อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 566 มีกลิ่นคาวปลา
ตอนที่ 566 มีกลิ่นคาวปลา
วันรุ่งขึ้นเป็นวันอังคาร ตอนบ่ายหร่วนเหวินขับเครื่องบินเอายามาส่ง เครื่องลงจอดบนที่ราบทุ่งหญ้า
คนที่มากับหร่วนเหวินยังมีเฉิงอันนั่ว มู่เถาเยาให้เขามาสังเกตอาการของผู้ป่วยหลังจากใช้ยารักษาภาวะกระดูกนิ่ม เพราะก่อนหน้านี้เขาเข้าร่วมการคิดค้นยารักษาโรคกระดูก
กู่ถิง หยางเกอ จางผิงผิงและคนอื่นๆ ตามมู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนมารับคนด้วย
เฉิงอันนั่วเรียกด้วยความลังเล “อาจารย์อาเล็ก? อู๋เปียน?”
สองใบหน้านี้แม้แต่พ่อกับแม่ก็จำไม่ได้หรือเปล่า!
ถ้าไม่ได้คุ้นเคยบุคลิกกับรูปร่าง เขาก็ไม่กล้าเรียกหรอก!
ตี้อู๋เปียนพยักหน้า “อันนั่ว ฉันเอง”
ถึงแม้เฉิงอันนั่วจะโตกว่าเขาสองปี แต่ความอาวุโสของมู่เถาเยามีมากกว่า เขาจึงเรียกตามมู่เถาเยามาตลอด
มู่เถาเยา “อันนั่ว ที่บ้านสบายดีกันไหม”
“ทุกคนสบายดีครับ มีความสุขทุกวัน ยังบอกอีกว่าช่วงสองวันนี้อาจารย์อาเล็กกับอู๋เปียนถ่ายรูปน้อยมาก แต่ทุกคนก็รู้ว่าอาจารย์อาเล็กช่วยรักษาคนป่วยอยู่ ไม่ยอมออกไปเที่ยวไหนแน่ จึงไม่เร่งให้ส่งรูปให้ดูครับ”
มู่เถาเยายิ้ม “อีกสองสามวันพวกเราก็จะท่องเที่ยวต่อแล้วล่ะ”
อืม เส้นทางนางแบบของเธอจะเริ่มขึ้นอีกแล้ว
หลังจากแนะนำทุกคนให้รู้จักกันแล้วทุกคนก็เดินเข้าหมู่บ้าน
มู่เถาเยา “พี่อาถิงคะ สองวันนี้ศิษย์หลานของฉันกับพี่หร่วนเหวินต้องรบกวนพี่อาถิงด้วยนะคะ”
กู่ถิงยิ้มพูด “ไม่ต้องเกรงใจเลยจ้ะ”
ทุกคนกลับโรงแรมก่อน ให้เฉิงอันนั่วกับหร่วนเหวินวางสัมภาระ จากนั้นค่อยไปบ้านครอบครัวกู่ด้วยกัน
กู่ถิงให้คนเอาชุดน้ำชายามบ่ายมาส่ง
แม่เสี่ยวที่ถามด้วยความทนรอไม่ไหว “หมอเสี่ยวมู่คะ เมื่อไรจะเริ่มกินยาเหรอคะ”
“อ้อ” แม่เสี่ยวที่จำต้องพยายามข่มความตื่นเต้นภายในใจ
หมอชรายิ้มหึหึถาม “แม่หนู ขอฉันดูยาหน่อยได้ไหม”
มู่เถาเยาพยักหน้า เปิดกล่องยาขนาดเล็กที่เฉิงอันนั่วเอามา กล่องยาใบนี้ทำจากไม้ บนฝามีเครื่องหมายบวกสีแดง เธอหยิบขวดยาเล็กๆ สีขาวออกมายื่นให้หมอชรา
หมอชรารีบดึงจุกไม้ออกแล้วเทเม็ดยาสีน้ำตาลออกมาหนึ่งเม็ด ยาเม็ดเล็กที่มองภายนอกคล้ายเกล็ดปลาอยู่ในมือ
มู่เถาเยา “นี่คือยามัจฉาอบอวลที่ทำจากเถาเกล็ดปลาไร้ใบค่ะ”
หมอชราเอายาขึ้นมาดมใกล้ๆ จมูก ถามด้วยความประหลาดใจ “ยานี้มีกลิ่นคาวปลาด้วยเหรอ”
“ใช่ค่ะ มีกลิ่นคาวปลาด้วย รอบๆ เถาเกล็ดปลามีหญ้าคาวปลาขึ้นเยอะมาก มันดูดเอากลิ่นของหญ้าคาวปลาเข้าไปค่ะ”
“มิน่าล่ะ”
มู่เถาเยาหยิบขวดสีเขียวอีกใบแล้วเทยาเม็ดสีดำลงบนฝ่ามือตัวเอง เลื่อนไปตรงหน้าหมอชรา
หมอชราเก็บยาเกล็ดปลากลับเข้าขวดสีขาวก่อน ปิดจุกให้แน่น จากนั้นก็รับยามาจากมือมู่เถาเยา “นี่ก็คือยาที่ทำจากเถาเกล็ดเหรอ”
“ใช่ค่ะ”
หมอชราสังเกตดูก่อนแล้วถึงดม
“มีกลิ่นหอมของชะมดเช็ดด้วย ในนี้ใส่ชะมดเช็ดด้วยเหรอ”
มู่เถาเยาส่ายหน้า “เปล่าค่ะ นี่เป็นกลิ่นของเถาเกล็ดเลยค่ะ”
“มหัศจรรย์จริงๆ”
หมอชราดูยาเสร็จก็เก็บกลับเข้าขวด
มู่เถาเยาเก็บขวดยากลับเข้ากล่องยาแล้วดันให้แม่เสี่ยวที่พร้อมอธิบาย “ขวดขาวเป็นยามัจฉาอบอวล กินหลังอาหารเช้าครึ่งชั่วโมง ขวดเขียวเป็นยาเถาเกล็ด กินหลังอาหารเย็นครึ่งชั่วโมงค่ะ ยาเข้าปากจะละลายทันที ไม่จำเป็นต้องกินน้ำตาม ยาแต่ละชนิดกินวันละเม็ดก็พอค่ะ กินเยอะไปร่างกายก็ดูดซึมไม่ได้ เพราะยาชนิดนี้บริสุทธิ์มาก”
แม่เสี่ยวที่กอดกล่องยาไว้ ราวกับกอดโลกทั้งใบ ดวงตามีประกายน้ำตาคลอด้วยความดีใจ
“ตอบยากค่ะ โรคนี้มีโอกาสสืบทอดทางพันธุกรรมแค่ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ต่อให้โชคร้ายเป็นโรคนี้ แต่นั่นมันก็เรื่องตอนโตแล้ว อย่าคิดมากเกินไปเลยค่ะ ตอนนี้พวกเราคิดค้นส่วนผสมหลักที่มาแทนที่เถาเกล็ดปลาไร้ใบกับเถาเกล็ดได้แล้ว ตอนนี้อยู่ในช่วงทดลองยา ไม่ต้องกลัวว่าพอถึงตอนนั้นจะไม่มียารักษาค่ะ”
คนครอบครัวกู่ได้ยินดังนั้นก็โล่งอกขึ้นมาก
“คุณย่า คุณพ่อคุณแม่เสี่ยวที่คะ ถ้ายินดีให้เสี่ยวที่เรียนหมอ ตัดใจให้เขาจากครอบครัวไปได้ ส่งไปเรียนที่หมู่บ้านเถาหยวนกับอาจารย์ของหนูได้นะคะ ที่นั่นมีเด็กไม่กี่ขวบหลายคนเรียนด้วยกันค่ะ เพื่อนเล่นเยอะเลย”
ย่าเสี่ยวที่ถามด้วยความตะลึง “อายุไม่กี่ขวบก็เรียนหมอแล้วเหรอ”
“แค่เริ่มต้นค่ะ ปกติก็ไปเรียนที่โรงเรียน ในหมู่บ้านเถาหยวนมีโรงเรียนอนุบาล โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยมต้น ตอนนี้เตรียมสร้างโรงเรียนมัธยมปลายอยู่ พวกน้อง ๆ ของหนู ลูกของศิษย์พี่ แล้วก็ลูกของคนที่ทำงานที่นั่นต่างเรียนที่หมู่บ้านเถาหยวน ไม่ต้องกังวลเรื่องอุปกรณ์การเรียนการสอนเลยค่ะ”
กู่ถิงพูดกับคนครอบครัวกู่ด้วยความดีใจ “คุณป้า พี่ใหญ่พี่สะใภ้คะ หมู่บ้านเถาหยวนเป็นหมู่บ้านที่สุดยอดมาก สินค้าชื่อดังหลายตัวที่ขายอยู่ข้างนอกมาจากหมู่บ้านเถาหยวนทั้งนั้นค่ะ”
“แต่เสี่ยวที่เพิ่งห้าขวบ ยังดูแลตัวเองไม่ได้” แม่เสี่ยวที่ไม่ได้ตัดใจไม่ลง แค่เป็นห่วงว่าจะไม่มีใครดูแลลูก
มู่เถาเยา “รอคุณย่ากับคุณพ่อเสี่ยวที่หายดีแล้ว คุณแม่เสี่ยวที่ค่อยไปใช้ชีวิตเป็นเพื่อนเสี่ยวที่ที่หมู่บ้านเถาหยวนระยะหนึ่งก็ได้ค่ะ ทางหมู่บ้านหางานให้ทำได้ ยังไม่ต้องรีบตัดสินใจตอนนี้ ท่านหมอก็กำลังจะไปใช่ไหมล่ะคะ พอถึงตอนนั้นค่อยถามเรื่องหมู่บ้านเถาหยวนจากท่านหมอก็ได้ค่ะ แล้วค่อยปรึกษากันว่าจะให้เสี่ยวที่ไปไหม”
เธออยากปั้นหมอให้สำนักแพทย์โบราณ
หร่วนเหวินยิ้มพูด “ลูกชายฉันเพิ่งสามขวบก็ส่งไปที่นั่นแล้วค่ะ ให้คุณยายเขาดูแล”
พ่อเสี่ยวที่รีบรับปาก
ลูกชายของตัวเองมีโอกาสเรียนกับหมอเทวดาที่โด่งดังที่สุด นี่เป็นเรื่องดีที่ใช่ว่าขอแล้วจะได้ แล้วทำไมจะไม่ตกลงล่ะ ยิ่งไปกว่านั้นลูกชายก็ยอมเรียนหมอด้วย
ในเมื่อมีวิธีจัดการปัญหาที่ลูกยังดูแลตัวเองไม่ได้ ใครไม่ตอบรับก็โง่แล้ว!