อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 418 เลือกปฏิบัติ
ตอนที่ 418 เลือกปฏิบัติ
เมื่อทุกคนปิดเทอมหน้าร้อนแล้ว มู่เถาเยาก็เรียนจบปริญญาเอกอย่างเป็นทางการ
ไม่เพียงแต่สองผู้อาวุโสตระกูลอวิ๋นกับสองผู้อาวุโสตระกูลตี้จะไม่ได้กลับไป แม้แต่หยวนเหยี่ยกับพวกซย่าโหวโซ่วก็อยู่ที่เผ่าหมาป่าพระจันทร์ต่อด้วย
มู่หว่าน เจียงเฟิงเหมียน ถังถังก็มากันหมด
ลู่หันซูกับครอบครัวลู่ก็ถือโอกาสกลับมาพร้อมกัน
พวกศิษย์พี่ของมู่เถาเยามาแล้วก็กลับ ยกเว้นอาจารย์อาเล็กที่มีเวลา
ระยะนี้มู่เถาเยา เย่ว์เลี่ยง และลู่จือฉินต่างหาโอกาสพาเยี่ยนหังออกมาเป็นการส่วนตัวไม่ได้เลย
ข้างกายเด็กทารกทั้งสองมีคนอยู่ด้วยตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง
แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น พวกเธอก็ไม่ได้พลาดสายตาของเยี่ยนหังที่แรกเริ่มดูงุนงง จนถึงตอนนี้ที่สุขุมเยือกเย็น
เยี่ยนหังไม่ร้องงอแงเลยนอกจากตอนแรกคลอด หิวหรือขับถ่ายก็จะแค่ส่งเสียงอ้อแอ้ เลี้ยงง่ายไม่เหมือนเด็กทารก
ส่วนอู๋ซวงจะร้องตลอดไม่ว่าตอนหิว ขับถ่าย หรือเพิ่งตื่น จากนั้นมืออวบๆ ของเยี่ยนหังก็จะยื่นออกไปจับมือน้อยๆ ของน้องสาว ส่งเสียงอ้อแอ้ปลอบโยน
อู๋ซวงก็จะหยุดร้องอย่างรวดเร็ว
ย่าอวิ๋นกับย่าเย่ว์ยิ้มอุ้มหลานคนละคน เปลี่ยนผ้าอ้อมให้
“เยี่ยนหังน้อยไม่ถ่ายอีกแล้ว” ย่าอวิ๋นเปิดดูผ้าอ้อมของเขา ยังคงสะอาดสะอ้าน
“เยี่ยนหังฉลาด รักสะอาด มีแค่เดือนแรกที่ขับถ่ายในผ้าอ้อม ตอนนี้ไม่ค่อยแล้ว แต่ตอนนี้อู๋ซวงขับถ่ายแล้ว เขาก็ใกล้แล้วล่ะ”
อันที่จริงตอนแรกเริ่มเยี่ยนหังก็ขับถ่ายในผ้าอ้อมไม่เป็นเวลาเหมือนอู๋ซวง ต่อมาเวลาเขาอยากขับถ่ายก็จะส่งเสียงอ้อแอ้เรียกผู้ใหญ่ แต่พอผู้ใหญ่เปิดผ้าอ้อมดูพบว่าสะอาดสะอ้านก็ไม่เข้าใจว่าเขาอยากทำอะไร
ห่อกลับไป ทุกครั้งพอไม่กี่นาทีต่อมาเขาก็ขับถ่าย
เป็นแบบนี้อยู่หลายครั้งจนทุกคนเข้าใจแล้วว่าเขาส่งเสียงอ้อแอ้จะเอาอะไรหากไม่ใช่ตอนหิว
พอได้ยินย่าเย่ว์พูดแบบนี้ มู่เถาเยา เย่ว์เลี่ยง ลู่จือฉินก็มองหน้ากัน
ถึงแม้ตอนนี้เยี่ยนหังจะยังพูดไม่ได้ แต่มีวิธีของตัวเองที่จะแสดงออกว่าแตกต่าง
เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่สาว อาจารย์ และเสด็จแม่ต่างก็มาอยู่ที่นี่แล้ว
แต่ถึงแม้จะไม่รู้ เขาก็ยังชอบให้เธอ อาจารย์ และก็อาอุ้ม เพราะพวกเธอมีชื่อเหมือนเมื่อชาติก่อน เยี่ยนหังย่อมรู้สึกใกล้ชิดอบอุ่น!
ถึงแม้เมื่อชาติก่อนเยี่ยนหังเกิดได้ไม่นานเสด็จแม่ก็เสีย แต่สายใยความเป็นแม่ลูก สายเลือด เขาย่อมสัมผัสได้
พอย่าอวิ๋นพาเยี่ยนหังไปขับถ่ายเสร็จ ทารกน้อยที่ดวงตาดำขลับก็มองไปรอบๆ เห็นมู่เถาเยาก็ยื่นมือให้เธอ
ย่าอวิ๋นหอมแก้มหลานชายหนึ่งที ยิ้มจนตาหยี “เยี่ยนหังของพวกเราชอบพี่เยาเยาที่สุดแล้ว”
อวิ๋นสุ่ยเหยาอยู่ข้างย่าอวิ๋นพอดี พอเห็นทารกน้อยยื่นมือออกมาก็อยากอุ้มเขา
แต่เขาหดมือกลับทันที มองเธอด้วยสีหน้าไร้เดียงสา
พอมู่เถาเยาเดินไปตรงหน้า เขาก็ยื่นมือออกมาอีกครั้ง อีกทั้งพอมู่เถาเยาอุ้มเขาก็ยิ้ม
อวิ๋นสุ่ยเหยาแอบเซ็ง
ก็พี่สาวเหมือนกัน ทำไมถึงแตกต่างขนาดนี้!
จิ้มจมูกเด็กน้อยเล่น “เยี่ยนหัง ทำไมเลือกปฏิบัติแบบนี้ล่ะ แบบนี้ไม่ดีนะ”
ทุกคนหัวเราะ
หยางชิงเฉวียนแซวลูกสาว “แบบนี้ก็พูดได้แค่ว่าเสี่ยวเยาเยาเป็นที่รักของเด็กมากกว่าลูกไงล่ะ”
อวิ๋นสุ่ยเหยาไม่ยอม หันไปอุ้มอีกคน “อู๋ซวงไม่มีทางเป็นแบบนี้” เพราะอู๋ซวงยังยื่นมือมาหาคนอุ้มไม่เป็น!
ลู่จือฉินมองมู่เถาเยาที่อุ้มเด็กอยู่แล้วยิ้มพูดกับทุกคน “โดยทั่วไปเด็กทารกอายุสองสามเดือนถึงจะเริ่มจำคน แต่ยังไม่ถึงขั้นยื่นมือขอให้อุ้ม เยี่ยนหังกลับเหมือนเสี่ยวเยาเยา ฉลาดเกินวัย”
ให้เหตุผลได้แค่ฉลาดเกินวัย
ดีที่มีเสี่ยวเยาเยาเป็นตัวอย่างให้เห็นก่อน จึงไม่มีใครสงสัยเท่าไร
หยวนเหยี่ยพยักหน้าอย่างอารมณ์ดี “ใช่แล้ว ตอนผมเก็บเสี่ยวเยาเยาได้ เพิ่งจะอายุเดือนเดียว แต่ผมพูดอะไรเสี่ยวเยาเยาก็เหมือนเข้าใจหมด ถามอะไรก็ตอบอือ เหมือนเยี่ยนหังตอนนี้เลย”
อวิ๋นไป๋ผู้เป็นพ่อพูดอย่างมีความสุข “ลูกฉลาดเหมือนเย่ว์เลี่ยงครับ!”
เขาไม่พูดว่าเยี่ยนหังเหมือนเย่ว์เลี่ยง เพราะในสายตาของเขา ลูกสาวก็ฉลาดเหมือนกัน!
เย่ว์เลี่ยงคุยเล่นกับทุกคนเล็กน้อยแล้วพูดกับอวิ๋นไป๋ “คุณเองก็ไปทำงานได้แล้ว”
นับตั้งแต่ไปพักผ่อนที่เกาะเมื่อปีที่แล้ว เขาแทบจะไม่ออกนอกเผ่าเลยยกเว้นมีเรื่องใหญ่
“พวกเรามีเงินมากพอแล้ว ต่อไปผมจะทุ่มเทให้ครอบครัว เรื่องงานยกให้ลูกน้องจัดการไปก็พอ”
“…แต่คุณจะไม่ทำอะไรเลยก็ไม่ได้หรือเปล่า” เป็นผู้ชายเอาแต่วนเวียนอยู่รอบเมียกับลูกทุกวันมันจะดีเหรอ
“ผมอยู่กับพวกคุณก็คือกำลังทำเรื่องสำคัญที่สุด” อวิ๋นไป๋ทำสีหน้าจริงจัง
เย่ว์เลี่ยง “…”
ปู่อวิ๋นยิ้มพูด “ตอนนี้งานสำคัญของเสี่ยวไป๋ก็คืออยู่กับเธอและลูกๆ เรื่องงานรอลูกสองสามขวบค่อยไปทำก็ยังไม่สาย” อย่างไรเสียอวิ๋นไป๋ก็แค่ทำงานหาเงิน ซึ่งเขาก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินเสียหน่อย
อวิ๋นไป๋พยักหน้ารัวๆ “ใช่ ผมชอบเป็นพ่อบ้านเลี้ยงลูกมากเลย! คุณอยู่ไฟเสร็จก็จะเริ่มยุ่งแล้ว ผมจะเลี้ยงลูกดูแลคุณ”
เขากับตระกูลเย่ว์สามารถจ้างพี่เลี้ยงกับผู้เชี่ยวชาญมาช่วยดูแลลูกได้มากมายนับไม่ถ้วน แต่หลายเรื่องเขาก็อยากทำด้วยตัวเอง
นี่ก็เพราะยังกลัวเรื่องที่เสี่ยวเยาเยาหายไปตอนเด็ก
ดังนั้นลูกต้องอยู่ในสายตาเขายี่สิบสี่ชั่วโมง ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่สบายใจ กังวลว่าใครจะมาเอาลูกของเขาไป
เย่ว์เลี่ยงเลิกเถียงเรื่องนี้ เธอเปลี่ยนเรื่องคุย “พี่คะ อู๋เสียกำหนดคลอดเดือนตุลาใช่ไหมคะ ฉันจำได้ว่าอู๋เสียตรวจเจอว่าท้องได้เดือนกว่าตอนตรุษจีน”
คุณนายอวิ๋นเหอยิ้มพูด “ใช่จ้ะ ตอนคลอดเธอกับลูกก็ไม่ต้องไปหรอก เสี่ยวไป๋กลับเมืองหลวงเยี่ยมอู๋เสียคนเดียวก็พอ”
ตอนน้องชายคนเล็กแต่งงานกับเย่ว์เลี่ยง คุณนายอวิ๋นเหอก็ไม่ได้ให้ลูกชายคนโตกับสะใภ้ใหญ่พาจินเหยี่ยน้อยที่เพิ่งสามเดือนกว่ามา
มู่เถาเยาเห็นด้วยกับที่คุณนายอวิ๋นเหอพูด “ถึงเด็กที่คลอดได้สองสัปดาห์จะขึ้นเครื่องบินได้ แต่อวัยวะของเด็กแรกเกิดยังไม่สมดุลคงที่ หากขึ้นเครื่องบินอาจจะเกิดผลเสียมากกว่าค่ะ
เพราะระหว่างที่เครื่องขึ้นกับลง เสียงที่ดังเกินไปอาจส่งผลต่อการได้ยิน อีกทั้งระหว่างที่เครื่องขึ้นกับลง แรงดันที่เพิ่มและลดก็อาจส่งผลทำให้เยื่อแก้วหูทะลุได้ค่ะ
นอกจากนี้ แรงดันที่เปลี่ยนแปลงกะทันหันบนเครื่องบินก็อาจส่งผลต่อระบบประสาทของทารกด้วย
ดังนั้นไม่แนะนำให้พาเด็กทารกขึ้นเครื่องหากไม่จำเป็นนะคะ”
หยวนเหยี่ยยิ้มพลางพยักหน้า “เสี่ยวเยาเยาพูดถูก เด็กเล็กไม่ขึ้นเครื่องบินได้ก็อย่าขึ้นเลย”
เย่ว์เลี่ยง “ค่ะ งั้นรอเยี่ยนหังกับอู๋ซวงหย่านมแล้วฉันค่อยบินไปดูอู๋เสียกับลูกเองคนเดียว”
ตอนนี้ทารกทั้งสองกินนมแม่ เธอไปไหนไม่ได้
ย่าตี้ยิ้มพลางพยักหน้า
ย่าเย่ว์มองย่าตี้กับพวกอวิ๋นเหอแล้วพูดอย่างอารมณ์ดี “ตอนนี้เย่ว์เลี่ยงก็ใกล้อยู่ไฟครบแล้ว พวกคุณกลับไปอยู่กับอู๋เสียเถอะ”
อวิ๋นเหอมองย่าตี้
ย่าตี้พยักหน้า “เสี่ยวเหอกลับไปก่อน ไว้ใกล้หมดปิดเทอมหน้าร้อนพวกเราจะกลับไปพร้อมเสี่ยวเยาเยา ไว้ถึงเวลาอู๋เสียคลอดลูก พวกเราก็จะอยู่เมืองหลวงระยะหนึ่งเป็นเพื่อนอู๋เสียกับลูก”
ย่าอวิ๋น “ก่อนอู๋เสียคลอดหนึ่งเดือนฉันกับตาของเขาจะกลับไป รออยู่ไฟเสร็จค่อยกลับมา”
หยวนเหยี่ย “ตอนนี้อู๋เสียท้องเริ่มแก่ ผมกับเสี่ยวเหอจะกลับไปก่อนแล้วกัน ทางนี้มีเสี่ยวเยาเยากับจือฉินอยู่”
มู่เถาเยาพยักหน้า ดวงตากลมโตเปลี่ยนเป็นจันทร์เสี้ยว ถามคนอื่นๆ “แล้วอาจารย์รอง อาจารย์แม่รองกับปู่ทวดถังล่ะคะ”
อาจารย์แม่รองยิ้มพูด “เสี่ยวเยาเยา ไว้ใกล้เปิดเทอมพวกเราค่อยไปเมืองหลวงพร้อมหนู อู๋เสียคลอดลูกแล้วค่อยกลับหมู่บ้านเถาหยวนพร้อมอาจารย์ใหญ่ของหนูแล้วกัน”
ซย่าโหวโซ่วกับปู่ทวดถังพยักหน้าพร้อมกัน
“ได้ค่ะ”