กลับไปกินข้าวเย็นบ้านที่ตัวเองอาศัยอยู่อย่างสบายใจแล้ว
พอมู่เถาเยาลงมาจากข้างบนอีกครั้งภายในบ้านก็เหลือไม่กี่คนแล้ว
“เสี่ยวเยาเยา พวกเรากินข้าวกันก่อนเถอะ” เป่ยซีเข้าไปหาลูกสาวชนิดที่แทบทนรอไม่ไหว
อาจารย์ใหญ่ “ใช่ พวกเรากินไปคุยไปนะ”
“ค่ะ”
พอเข้าไปในห้องกินข้าว เป่ยซีก็ตักน้ำแกงให้ลูกสาวด้วยตัวเอง
“ขอบคุณค่ะแม่”
“กินสิจ๊ะ” เป่ยซีลูบผมยาวของลูกสาว ตาโตโค้งมนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ค่ะ”
พอมู่เถาเยากินไปได้ประมาณหนึ่งแล้ว ทุกคนถึงเริ่มพูดเยอะขึ้น
ปู่ทวดถังยิ้มถาม “เสี่ยวเยาเยา เข้าไปครั้งนี้เจออะไรบ้าง”
เขายังจำงูเหลือมยักษ์ที่เจอเมื่อคราวก่อนได้ดีอยู่เลย
“ไม่ได้เจอสัตว์ดุร้ายหรือพืชมีพิษอะไรค่ะ ขุดสมุนไพรหายากมาได้ไม่น้อย แล้วก็หนูได้น้ำลายของงูเถาวัลย์มาด้วยค่ะ”
มู่เถาเยายิ้ม อารมณ์ดีมาก
อาจารย์ใหญ่ถามด้วยความตกใจ “เสี่ยวเยาเยาไปเจองูเถาวัลย์ได้ยังไง”
“เกาหม่าพาไปค่ะ งูเถาวัลย์พันอยู่บนเถาวัลย์ตี้หวังค่ะ”
“เสี่ยวเยาเยาถูกกัดหรือเปล่า มันมีพิษไหม” เป่ยซีกังวลจนหายใจไม่เป็นจังหวะ
“งูเถาวัลย์ไม่มีพิษค่ะแม่ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ และหนูก็ไม่ได้โดนกัดด้วย มันถูกหนูต่อย แถมหมัดเดียวสลบ” จากนั้นเธอก็รีดเอาน้ำลายอย่างสบายใจ
ทุกคน “…”
หมัดนี้ของหนูปล่อยแรงมหาศาลขนาดไหนเนี่ย!
“ไม่เป็นไรก็ดีจ้ะ” เป่ยซีสบายใจแล้ว
อาจารย์ใหญ่ “เสี่ยวเยาเยา ของเหลวจากงูเถาวัลย์มีประโยชน์มาก เอาไปผสมเป็นยาถอนพิษได้ ไม่ว่าถูกพิษงูชนิดไหนก็ตาม กินเข้าไปจะมีผลทันที และไม่ต้องทำการรักษาต่อจากนั้นด้วย”
“ค่ะ”
ย่าตี้ถามด้วยความอึ้ง “งูไม่มีพิษ แต่ของเหลวจากตัวมันแก้พิษได้งั้นเหรอ”
“ใช่ค่ะ งูเถาวัลย์ถูกเรียกว่าราชาแห่งงู เพราะมันกินงูพิษเป็นอาหาร ไม่ว่างูพิษชนิดไหนมันก็กินหมด ของเหลวจากตัวมันแก้พิษงูได้ทุกชนิด รวมถึงพิษจากพืชและสัตว์ทั่วไปด้วยค่ะ”
ปู่ตี้ “มหัศจรรย์มาก!”
“ใช่ งูเถาวัลย์จะชอบพันเนียนอยู่กับเถาวัลย์ตี้หวัง ถ้ามันไม่ขยับก็น้อยคนที่จะหามันเจอ หลายปีนี้ผมเข้าออกเขตป่าชั้นในหลายครั้งนับไม่ถ้วน แต่กลับไม่เคยเจอเถาวัลย์ตี้หวังเลยสักครั้ง เสี่ยวเยาเยาไปเจออยู่ตรงไหนเหรอ”
“ทางด้านเหนือค่ะ เมื่อก่อนพวกเราไม่ค่อยได้ไปทางด้านเหนือ ก็เลยไม่เจอ”
“งั้นก็ถูกแล้ว พวกเราไม่ค่อยไปทิศทางที่ตรงกันข้ามกับหมู่บ้านเถาหยวน เขตป่าชั้นในใหญ่ขนาดนั้น ต่อให้ไปด้านเหนือก็ใช่ว่าจะไปถึงตรงนั้นพอดี”
ทุกคนพยักหน้า
“อาจารย์ใหญ่คะ ตอนที่อาจารย์ใหญ่เดินในเขตป่าชั้นในเมื่อสิบแปดปีก่อนเคยเจอฝูงหมาป่าไหมคะ”
“เสี่ยวเยาเยาเจอหมาป่ามาเหรอ” หยวนเหยี่ยเครียดขึ้นมาทันที
หมาป่าชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง ถ้าเจอเข้าจะยุ่งยาก
“ไม่ได้เจอค่ะ ก็แค่เกาหม่าไม่ให้หนูไปทางตะวันออกกับทางตะวันตก”
อาจารย์เล็กถามด้วยความสงสัย “เมื่อก่อนพวกเราก็ไปทางตะวันออกตะวันตกบ่อย ทำไมม้าถึงไม่ให้หนูไปล่ะ”
มู่เถาเยาส่ายหน้า “ตำแหน่งไม่ค่อยเหมือนกันค่ะ ราชาม้าป่าไม่ได้อยู่แถวบริเวณที่พวกเราไปกันบ่อยๆ” ไม่อย่างนั้นเธอก็ไม่ต้องเสียเวลาทั้งวันเข้าไปแล้วออกมา
เป่ยซี “เสี่ยวเยาเยา พวกหนูไม่เคยเจอฝูงหมาป่าในเขตป่าชั้นในใช่ไหม”
เจอหมาป่าก็ไม่ต้องกลัว
ลูกสาวเธอมีสายเลือดบริสุทธิ์ที่สุดของเผ่าหมาป่าพระจันทร์ หมาป่าไม่มีทางกัด
“ไม่เคยค่ะ หนูเลยรู้สึกแปลกใจว่าทำไมป่าเซียนโหยวที่มีทั้งสิ่งที่ควรมีและไม่ควรมี แต่กลับไม่เจอหมาป่าเลย”
ปู่ทวดถังพูด “เสี่ยวเยาเยา สัตว์ส่วนใหญ่มีอาณาเขตที่มันอยู่โดยเฉพาะ พวกมันมีความตระหนักรู้เรื่องอาณาเขตมาก ไม่มีทางเข้าไปในเขตของสัตว์อื่นง่ายๆ และก็ไม่ให้สัตว์อื่นเข้ามาในเขตของตัวเองด้วย ไม่อย่างนั้นได้สู้ให้ตายกันไปข้าง ดูว่าใครจะเป็นอาหารของใคร”
อาจารย์เล็กพยักหน้า “เป็นแบบนั้น แต่จะใช่สาเหตุที่พวกเรายังไม่เคยไปอาณาเขตของฝูงหมาป่าหรือเปล่า อันนี้ก็ไม่รู้แล้ว”
ตี้อู๋เปียน “ซาลาเปาน้อย เธอสนใจพวกหมาป่าเป็นพิเศษเหรอ”
“นิดหน่อย”
หลักๆ คือเธอสนใจเรื่องสายเลือดหมาป่าพระจันทร์
ไว้พอเสร็จเรื่องต่างๆ เธอจะเอาเลือดตัวเองมาศึกษา ดูว่าแตกต่างจากคนอื่นตรงไหน
“งั้นฉันจะช่วยเธอตามหาหมาป่า”
“ตี้อู๋เปียน คนของคุณเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ”
“…อืม”
เสี่ยวฉยงยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง แต่คนไม่มีประโยชน์
ต่อให้มีคนอยู่ในแวดวงที่หลากหลาย อีกทั้งอยู่ในขั้นเก่งระดับประเทศ แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เช่น ซาลาเปาน้อย ปู่หยวน ปู่ซย่าโหว
คนของเขายังหนุ่มมาก ต่อให้เก่งยังไงก็ไม่มีทางสู้ปู่หยวน ปู่ซย่าโหว ที่เป็นระดับปรมาจารย์ในด้านการรักษาและการต่อสู้
ซาลาเปาน้อย…เธอต้องเป็นลูกรักเพียงคนเดียวของสวรรค์แน่ๆ
“ตี้อู๋เปียน ไม่ต้องตามหา ฉันไม่รีบ ไว้มีเวลาฉันจะเดินให้ทั่วเขตป่าชั้นใน”
คงจะอีกสี่ปี หลังเสร็จการแข่งขันกีฬาระดับโลก
“…ก็ได้”
“จริงสิคะ สุดสัปดาห์หน้าอาจารย์ใหญ่จะไปเยี่ยมศิษย์พี่ห้าที่เมืองเย่ว์ตูใช่ไหมคะ ลุงตี้บอกว่าพอถึงตอนนั้นจะมาเยี่ยมอาจารย์ใหญ่ด้วยค่ะ”
หยวนเหยี่ย “อาจารย์สำคัญถึงขั้นให้คนที่งานยุ่งขนาดนั้นมาเยี่ยมโดยเฉพาะเลยเหรอ”
ปู่ตี้ยิ้ม “จิ่งเทียนไม่ได้เจอคุณนานแล้ว มาเยี่ยมบ้างก็เป็นเรื่องสมควร หลายปีมานี้คุณไม่ค่อยไปไหน ทุกคนคิดถึงก็ทำได้แค่เป็นฝ่ายมาหา แต่หมู่บ้านเถาหยวนซานค่อนข้างห่างไกล มาไม่ง่าย”
ไม่ใช่เพราะเส้นทางภูเขาเดินทางลำบาก แต่เป็นเพราะมันใช้เวลาเดินทางนานมากสำหรับคนที่ไม่มีเครื่องบิน
คนธรรมดามีเครื่องบินที่ไหนกัน ใช่ว่าอยากบินไปไหนก็บินได้
“งั้นพวกคุณกลับเย่ว์ตูพร้อมผมไหม”
ย่าตี้คิดเล็กน้อยแล้วพูด “พวกเรากับเหลนคงไม่ไป ให้อู๋เปียนตามไปแล้วกัน เสี่ยวเยาเยาจะได้ฝังเข็มสะดวก”
“ก็ได้”
หยวนเหยี่ย “เสี่ยวเยาเยา วันมะรืนเสี่ยวหว่านกับเสี่ยวเหมียนจะสอบแล้วใช่ไหม”
“ค่ะ สองคนนี้มีผลการเรียนดี สอบติดมหา’ลัยที่อยากเข้าแน่นอนค่ะ”
“เสี่ยวเหมียนอยากเข้าวิทยาลัยวิจิตรศิลป์ตั้งแต่เด็ก เสี่ยวหว่าน…เลือกได้หรือยัง”
“…เสี่ยวหว่านบอกว่าจะไปเรียนการแสดงค่ะ”
“เรียนการแสดงเหรอ เป็นนักแสดงเหมือนเสี่ยวถังถังน่ะเหรอ”
“ก็อาจจะค่ะ”
“เด็กคนนี้ทำไมถึงอยากไปเป็นนักแสดงกันนะ” อาจารย์เล็กขมวดคิ้ว
เขาไม่ได้อคติกับวงการนักแสดงหรอก แต่เสี่ยวหว่านชอบเปลี่ยนความคิดเปลี่ยนบุคคลต้นแบบไม่หยุดตั้งแต่เล็กจนโต กลับไม่เคยบอกว่าจะเป็นนักแสดง
“อาจารย์เล็กไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ พวกเราคอยสนับสนุนเสี่ยวหว่านอยู่เบื้องหลัง”
ปู่ทวดถังเสนอ “งั้นก็ให้เสี่ยวหว่านเซ็นสัญญากับบริษัทของถังถังสิ เจ้าของใช้ได้เลยนะ ไม่มีทางเอาเปรียบดาราในสังกัด”
ตี้อู๋เปียน “ผมจะบอกป้าสะใภ้ใหญ่ให้ดีไหมครับ ให้ผู้จัดการส่วนตัวของป้าสะใภ้ใหญ่ช่วยดูแลเสี่ยวหว่าน ยังไงซะป้าสะใภ้ใหญ่ก็ออกจากวงการแล้ว ไม่ต้องใช้ผู้จัดการส่วนตัว”
มู่เถาเยายิ้ม “รอเสี่ยวหว่านเลือกคณะก่อนแล้วกัน เข้าวงการบันเทิงจริงๆ แล้วค่อยว่ากัน ทุกคนกินข้าวก่อนเถอะค่ะ”
ทุกคนพยักหน้า กินข้าวกันต่อ