อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 562 อยู่ในช่วงทดลองยา / ตอนที่ 563 ยกสมบัติตกทอดของตระกูลให้
- Home
- อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร
- ตอนที่ 562 อยู่ในช่วงทดลองยา / ตอนที่ 563 ยกสมบัติตกทอดของตระกูลให้
ตอนที่ 562 อยู่ในช่วงทดลองยา / ตอนที่ 563 ยกสมบัติตกทอดของตระกูลให้
ตอนที่ 562 อยู่ในช่วงทดลองยา
เวลาแปดโมงห้าสิบนาที ทุกอย่างก็เตรียมพร้อมหมดแล้ว
ครั้งนี้ฝังเข็มหุยหยางให้ย่าเสี่ยวที่ก่อน
มู่เถาเยากางม้วนเข็มที่ออกเหลือง หยิบเข็มหางหงส์ทำจากอุกกาบาตสีดำขลับที่เมื่อครู่ฆ่าเชื้อแล้ว
ปักเข็มช้ามาก เก้าวินาทีต่อเข็ม ใช้เวลาสิบหกนาทีสองวินาทีกว่าจะปักหนึ่งร้อยแปดเข็มหมด
เข็มหางหงส์มีเสียงดุจกระดิ่ง ใสกังวาน แตกต่างจากเสียงของเข็มทอง มู่เถาเยาฟังแล้วก็อดชื่นชมไม่ได้ “เสียงนี้เหมือนเสียงหงส์เลยค่ะ”
เมื่อชาติที่แล้วอาจารย์เคยเห็นเข็มหางหงส์ที่บรรพบุรุษสืบทอดกันมาแค่สมัยเป็นเด็ก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องใช้เลย แต่อย่างไรเสียก็เป็นของตกทอดภายในครอบครัว แม้อาจารย์จะยังเด็กก็มักได้ยินคนในครอบครัวพูดถึงเข็มวิเศษที่ตระกูลลู่ภาคภูมิใจชุดนี้
มู่เถาเยาแค่เคยได้ฟัง ไม่เคยเห็นของจริง นึกไม่ถึงว่าจะโชคดีได้เห็นในชาตินี้ อีกทั้งได้ใช้กับมือ
“มหัศจรรย์จริงๆ!” ลู่หมิงลูกชายของหมอชราสายตาจับจ้องอยู่ที่เข็ม
หมอชราลูบเครายิ้มพูด “แม่หนู ขนาดใส่เสื้อผ้าเธอยังฝังได้แม่นยำขนาดนี้ หาได้ยากจริงๆ”
“ชินแล้วค่ะ หนูใช้วิธีฝังเข็มวิธีนี้บ่อยค่ะ”
“แม่หนู ฉันดูแล้วนี่ไม่ใช่วิชาฝังเข็มสำหรับรักษาโรคใช่ไหม”
“ค่ะ นี่ไม่ใช่การรักษา แต่เป็นการดึงพลังฟ้าดินเข้าร่างกายมาช่วยหล่อเลี้ยง ‘การล่อหงส์’ ในสมัยโบราณแท้จริงแล้วเป็นการแสดงถึง ‘ยาอายุวัฒนะ’ ค่ะ”
ด้วยเหตุนี้การที่ลู่จือชางพี่ชายของอาจารย์หายตัวไปพร้อมเข็มหางหงส์ คนตระกูลลู่จึงสงสัยว่าเป็นภัยที่มาจากของล้ำค่า
หมอชราครุ่นคิดแล้วพูด “คนสมัยโบราณต่างอยาก ‘อายุยืนไม่แก่’ แต่ส่วนใหญ่ใช้ยาเป็นหลัก ไม่เคยได้ยินว่ามีการฝังเข็มเพื่อให้อายุยืนเลยนะ”
“สมัยโบราณการฝังเข็มใช้สำหรับการรักษาค่ะ การบำรุงจะใช้สมุนไพรปรุงอาหารกิน แต่ถ้าใช้การฝังเข็มให้ดีๆ ไม่จำเป็นต้องกินยาก็รักษาได้สารพัดโรคค่ะ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการบำรุงร่างกาย”
มู่เถาเยาคุยเรื่องวิชาฝังเข็มกับคนตระกูลลู่พลางดูเวลา พอถึงเวลาก็ดึงเข็มออก
จับชีพจร
สองพ่อลูกตระกูลลู่จ้องตาไม่กะพริบ
มู่เถาเยาก็ให้พวกเขาลองจับดู
หลังจากสองพ่อลูกจับชีพจรเสร็จ ความประหลาดใจในดวงตาก็ปกปิดไว้ไม่มิด
มู่เถาเยาก็ดีใจ “ประสิทธิภาพของเข็มหางหงส์ดีกว่าเข็มทองเยอะเลยค่ะ อาการของคุณย่าหนักกว่าคุณพ่อเสี่ยวที่ แต่หนูคิดว่าใช้เข็มหางหงส์ครั้งเดียวก็กำจัดโรคแทรกซ้อนได้หมดค่ะ”
พ่อเสี่ยวที่รีบพูดขึ้น “แล้วโรคหลักคืออะไรครับ ใช่กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเปล่า”
“ใจเย็นๆ ค่ะ เดี๋ยวกำจัดโรคแทรกซ้อนได้หมดโรคหลักก็น่าจะแสดงอาการแล้วค่ะ”
ในดวงตาของคนครอบครัวกู่เต็มไปด้วยความหวังและดีใจเหลือเกิน
“คุณย่าคะ ลองขยับมือเท้าหน่อยค่ะ ลองดูว่ายืนขึ้นไหม”
ย่าเสี่ยวที่แทบทนรอไม่ไหวแล้ว
นานแล้วที่เธอไม่ได้เดินแบบคนปกติ
เวลานี้แทบอยากเดินเป็นสิบกิโล!
ย่าเสี่ยวที่ยกมือลูบแขนอีกข้างของตัวเอง พูดด้วยความตื่นเต้นดีใจ “มือย่ามีแรงแล้ว!”
แม่เสี่ยวที่น้ำตาคลอ ประคองแม่สามี “แม่คะ หนูช่วยพยุงเดินนะคะ”
“จ้ะ แม่เดินได้แล้ว! แม่เดินได้แล้ว!”
ย่าเสี่ยวที่จับแม่เสี่ยวที่เดินสองสามก้าว จากนั้นก็บอกให้ลูกสะใภ้ปล่อยมือ
เดินเองแม้จะช้า แต่ก็เดินได้อย่างมั่นคง
ดีใจจนอยากร้องไห้
นานเท่าไรแล้วที่เธอไม่ได้สัมผัสกับเรี่ยวแรงที่เท้า
กู่ที่น้อยถามด้วยความดีใจ “พี่สาวฮะ ย่าหายดีแล้วใช่ไหมฮะ”
พ่อเสี่ยวที่ถามด้วยความระมัดระวัง “หมอเสี่ยวมู่ครับ พวกเราจะหายดีได้จริงเหรอครับ” เขากลัวว่ามันจะเป็นเพียงความฝันจริงๆ
“ขอจับชีพจรดูก่อนนะคะ”
อันที่จริงเธอพอจะรู้โรคหลักแล้ว เพราะจากที่ฝังเข็มเมื่อวาน ร่างกายของพ่อเสี่ยวที่ก็แสดงอาการของโรคหลักออกมาแล้ว
ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ไม่จำเป็นต้องใช้หญ้าพิษชีวิต แม้แต่ผลหมื่นปีก็ไม่จำเป็น
พ่อเสี่ยวที่รีบยื่นมือให้
มู่เถาเยาจับชีพจรที่ข้อมือทั้งสองของเขาเสร็จก็บอกผลลัพธ์กับทุกคน “โรคหลักไม่ใช่กล้ามเนื้ออ่อนแรงค่ะ แต่เป็นภาวะกระดูกนิ่มทำให้ไร้เรี่ยวแรง แรกสุดจะเริ่มจากกระดูกแขนขาที่อยู่ไกลหัวใจ แล้วค่อยๆ แผ่ขยายออกไปค่ะ”
หมอชรา “แม่หนูหมายความว่า ถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้ กระดูกทั่วทั้งร่างกายก็จะไร้เรี่ยวแรงเหมือนแขนขาเหรอ”
“ใช่ค่ะ ถ้ากระดูกทั้งร่างกายเป็นแบบนี้เมื่อไรก็หมดทางรักษาแล้วค่ะ”
คนตระกูลกู่ใจคอไม่ดี อารมณ์เดี๋ยวถูกพาขึ้นเดี๋ยวถูกพาลง
เมื่อครู่ดีใจมากแค่ไหน ตอนนี้ก็เป็นทุกข์มากเท่านั้น
กู่ถิงถามด้วยความร้อนใจ “แล้วยังรักษาได้ไหมคะ”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ รักษาได้ เถาเกล็ดปลาไร้ใบกับเถาเกล็ดก็รักษาได้แล้วค่ะ”
หมอชราครุ่นคิด นึกไม่ออกว่าสมุนไพรสองชนิดนี้คืออะไร “แม่หนู เถาเกล็ดปลาไร้ใบกับเถาเกล็ดมันคืออะไร ฉันอยู่มาเจ็ดสิบปีทำไมไม่เคยได้ยินเลย”
“เถาเกล็ดปลาไร้ใบไม่มีใบทั้งต้น ผิวด้านนอกเหมือนเกล็ดปลาค่ะ เป็นสมุนไพรวิเศษ รักษาโรคกระดูกได้ผลชะงัด ส่วนเถาเกล็ดเป็นสมุนไพรมหัศจรรย์ที่ช่วยรักษาเส้นเอ็นที่ถูกทำลาย ดีต่อการซ่อมแซมกระดูกเช่นกัน สมุนไพรสองชนิดนี้มีเขียนไว้ในตำราโบราณสมุนไพรแปลก หนูเคยเจอที่ป่าเซียนโหยวต้นหนึ่ง และก็เคยคิดค้นสมุนไพรที่ทดแทนมันได้ เพียงแต่ตอนนี้ยากำลังอยู่ในขั้นทดลอง ยังไม่วางขายค่ะ”
“ตำราโบราณเหรอ”
“ใช่ค่ะ หนูเก็บสะสมตำราโบราณมากมายเอามาศึกษา จากการทดลองจริง ส่วนใหญ่ได้ผลลัพธ์ที่แสนวิเศษเลยค่ะ ถ้าท่านหมอสนใจเดี๋ยวหนูให้คนที่เอายามาส่งหยิบพวกตำรามาให้ด้วยได้นะคะ”
“เอาสิ!” ดวงตาของหมอชราที่ขุ่นไปตามวัยมีแสงเปล่งประกาย
ย่าเสี่ยวที่ที่อยู่ด้านข้างจับมือลูกชายกับลูกสะใภ้ไว้แน่น น้ำตานองหน้า
ในที่สุดพวกเขาก็จะพ้นทุกข์แล้ว!
ตอนที่ 563 ยกสมบัติตกทอดของตระกูลให้
เดินอยู่ครึ่งชั่วโมงมู่เถาเยาก็ฝังเข็มกำจัดโรคแทรกซ้อนให้ย่าเสี่ยวที่
โรคแทรกซ้อนจะรุนแรงขนาดไหนก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับเข็มหางหงส์และวิชาหุยหยาง ครั้งเดียวถูกถอนไม่มีเหลือ
แต่ร่างกายของหญิงชราอ่อนแอ ทนรับพลังฟ้าดินที่หนักหน่วงแบบนี้ไม่ไหว พอดึงเข็มออกก็หมดสติไปทันที
“แม่” พ่อกับแม่เสี่ยวที่ร้อนใจจนเหงื่อแตก
มู่เถาเยาจับชีพจรให้หญิงชราที่หมดสติในอ้อมกอดเธอแล้วพูดขึ้น “ไม่ต้องห่วงค่ะ แค่เหนื่อยเกินไป พักผ่อนครึ่งวันก็ดีขึ้นค่ะ”
แม่เสี่ยวที่ยื่นมือออกไปอุ้มแม่สามีเข้าไปนอนบนเตียงในบ้าน
มู่เถาเยาฆ่าเชื้อเข็มหางหงส์เสร็จก็ฝังเข็มให้พ่อเสี่ยวที่
หลังดึงเข็มออกพ่อเสี่ยวที่ไม่ได้หมดสติ ประการแรกเพราะอาการของโรคไม่รุนแรง ร่างกายย่อมไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น ประการสองเพราะถึงแม้สองแม่ลูกจะเป็นโรคเดียวกัน แต่โรคแทรกซ้อนกลับไม่เหมือนกัน
“หมอเสี่ยวมู่ครับ ผมรู้สึกตัวเบาสบายมากเลยครับ”
“โรคแทรกซ้อนค่อนข้างหนัก ต่อสู้กับโรคหลักในร่างกายพวกคุณเพื่อแย่งจะ ‘แสดงอาการ’ เวลานี้กำจัดไปได้หนึ่ง ไม่ต้องต่อสู้แล้ว ร่างกายย่อมเบาสบายขึ้นค่ะ คุณพ่อเสี่ยวที่ไปพักสักครู่นะคะ ตอนเที่ยงไม่ต้องลุกมากินข้าว นอนจนกว่าจะตื่นค่อยกินโจ๊กเปล่าหน่อย อาหารเย็นกินเร็วหน่อย บำรุงเยอะๆ คุณย่าก็เหมือนกันค่ะ”
แม่เสี่ยวที่ขานรับด้วยความดีใจ ประคองสามีเข้าบ้านพักผ่อน
ทุกคนต่างมีสีหน้ายินดี
กู่ถิงพูดด้วยความดีใจ “หมอเสี่ยวมู่คะ คิดค่ารักษาของคุณป้ากับพี่ใหญ่มานะคะ ฉันจะจ่ายแทนพวกเขาให้ก่อน”
มู่เถาเยาฆ่าเชื้อเข็มหางหงส์พลางพูด “ฉันเก็บเถาเกล็ดปลาไร้ใบกับเถาเกล็ดได้จากป่าเซียนโหยว ส่วนยาฉันก็ทำขึ้นมาเอง ไม่มีต้นทุนอะไร พวกเขามีวาสนาได้มารักษากับฉัน ไม่ต้องถือสาค่ะ”
หมอชรายิ้มพูด “แม่หนู เก็บเข็มหางหงส์ไว้นะ”
พอได้เห็นมู่เถาเยาใช้เข็ม เขาก็รู้ได้ว่าเธอมีวาสนากับเข็มชุดนี้
มือของมู่เถาเยาหยุดชะงัก มองหมอชรา “นี่มันสมบัติตกทอดของตระกูลท่านหมอไม่ใช่เหรอคะ”
“บรรพบุรุษบอกไว้ว่า เข็มวิเศษมีวาสนาของมันเอง มันต้องอยู่ในมือคนที่วาสนาต้องกันเท่านั้นถึงจะเกิดประโยชน์สูงสุด มันถึงจะมีคุณค่า”
มู่เถาเยามองเข็มในมือแล้วพูดต่อ “หนูอาจไม่ใช่วาสนาของมันก็ได้นะคะ ลู่ซินหราน…”
“ซินหรานพอมีพรสวรรค์ในด้านเรียนแพทย์ก็จริง แต่เขาไม่มีกำลังภายใน ใช้วิชา ‘ล่อหงส์’ ไม่ได้หรอก ต่อให้ตอนนี้เริ่มเรียนกำลังภายใน ก็ใช่ว่าจะใช้เข็มหางหงส์ได้ในวันสองวัน”
“ท่านหมอคะ เข็มหางหงส์ใช้กับวิชาฝังเข็มได้ทั้งหมด ไม่ได้จำกัดแค่ ‘ล่อหงส์’ ค่ะ”
“ฉันรู้ แต่มันอยู่ในมือคนที่วาสนาต้องกันย่อมเกิดประโยชน์มากกว่าคนทั่วไป”
มู่เถาเยาจนปัญญาจะคัดค้านคำพูดนี้ พูดได้เพียง “เอาแบบนี้แล้วกันค่ะ เดี๋ยวจะถึงช่วงหยุดวันชาติแล้ว อธิการบดีเจียงเฉาอาจารย์อาเล็กของหนูจะไปเยี่ยมอาจารย์ใหญ่ที่หมู่บ้านเถาหยวน จะให้ลู่ซินหรานไปด้วย ให้อาจารย์รองดูหน่อยว่าเขามีพรสวรรค์ด้านฝึกยุทธ์หรือเปล่า”
อาจารย์สามของเธอหลังจากที่ได้รู้ว่าคนตระกูลลู่อาจเป็นลูกหลานของลู่จือชางพี่ชายของเธอก็ดีใจมาก ดังนั้นเธอต้องหาโอกาสให้อาจารย์ได้มาเจอ
คนตระกูลลู่ย่อมดีใจที่ลูกหลานตัวเองมีโอกาสได้ไปเจอหมอเทวดาหยวน
ลู่หมิงโทรหาลูกชายคนโตทันที
มู่เถาเยาฆ่าเชื้อเข็มหางหงส์เสร็จก็วางกลับเข้ากล่องตามเดิม สองมือประคองคืน “ท่านหมอเก็บไว้ก่อนนะคะ ถ้าถึงคราวจำเป็น หนูจะบากหน้ามาขอยืมค่ะ”
บางทีเสี่ยวลู่ลู่ที่อยู่ในท้องอาจารย์สามต่างหากที่เป็นคนมีวาสนาต้องกับเข็มหางหงส์
หมอชราไม่รับ ยิ้มพูด “เธอไม่ต้องบอกปัดหรอก ถึงแม้เข็มวิเศษชุดนี้จะเป็นของตกทอดของตระกูลลู่ แต่คำพูดของบรรพบุรุษก็สืบทอดกันมาทุกรุ่น ราวกับยังดังอยู่ข้างหู พวกเราย่อมไม่กล้าลืม”
มู่เถาเยาครุ่นคิดแล้วพูด “ถ้าอย่างนั้น ถ้ามีคนที่เหมาะสมมากกว่าหนู หนูก็ยกให้ได้ใช่ไหมคะ”
หมอชราพยักหน้า “ถ้าเธอเห็นว่ามีคนที่เหมาะสมกว่า จะยกให้คนนั้นก็ได้”
“งั้นหนูขอเก็บเอาไว้ก่อน ท่านหมอคะ หนูอยากเอาเข็มวิเศษให้อาจารย์ใหญ่กับอาจารย์สามดู ท่านหมออยากไปเมืองเย่ว์ตูกับหมู่บ้านเถาหยวนด้วยกันไหมคะ เดี๋ยวหนูจะบอกให้คนเอายามาส่งเลย พรุ่งนี้เครื่องบินก็น่าจะมาถึงที่นี่ จากนั้นจะกลับเมืองเย่ว์ตูไปรับอาจารย์อาเล็กกับพวกศิษย์พี่ก่อนหยุดยาววันชาติแล้วไปเยี่ยมอาจารย์ใหญ่ที่หมู่บ้านเถาหยวนด้วยกันค่ะ”
หลักๆ คืออยากเชิญไปให้อาจารย์สามเจอหน้า อาจารย์สามท้องอยู่ นั่งเครื่องบินไม่สะดวก ไม่อย่างนั้นคงไม่ต้องรบกวนให้คนแก่ไป
หมอชราดีใจมาก สีหน้าเบิกบาน “ฉันก็ไปเจอหมอเทวดาหยวนได้เหรอ”
“ได้สิคะ ตราบใดที่ท่านหมอไม่รังเกียจที่หมู่บ้านเถาหยวนอยู่ไกล อาจารย์ของหนูได้เจอคนวงการเดียวกันย่อมดีใจค่ะ”
“หมอเทวดาหยวนอยู่ที่หมู่บ้านเถาหยวนตลอดเลยเหรอ”
“ค่ะ ตลอดยี่สิบกว่าปีมานี้ มีออกไปข้างนอกบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตที่หมู่บ้านเถาหยวนค่ะ”
“ดูท่าที่นั่นจะเป็นที่ที่เหมาะกับชีวิตวัยเกษียณ”
มู่เถาเยายิ้มพูด “ดีมากจริงๆ ค่ะ กลัวแค่ว่าท่านหมอไปแล้วจะไม่อยากกลับมา”
หมอชราหัวเราะเสียงดัง “พอแก่แล้วก็ไม่อยากไปไหนไกล แต่ถ้าได้เจอหมอเทวดาหยวนอีกครั้งฉันก็รู้สึกว่าคุ้มค่า!”
เหอโยวลูกสะใภ้ของหมอชรายิ้มถาม “คุณหมอเทวดาคะ ฉันไปเป็นเพื่อนคุณพ่อได้ไหมคะ เห็นต้องนั่งเครื่องบินนาน คุณพ่ออายุมากแล้ว ฉันจะได้ไปช่วยดูแล…”
เธอเองก็คิดถึงลูกชายคนโต เดิมทีตกลงกันว่าหยุดวันชาติจะกลับมา
ลู่หมิง “…”
เขาก็อยากไปด้วย แต่ที่บ้านจะไม่มีคนอยู่ไม่ได้ เพราะหมู่บ้านละแวกนี้มีแค่พวกเขาที่เป็นหมอ
ถึงแม้ในตัวตำบลจะมีโรงพยาบาล มีคลินิก แต่ตระกูลลู่ของพวกเขามีชื่อเสียงมากในหมู่บ้านละแวกนี้ พวกชาวบ้านยินดีมารักษาที่บ้าน
มู่เถาเยายิ้มพลางพยักหน้า “ได้สิคะ”