อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 549 หวานจนแทบทะลัก
ตอนที่ 549 หวานจนแทบทะลัก
มู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนขับเลาะไปตามภูเขาตามที่ตำรวจหญิงบอก สองชั่วโมงต่อมาก็เห็นโรงแรมที่ชื่อว่า ‘ระหว่างทาง’
รถทั้งสองคันหยุดจอด พวกเขาเข้าไปในโรงแรมอยากกินอะไรร้อนๆ สักหน่อย
ถึงแม้บนรถบ้านก็มีห้องครัว แต่ทำอาหารในเขตไร้ผู้คนลำบาก เพราะเกิดมีสัตว์โผล่มาแม้แต่เวลาจะเก็บของยังไม่มี
พอนั่งเสร็จจางผิงผิงก็ถามขึ้น “เสี่ยวมู่ อู๋เปียน อยากกินอะไรกัน จะกินข้าวไหม”
มู่เถาเยา “หนูขอกาแฟสักแก้ว ขนมสักสองชิ้นก็พอแล้วค่ะ ถ้าป้าจางกับลุงลู่อยากกินข้าวก็กินได้นะคะ พวกเราไม่ได้รีบ”
ตี้อู๋เปียนพยักหน้า
จางผิงผิง “พวกเราน่าจะถึงหมู่บ้านเลี้ยงม้าประมาณหกโมง เดี๋ยวถึงตอนนั้นเข้าที่พักแล้วค่อยกินข้าวเย็นแล้วกัน ตอนนี้ดื่มกาแฟกินขนมไปก่อน”
ลู่ทงย่อมไม่คัดค้าน
ครั้นแล้วทั้งสี่คนจึงดื่มกาแฟคนละแก้ว พร้อมกินขนมสองชิ้น
หนึ่งชั่วโมงต่อมาก็ขับรถต่อ อีกหนึ่งชั่วโมงก็เข้าสู่ตัวอำเภอ
ถามทางไปหมู่บ้านเลี้ยงม้าจากตำรวจจราจรระหว่างทางแล้วรถทั้งสองคันก็ขับต่อ ไม่ได้แวะเที่ยวในตัวอำเภอ
ประมาณครึ่งชั่วโมงยิ่งมุ่งหน้าก็ยิ่งกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา
มู่เถาเยาลดกระจกลงครึ่งหนึ่ง กลิ่นหญ้าเขียวชอุ่มลอยมา
จางผิงผิงยิ้มตาหยี “ได้กลิ่นนี้ก็รู้แล้วว่าใกล้ถึงที่ราบทุ่งหญ้า ตอนนี้หญ้าน่าจะยังไม่เหลืองหรือเปล่า”
“ที่นี่อุณหภูมิค่อนข้างต่ำ อาจจะเหลืองสลับเขียวค่ะ”
“แบบนั้นก็ยังสวย ขอแค่ยังมีหญ้าก็พอแล้ว ก่อนมาที่นี่พวกเราไปเขตที่ราบสูงฝั่งตะวันตกมา ที่นั่นหญ้าเหลืองหมดแล้ว แต่ก็ให้ความรู้สึกอีกแบบ”
“ทางตะวันตกก็ดีค่ะ วิวสวย ผู้คนเป็นมิตร เป็นชนเผ่าแรงงานที่หาเช้ากินค่ำ” หลักๆ คือเสี่ยวหว่านชอบ
“ใช่จ้ะ ป้าชอบเมืองเล็กๆ ทางตะวันตกนะ เงียบสงบดี ช่วงเวลาที่สงบก็คือแบบนั้นเลย ป้ากับลุงยังอยากไปเช่าบ้านหลังเล็กๆ ในเมืองเล็กๆ อยู่สักสองสามปี”
เงินเกษียณของพวกเขาเพียงพอให้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายแล้ว สุขภาพก็ใช้ได้ ในระยะเวลาอันสั้นไม่ต้องให้ลูกเป็นห่วง
“ตราบใดที่คุณลุงคุณป้าปล่อยวางเรื่องในครอบครัวได้ก็ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ค่ะ”
“ลูกๆ แต่งงานมีหน้าที่การงานของตัวเองแล้ว หลานชายหลานสาวก็เข้าโรงเรียนประถมหมดแล้ว พวกเราไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้วจริงๆ รถบ้านคันนี้ก็พวกลูกๆ ช่วยกันออกเงินซื้อให้พวกเรา”
พวกลูกๆ มีชีวิตที่ดีกันพอสมควร ไม่อย่างนั้นพวกเขาที่เป็นพ่อแม่ไม่มีทางรับรถที่ราคาไม่ใช่ถูกๆ คันนี้
“ลูกกตัญญูก็เพราะคุณลุงคุณป้าเลี้ยงมาดีค่ะ”
จางผิงผิงมีความสุขมาก
ไม่มีใครไม่ชอบให้คนอื่นชมลูกตัวเอง แม้จะชมไปตามมารยาทก็ตาม แล้วนับประสาอะไรกับที่เธอรู้สึกได้ว่ามู่เถาเยาพูดจากใจจริง ไม่ได้ชมแบบขอไปที
ทั้งสองคนคุยเรื่องลูกกันไปเรื่อย ๆ ไม่นานก็เห็นป้ายหินของหมู่บ้านเลี้ยงม้า
ขับตามทางเข้าไป ทั้งสองฝั่งเป็นแปลงเกษตรสีเขียวชอุ่ม มีน้ำชุ่มฉ่ำ น่ารักพอสมควร
ไม่นานก็เห็นบ้านที่มีหลากสีสันเข้ามาในสายตา
มู่เถาเยาเลือกบ้านทรงกลมสีขาวที่ดูใช้ได้ จากนั้นก็จอดรถตรงลานจอดรถ
ตี้อู๋เปียนที่อยู่ด้านหลังก็ตามมา
พนักงานต้อนรับในนั้นออกมาพาแขกเข้าไป
จางผิงผิงยิ้มพูด “หนุ่มน้อย ขอพวกเราดูห้องก่อน ถ้าไม่เหมาะก็ไม่พักนะ”
หนุ่มน้อยที่สวมชุดคนเลี้ยงม้ายิ้มกว้างพูดกับแขก “รับรองต้องพอใจแน่ครับ! เถ้าแก่ของพวกเราเป็นดีไซเนอร์ โรงแรมของพวกเราตกแต่งตามมาตรฐานดาวเลยครับ”
“งั้นเหรอ มองจากไกลๆ ภายนอกของที่นี่เหมือนกระโจมมองโกลบนที่ราบทุ่งหญ้า แต่ก็แอบคล้ายบ้านดินของทางใต้…”
“คุณผู้หญิงสายตาเฉียบคมมากเลยครับ! เถ้าแก่ของพวกเราได้แรงบันดาลใจมาจากกระโจมมองโกลกับบ้านดินครับ”
เมื่อไปถึงกลางห้องโถงใหญ่ มู่เถาเยาก็เงยหน้ามองด้านบน ยอดโดมทรงกลมเป็นกระจก ภายในจึงมีแสงเข้าดีมาก จึงชมอย่างไม่มีตระหนี่ “พิเศษมากเลยค่ะ”
พนักงานต้อนรับเอาบัตรห้องรวมมาแล้วยิ้มถาม “ต้องการห้องแบบไหนดีครับ พักกี่ห้อง ชอบแบบเงียบสงบหรือว่า?”
ตี้อู๋เปียน “มีห้องชุดไหม สองห้องนอนหนึ่งห้องรับแขก หนึ่งห้องนอนหนึ่งห้องรับแขกอะไรแบบนั้น”
“มีครับ อยู่ในบ้านหลังในสุด เงียบสงบมากครับ แต่ห้องของพวกเราค่อนข้างใหญ่ พวกคุณไม่มีเด็ก อันที่จริงห้องเตียงใหญ่ก็น่าจะพอแล้ว…”
“เสี่ยวมู่ อู๋เปียน ลุงกับป้าพักห้องเตียงใหญ่ก็พอแล้ว ไม่ต้องเอาห้องชุดหนึ่งห้องนอนหนึ่งห้องรับแขกหรอก”
พนักงานยิ้มพลางพยักหน้า “เห็นด้วยครับ ห้องของพวกเราค่อนข้างใหญ่ ห้าสิบตารางเมตรได้ครับ”
“แพงมากหรือเปล่า”
“ตอนนี้เป็นช่วงก่อนหยุดยาว ธุรกิจซบเซาที่สุด พวกเราเลยมีส่วนลดครับคุณผู้หญิง ถ้าพวกคุณมาตอนวันหยุดยาว ราคาไม่ได้ขึ้นแค่หนึ่งเท่านะครับ แต่ถ้าคุณผู้หญิงไม่พอใจ พวกเรายังมีห้องเตียงใหญ่ขนาดสามสิบตารางเมตร ถูกกว่ากันเยอะครับ แต่ไม่ได้อยู่ตึกด้านหลังนี้ครับ”
“ขอพวกเราดูห้องก่อนค่อยว่ากันนะ” จางผิงผิงย่อมอยากพักอยู่ใกล้ตี้อู๋เปียนกับมู่เถาเยา จะได้ไปฝังเข็มสะดวก
“ได้ครับ เชิญทางนี้ครับ” พนักงานต้อนรับยิ้มพลางพูดระหว่างนำทาง “ผมเห็นรถของพวกคุณเลอะเทอะมาก มาจากทะเลทรายสี่สีผ่านเขตไร้ผู้คนกันมาใช่ไหมครับ พวกเราช่วยล้างรถให้ฟรีด้วยได้นะครับ แต่ไม่ได้เชี่ยวชาญอะไร อาจล้างไม่ได้ดีมากนัก ฮ่า ๆ”
“จะช่วยล้างรถให้ด้วยเหรอ! เยี่ยมเลย! พวกเราดูห้องก่อน หนึ่งห้องเตียงใหญ่ กับห้องชุดสองห้องนอนหนึ่งห้องรับแขก เด็กสองคนนี้เป็นพี่น้องกัน” แม้เธอจะไม่เชื่อก็ตาม!
ดูก็รู้ว่าอู๋เปียนคิดไม่ซื่อกับเสี่ยวมู สายตาแบบนั้นหวานหยาดเยิ้มจนแทบจะทะลักออกมาแล้ว
ตอนที่เพิ่งรู้ว่าเสี่ยวมู่เป็นลูกสาวแห่งชาติ เธอยังคิดว่าคนที่ดูธรรมดาอย่างอู๋เปียนไม่คู่ควรกับลูกสาว แต่พอคิดได้ว่าลูกสาวแปลงโฉมอยู่ งั้นอู๋เปียนก็น่าจะแปลงโฉมด้วย…
เอ๊ะ แต่ต่อให้หน้าตาแบบนี้จริง ขนาดเสี่ยวมู่ยังไม่ปฏิเสธ เธอเป็นคนนอกจะไปพูดอะไรได้
ก็แค่หัวอกคนเป็น ‘แม่’ ที่ห่วง ‘ลูกสาว’ เท่านั้นเอง
จางผิงผิงสลัดความคิดในสมอง เดินตามพวกเขาไป
พนักงานต้อนรับนำทางพลางพูดเกี่ยวกับโรงแรมให้ฟัง “…เชฟของโรงแรมเราเคยทำงานที่โรงแรมติดดาวในเมืองเจียงตูด้วยครับ เรื่องฝีมือไม่ต้องพูดถึง ถ้าพวกคุณได้ลองชิมจะรู้ว่าผมไม่ได้พูดเกินจริงครับ…” บลาๆ ๆ