อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 317 สวยจริง
ตอนที่ 317 สวยจริงๆ
ตอนบ่ายคนตระกูลอวิ๋นก็มาถึง
มู่เถาเยาจัดให้ผู้สูงวัยทั้งสองของตระกูลอวิ๋นพักในห้องสุดท้ายของบ้าน
เมื่อก่อนเย่ว์เลี่ยงพักห้องนี้ แต่เนื่องจากคุยกันบนเครื่องบินว่าจะรับผู้อาวุโสทั้งสองของตระกูลอวิ๋นมา เย่ว์เลี่ยงจึงไปพักกับลู่จือฉินที่บ้านของชาวบ้านในละแวกไม่ไกล เพื่อเก็บห้องไว้ให้ผู้อาวุโสทั้งสอง
ผู้อาวุโสทั้งสองมาพักอาศัยเป็นเวลานาน จะได้เข้าไปอยู่เสียตั้งแต่ตอนนี้ไม่ต้องรอพวกเขากลับไปค่อยย้ายเข้า
“นี่น่ะเหรอเย่ว์เลี่ยง หน้าตาสวยมากจริงๆ!”คุณนายผู้เฒ่าตระกูลอวิ๋นจับเย่ว์เลี่ยงมามองซ้ายมองขวา ปิดบังความดีใจในดวงตาไม่มิด
“ขอโทษด้วยนะคะคุณน้า รู้จักกับอวิ๋นไป๋มาตั้งหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เจอคุณน้าทั้งสอง”
“มีอะไรต้องขอโทษล่ะจ๊ะ หนูงานยุ่งขนาดนั้น ไม่ค่อยได้ออกนอกเผ่า แต่พวกเราไม่รู้สึกห่างเหินเลยนะ เสี่ยวไป๋เล่าเรื่องหนูให้ฟังทุกครั้งที่กลับบ้านเลย”
เย่ว์เลี่ยงเหลือบมองอวิ๋นไป๋ที่ยืนข้างแม่
เขายิ้มกว้างให้เย่ว์เลี่ยง
เย่ว์เลี่ยงปวดตาขึ้นมาทันที
ท่าทางแบบนี้ของเขาเหมือนพวกลูกเศรษฐีหน้าโง่จริงๆ!
ผู้เฒ่าอวิ๋นก็ยิ้มพูด “ไม่ใช่แค่เสี่ยวไป๋เล่าให้ฟังนะ ชิงเฉวียนก็พูดถึงหนูบ่อยๆ”
คุณนายอวิ๋น หรือก็คือราชินีภาพยนตร์หยางชิงเฉวียนยิ้มพลางพยักหน้า
เธอมักพูดถึงเย่ว์เลี่ยงก็เพราะมีเจตนาช่วยน้องสามีพูดชมเย่ว์เลี่ยงต่อหน้าพ่อแม่สามี แม้เย่ว์เลี่ยงจะไม่ต้องการก็ตาม
สถานะของเย่ว์เลี่ยงมีความพิเศษ แต่นิสัยใจคอกลับถูกใจเธอ เธอจึงอยากมีน้องสะใภ้แบบนี้ แม้จะไม่ได้อยู่ชายคาเดียวกัน
ตระกูลเย่ว์กับตระกูลอวิ๋นต่างไม่ใช่ครอบครัวธรรมดา ไม่ได้เน้นเรื่องชาติกำเนิดของลูกเขยหรือลูกสะใภ้ ขอแค่มีทัศนคติที่ไม่บิดเบี้ยว เด็กๆ รักใคร่ชอบพอกันก็พอแล้ว
อีกทั้งเธอก็เชื่อว่าความจริงใจจะพิชิตใจได้ น้องสามีจะต้องสมหวังในสักวันแน่ เธอถึงช่วยพูดชมเย่ว์เลี่ยงต่อหน้าพ่อแม่สามี
เธอเป็นผู้หญิง มองผู้หญิงด้วยกันออก
เย่ว์เลี่ยงยิ้มบาง “ฉันกับรุ่นพี่ชิงเฉวียนก็ไม่ได้เจอกันหลายปีแล้ว” แต่มีติดต่อกันอยู่บ้าง
“นั่นสิ” หยางชิงเฉวียนเรียกลูกๆ เข้ามา “เสี่ยวเหยา สุ่ยเหยา อาเย่ว์เป็นคนให้หยกที่พวกลูกสองคนพกติดตัวมานะ”
แฝดชายหญิงพูดขอบคุณเป็นเสียงเดียวกัน
“แค่ชั่วพริบตาลูกๆ ของรุ่นพี่ชิงเฉวียนโตกันขนาดนี้แล้ว” เย่ว์เลี่ยงเอ่ย
“นั่นสิ เวลาผ่านไปไวจริงๆ พี่แก่แล้วแต่เธอกลับยังดูเหมือนเดิมเลย ตอนนี้พี่เริ่มกังวลเรื่องริ้วรอยแล้ว” ชิงเฉวียนลูบใบหน้าตัวเองพลางพูด
“คนฝึกวรยุทธ์อย่างพวกเราสามารถคงสภาพความอ่อนเยาว์ได้ค่ะ รุ่นพี่ก็ไม่ได้แก่ แค่ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นหน่อย”
มีลูกอายุสิบเจ็ดสองคนแล้ว แต่กลับดูเหมือนคนอายุสามสิบ ยังห่างกับคำว่าแก่อีกไกล
แต่ก็ดูเป็นผู้ใหญ่ยิ่งกว่าเมื่อก่อนจริงๆ หลักๆ คือบุคลิกที่แตกต่างออกไป
เป็นคุณนายใหญ่ตระกูลเศรษฐีมายี่สิบปี ไม่มีทางที่จะไม่เปลี่ยนไปเลย
ทางนี้คุยกันเรื่องเก่าๆ อย่างอบอุ่น ทางคนสูงวัยก็พูดคุยกันอย่างครึกครื้น
พูดตามตรง สองผู้อาวุโสตระกูลเย่ว์รู้สึกผิดต่อสองผู้อาวุโสตระกูลอวิ๋นอยู่นิดหน่อย
ถึงแม้ลูกสาวของพวกเขาจะไม่ให้ความสำคัญกับอวิ๋นไป๋ ปฏิเสธอยู่ทุกครั้ง แต่อวิ๋นไป๋ก็ยินดีรอมาตั้งยี่สิบปี อีกทั้งยังรักลูกสาวของพวกเขาไม่เคยเปลี่ยน…
ลูกสาวของพวกเขาใจแข็งไม่มีหวั่นไหว แต่พวกเขากลับประทับใจเหลือเกิน
ผู้เฒ่าอวิ๋น “เสี่ยวไป๋มีความคิดเป็นของตัวเองตั้งแต่เด็ก พวกเราไม่เคยยุ่งการตัดสินใจของเขา” แค่คอยดูไม่ให้เขาออกนอกลู่นอกทางก็พอแล้ว
“ใช่ค่ะ เสี่ยวไป๋ตอนเด็กๆ เมื่อไรที่พวกเราให้เงิน เขาก็จะทำอะไรให้นิดหน่อยเป็นการตอบแทน เขาอยากได้อะไรก็จะพยายามไขว่คว้าหาเอาเอง” รอยยิ้มในดวงตาคุณนายผู้เฒ่าอวิ๋นปรากฏมากกว่าเดิม
การที่เขาแสดงความจริงใจต่อผู้หญิงที่ชอบ ให้เวลา ทุ่มเทกำลัง ล้วนเป็นสิ่งที่เขายินดีทำทั้งนั้น
คนเป็นพ่อแม่ ใจหนึ่งก็สงสาร อีกใจก็ภูมิใจในตัวเขา
เอาแค่เรื่องที่เขายืนหยัดมั่นคงมายี่สิบปีไม่มีท้อก็แสดงให้เห็นแล้วว่ามีความแน่วแน่เด็ดเดี่ยวกว่าคนทั่วไป
ย่าเย่ว์เหลือบมองอวิ๋นไป๋ที่ไม่ห่างจากลูกสาวของเธอแม้เพียงครึ่งก้าว ยิ้มพลางพูด “เสี่ยวไป๋เป็นเด็กดี เย่ว์เลี่ยงของเรา…”
คุณนายผู้เฒ่าอวิ๋นพูด “เย่ว์เลี่ยงมีความคิดเป็นของตัวเอง พวกเราจะบังคับให้ยอมรับใครคนไหนไม่ได้ พวกเขาเข้ากันได้ก็พอแล้ว พวกเราไม่ต้องไปยุ่งอะไรมาก”
ผู้เฒ่าอวิ๋นพยักหน้า
ใช้ความสัมพันธ์ทางสายเลือดอ้างเรื่องศีลธรรม มีแต่จะเป็นการกดดันพวกเด็กๆ
คนเป็นพ่อแม่คงไม่มีใครอยากเห็นลูกตัวเองไม่มีความสุข
ความสุขไม่ได้มีแค่รูปแบบเดียว
สิ่งที่เรามองว่าไม่มีความสุข แต่คนอื่นกลับสุขที่เป็นแบบนั้นก็ได้
แต่บางสิ่งที่เรามองว่าคนอื่นมีความสุข แต่กลับไม่รู้หรอกว่าเจ้าตัวต้องแอบหลั่งน้ำตาไปเท่าไร
ลูกไม่ใช่หุ่นกระบอกที่ผู้ปกครองจะจับวางอย่างไรก็ได้ ผู้ปกครองอย่าเข้าไปแทรกแซงให้มากจะดีกว่า มิฉะนั้นสุดท้ายแล้วมีแต่จะหมางใจกับเด็กๆ
สีหน้าของย่าเย่ว์เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “นั่นสิ ปล่อยพวกเขาจัดการกันเองดีกว่า”
คุณนายผู้เฒ่าอวิ๋นพยักหน้า “ใช่ๆ โตขนาดนี้แล้ว พวกเขายังจะกล้าให้พวกเรามานั่งกลุ้มใจแทนอีกเหรอ เข่อเหยา อาซือ อาหยวน เอ่อร์หลาน คนแก่อย่างพวกเราออกไปเดินเล่นกันไหม”
ยายหลานยิ้มพูด “พวกคุณเพิ่งจะมากัน พักสักหน่อยดีกว่า เดี๋ยวกินข้าวเย็นเสร็จพวกเราค่อยออกไปเดินเล่นดีไหม”
คุณนายผู้เฒ่าอวิ๋นมองนอกหน้าต่าง แดดกำลังแรง “ได้ กินข้าวเย็นเสร็จค่อยออกไป ที่นี่เป็นสุดยอดดินแดนแห่งการใช้ชีวิตเกษียณที่อู๋เปียนคะยั้นคะยอให้พวกเรามา ยังไงพวกเราก็ต้องออกไปเดินดูให้ทั่วๆ”
อาจารย์แม่รองถังหยวนยิ้มกว้าง “งั้นก็พักหลายๆ วันหน่อยนะคะ ในหมู่บ้านมีคนเฒ่าคนแก่เยอะ ไม่ต้องกลุ้มว่าจะเหงาไม่มีใครจิบชาพูดคุยด้วย ฉันกับสามีพอมาอยู่หมู่บ้านเถาหยวนก็ไม่อยากไปไหนแล้วค่ะ ยังคิดอยู่ว่าจะให้เหลนย้ายมาเรียนที่นี่ หลานชายกับหลานสะใภ้ก็ไม่ว่าอะไรด้วยค่ะ”
ไม่มีใครกล้าปฏิเสธคุณภาพการศึกษาของหมู่บ้านเถาหยวน
โรงเรียนมัธยมกำลังสร้าง
วันหน้าจะสมบูรณ์ยิ่งกว่านี้
ย่าตี้ยิ้มพูด “เสี่ยวอันเหยี่ยพอมาอยู่ที่นี่ก็ยิ่งชอบเรียนมากขึ้น อวิ๋นอี๋ ดูข้างนอกสิ”
คุณนายผู้เฒ่าอวิ๋นโจวอวิ๋นอี๋มองตามสายตาของย่าตี้ เห็นเจ้าถุงลมน้อยกำลังอยู่กับพวกเด็กๆ ต่างวัยตั้งใจฟังหยวนเหยี่ยให้ความรู้ทางการแพทย์
“ตัวแค่นี้…หึหึ…พวกเขาฟังไปก็ไม่เข้าใจหรือเปล่า”
ย่าเย่ว์พยักหน้ายิ้ม “ฟังไม่เข้าใจก็ยังนั่งนิ่ง ไม่ก่อกวน แค่นี้ก็เก่งมากแล้ว”
เธออิจฉามาก
ตระกูลเย่ว์ยังไม่มีรุ่นเหลนเลยนะ
ย่าตี้ดวงตาอมยิ้ม “พ่อแม่ของเสี่ยวอันเหยี่ยอยากรับเขากลับเมืองหลวงแต่เขาไม่ยอมกลับ”
หลานชายคนโตกับหลานสะใภ้คิดถึงลูกชายก็ทำได้แค่มาหาที่นี่ เด็กน้อยไม่ยอมไปจากหมู่บ้านเถาหยวน
คุณนายผู้เฒ่าอวิ๋นได้ฟังก็ยิ้มต่อเนื่อง “หมู่บ้านเถาหยวนทำเลดีมีแต่คนเก่ง อู๋เปียนกับอันเหยี่ยอยู่ที่นี่พวกเขาก็สบายใจได้”
แม้แต่หมอเทวดาหยวนกับตระกูลซย่าโหวที่เก็บเนื้อเก็บตัวยังมาใช้ชีวิตเกษียณที่นี่ แสดงให้เห็นว่าหมู่บ้านนี้ดีขนาดไหน!
ย่าตี้ยิ้มพูด “อันเหยี่ยเป็นว่าที่ราชาในอนาคต ฉันอยากให้เขาเก็บเกี่ยวความรู้จากหมู่บ้านเถาหยวนกลับไป ปู่ทวดเขาบอกว่า เสี่ยวเยาเยาก็เป็นนักปกครองได้”
เสี่ยวอันเหยี่ยติดเสี่ยวเยาเยาย่อมเป็นเรื่องดี
เหล่าคนชราต่างอดหันไปมองเด็กสาวกลุ่มนั้นไม่ได้
มู่เถาเยาถูกล้อมไว้ตรงกลาง ไม่รู้ว่าพูดอะไร พวกเด็กสาวพากันหัวเราะ
แม้พวกคนแก่อย่างปู่เย่ว์จะไม่ได้ยินว่าพวกเธอคุยอะไรกัน แต่ก็พลอยอดยิ้มไปด้วยไม่ได้
ถึงแม้หลานสาวของพวกเขาจะไม่ได้เติบโตในเผ่า แต่เธอมีสายเลือดที่บริสุทธิ์ที่สุดของตระกูลเย่ว์ ต่อให้ไปอยู่ท่ามกลางหมู่ชาวบ้านก็ยังเจิดจรัสได้
แน่นอนว่าความเฉิดฉายของเธอนั้นย่อมขาดผู้ที่เคียงข้างอย่างสองอาจารย์และชาวหมู่บ้านไม่ได้