อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 595 แฟนชื่อเสี่ยวลู่ ตอนที่ 596 อวัยวะเสื่อมโทรม
ตอนที่ 595 แฟนชื่อเสี่ยวลู่ ตอนที่ 596 อวัยวะเสื่อมโทรม
ตอนที่ 595 แฟนชื่อเสี่ยวลู่
ตอนเย็น น่าซูถูกับเฮ่อสี่พาฮาเซินน้อยที่เลิกเรียนกลับมา พอเห็นมู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนกลับมาบ้านแล้วก็ดีใจกันมาก
ครอบครัวน่าทั้งสี่คนยกเว้นฮาเซินน้อยที่ไม่ประสีประสาต่างเป็นห่วงแขกพิเศษสองคนนี้ที่เข้าไปตั้งแคมป์ในภูเขาหิมะ
“เสี่ยวมู่ คุณชายเล็ก ร่างกายไม่มีปัญหาใช่ไหมจ๊ะ” เฮ่อสี่จับตัวมู่เถาเยามาสำรวจจนทั่ว
“วางใจได้ค่ะ พวกเราไม่เป็นอะไร พวกพี่เรียกตี้อู๋เปียนว่าเสี่ยวลู่ก็พอค่ะ อยู่ข้างนอกแบบนี้ไม่ต้องพิธีรีตองอะไรมากค่ะ”
“ได้จ้ะ”
เวลานี้ลาจูยกเตาไฟฟ้าออกมาพลางพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “คืนนี้พวกเรากินหม้อไฟกัน เสี่ยวมู่กับคุณชายเล็กไม่ได้กินของร้อนๆ มาสองวันแล้ว อาถู อาสี่ ไปล้างมือแล้วเข้าครัวยกพวกผักที่ล้างหั่นเสร็จแล้วออกมาหน่อย”
สองสามีภรรยาขานรับ
มู่เถาเยา “หนูไปช่วยด้วยอีกแรงค่ะ”
ลาจูยิ้มพลางจับมู่เถาเยาที่กำลังจะเข้าครัวไว้ มองด้วยสายตาเอ็นดู “แค่ยกผักไม่ต้องใช้คนเยอะขนาดนั้นหรอกจ้ะ พวกเธอช่วยยกเก้าอี้ตรงนี้ดีกว่า”
เนื่องจากน่าเค่อเลี่ยเท้าเจ็บ ระยะนี้จึงกินข้าวกันในห้องรับแขก
ฮาเซินน้อยเข้าไปจับมู่เถาเยา
มู่เถาเยาลูบศีรษะของเขา “คนเก่ง พวกเราช่วยกันยกเก้าอี้นะ”
พวกเขาช่วยกันอย่างขมีขมัน ไม่นานก็ได้กิน
ตี้อู๋เปียนใช้โอกาสนี้บอกครอบครัวน่าว่าพรุ่งนี้จะไปจากที่นี่แล้ว ออกเดินทางกันต่อ
ครอบครัวน่าก็รู้ว่าพวกเขาไม่มีทางอยู่นาน จึงพูดรั้งแค่ตามมารยาท
กลับเป็นเฮ่อสี่ที่เหมือนมีอะไรอยากพูดแต่ไม่พูด
มู่เถาเยาเป็นคนละเอียดอ่อนมาตลอด พอเธอสังเกตเห็นจึงพูดขึ้น “พี่สะใภ้มีอะไรก็พูดมาได้เลยค่ะ ไม่เป็นไร”
เฮ่อสี่พูดด้วยความเกรงใจนิดหน่อย “เสี่ยวมู่ พวกเธออยู่ต่ออีกสักวันได้ไหม พี่อยากให้ช่วยตรวจดูพ่อพี่หน่อยว่าพอจะมีหนทางรักษาให้หายหรือเปล่า”
พอได้เจอลูกศิษย์ของหมอเทวดา เธอก็ไม่อยากพลาดโอกาสนี้
น่าซูถูอธิบาย “เสี่ยวมู่ พ่อตาพี่ออกไปทำงานกลางแจ้งหลายปี หนาวจนบาดเจ็บบ่อยครั้ง ถึงแม้ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นอัมพาต แต่เป็นโรคเกี่ยวกับข้อกระดูกหนักมาก หลายครั้งที่เดินแทบไม่ได้ ไปหาหมอมาหลายคนก็รักษาไม่หาย ให้มาแค่ยา บอกให้พวกเราค่อยๆ รักษาไป”
ลาจูพูดต่อ “พ่อของอาสี่ไม่แข็งแรงจริงๆ กินยาอยู่ตลอด แต่ก็ไม่เห็นจะได้ผลสักเท่าไร”
และก็เพราะมีเรื่องแบบนี้ให้เห็น เธอถึงได้ห้ามสามีทำงานกลางแจ้งเกินสองชั่วโมงของทุกวัน ไม่อย่างนั้นเธอจะออกไปตามหา
น่าเค่อเลี่ยไม่อยากให้ภรรยาต้องออกไปหนาวด้วยส่วนใหญ่จึงจะกลับมาภายในสองชั่วโมง
มู่เถาเยาพยักหน้า “งั้นพรุ่งนี้หนูจะตามพี่สะใภ้ไปตรวจดูให้ค่ะ”
เฮ่อสี่พูดขอบคุณด้วยความดีใจ
“ไม่ต้องเกรงใจค่ะ อันที่จริงคนอาศัยอยู่ในพื้นที่อากาศหนาวเย็นจะอายุยืนกว่าคนอาศัยในเขตร้อนสิบถึงสามสิบปีเลยนะคะ เพราะอากาศเย็นจะกระตุ้นให้เกิดการหนีหนาวไปจำศีล ซึ่งภาวะแบบนี้จะทำให้เซลล์ในร่างกายทำงานช้าลง…อวัยวะภายในของคนเราจะรักษาประสิทธิภาพการทำงานได้ยาวนานก็ต่อเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมอุณหภูมิต่ำ…แต่ว่าหากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิต่ำมากๆ เป็นเวลานานก็จะเกิดปัญหาตามมาที่มากจริงๆ ที่พบได้บ่อยคือโรคเกี่ยวกับไขข้ออักเสบ โรคอื่นๆ ก็เช่น โรคทางเดินหายใจ โรคหลอดเลือดในสมอง…” บลาๆๆ
คำพูดช่วงแรกครอบครัวน่าก็ฟังเข้าใจ แต่พอช่วงหลังเป็นศัพท์เฉพาะเกินไปพวกเขาต่างก็ทำหน้างง
ตี้อู๋เปียนคีบอาหารร้อนๆ ใส่ชามของมู่เถาเยาด้วยความรู้สึกขำ “ซาลาเปาน้อย พวกเรากินกันก่อนดีกว่านะ”
“เอ่อ…” มู่เถาเยาพูดกับครอบครัวน่า “ขอโทษด้วยค่ะ โรคคลั่งวิชาชีพกำเริบอีกแล้ว”
น่าฮาเซินตบมือ “พี่สาวสุดยอดเลยฮะ!”
เฮ่อสี่หลุดหัวเราะ “เราน่ะฟังก็ไม่เข้าใจ รู้ได้ยังไงว่าสุดยอด”
“พี่สาวสุดยอดอยู่แล้ว ต่อไปผมจะเก่งเหมือนพี่สาว”
ลาจูยิ้มกว้างพูดกับหลานชาย “งั้นก็ต้องตั้งใจฟังที่อาจารย์สอนในโรงเรียนนะ ต่อไปสอบเข้ามหาวิทยาลัยแพทย์เย่ว์ตู จบแล้วก็ไปเป็นหมอที่โรงพยาบาลผิงคังที่ดีที่สุด”
เด็กน้อยพยักหน้าหงึกๆ
มู่เถาเยาแอบดีใจ
มื้ออาหารเย็นที่แสนอบอุ่นจบลง น่าซูถูกับเฮ่อสี่แยกกันไปโทรหาหัวหน้าที่ทำงานเพื่อลาหยุด
ลาจูบอกให้มู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนขึ้นห้องไปพักผ่อน
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ทั้งสองคนตื่นนอนฝึกกำลังภายในเสร็จก็แปลงโฉมแล้วลงชั้นล่าง
ครอบครัวน่าก็เพิ่งตื่น
เวลานี้ท้องฟ้ายังไม่สว่าง แต่ฮาเซินน้อยต้องไปโรงเรียน จึงตื่นกันแต่เช้าหมด
แม้อากาศจะหนาวเย็น แต่ภายในบ้านมีเตาผิงมีเตียงอุ่น อุณหภูมิคงอยู่ที่ประมาณยี่สิบห้าองศา จึงไม่ตื่นยากเหมือนคนทางใต้ในหน้าหนาว
กินอาหารเช้าเสร็จน่าซูถูก็ไปส่งลูกชายที่โรงเรียน
เฮ่อสี่พามู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนไปที่บ้านพ่อแม่ตัวเอง
ครอบครัวเฮ่อรู้ว่าลูกสาวจะพาหมอเทวดากลับมาด้วยจึงรออยู่ที่บ้านกันหมด
แม่กับน้องชายของเฮ่อสี่ตื่นเต้นมาก แต่พ่อของเฮ่อสี่ที่ป่วยกลับมีสีหน้าเรียบเฉย
เขาชินกับความเจ็บปวดของร่างกายแล้ว อีกทั้งมันก็เจ็บน้อยลงเรื่อยๆ เขารู้สึกว่ามันดีขึ้นแล้ว อย่างไรเสียก็กินยาไปตั้งมากขนาดนั้น
แต่ลูกสาวเชิญหมอมารักษาให้ เขาก็ไม่อาจปฏิเสธความกตัญญูของลูก
“พ่อ แม่ น้องเล็ก นี่คือคุณหมอเสี่ยวมู่ นี่คุณชาย…เอ่อเสี่ยวลู่ แฟนของคุณหมอ หมอเสี่ยวมู่เป็นลูกศิษย์ของคุณหมอเทวดา รักษาเก่งมาก”
พูดทักทายกันเล็กน้อย มู่เถาเยามองดูพ่อของเฮ่อสี่ จากนั้นก็ถามประวัติการรักษา
แม่เฮ่อสี่เล่าประวัติการรักษาให้ฟัง ส่วนน้องชายไปหยิบสมุดบันทึกการรักษา พ่อของเฮ่อสี่พูดคุยกับตี้อู๋เปียนด้วยสีหน้าเรียบเฉยราวกับคนป่วยไม่ใช่เขา
ตอนที่ 596 อวัยวะเสื่อมโทรม
มู่เถาเยาอ่านประวัติการรักษาเสร็จก็ถามขึ้น “ไปโรงพยาบาลมาเมื่อสามเดือนก่อนเหรอคะ”
ครอบครัวเฮ่อพยักหน้าพร้อมกัน
มู่เถาเยาเปิดกล่องยาใบน้อยหยิบหมอนรองข้อมือออกมาวางบนโต๊ะ “รบกวนลุงเฮ่อวางข้อมือบนนี้นะคะ”
พ่อของเฮ่อสี่ยิ้มพลางวางข้อมือซ้ายบนหมอน
มู่เถาเยาจับชีพจรเสร็จก็ให้เขาเปลี่ยนเป็นมือขวาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
พอมู่เถาเยาเอามือออกเฮ่อสี่ก็ถามทันทีชนิดที่แทบทนรอไม่ไหว “เสี่ยวมู่ พ่อของพี่เป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นบ้างไหม”
พ่อของเฮ่อสี่ยิ้มพูด “หลายวันมานี้พ่อรู้สึกดีขึ้นมาก ไม่เจ็บเท่าไรแล้ว”
แม่กับน้องชายของเฮ่อสี่มองมู่เถาเยาด้วยสีหน้ากังวล
ตี้อู๋เปียนเห็นสีหน้าของมู่เถาเยาก็รู้แล้วว่าอาการของคนป่วยไม่สู้ดีนัก ไม่ได้เป็นแบบที่พ่อของเฮ่อสี่บอกว่าดีขึ้นมาก
มู่เถาเยามองคนครอบครัวเฮ่อ ไม่ตอบ แต่ถามพ่อของเฮ่อสี่ “ระยะนี้คุณลุงกินน้อยลงใช่ไหมคะ”
“อืม ระยะนี้ท้องผูกหนัก เลยไม่อยากกินอะไรเยอะ”
แม่เฮ่อสี่พยักหน้า “หมอเสี่ยวมู่ สั่งยาแก้ท้องผูกให้เขาได้ไหม เขาท้องผูกมาหลายเดือนแล้ว แต่เพราะต้องกินยาตลอด ป้าเลยไม่กล้าซื้อยาแก้ท้องผูกมาให้เขากิน ผักผลไม้กินไปตั้งมาก ดื่มน้ำก็เยอะ แต่อาการท้องผูกกลับรุนแรงขึ้นทุกวัน”
น้องชายเฮ่อสี่ “เมื่อสามเดือนก่อนที่ไปโรงพยาบาลก็มีส่องกล้องที่กระเพาะกับลำไส้ แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร”
มู่เถาเยามองท้องป่องเหมือนคนท้องแปดเก้าเดือนของพ่อเฮ่อสี่แล้วพูด “ถ้าท้องผูกเป็นเวลานานแล้วไม่ได้รับการแก้ไขจะส่งผลถึงระบบย่อยอาหาร เยื่อบุผนังลำไส้ถูกทำลาย นำมาซึ่งโรคแทรกซ้อนค่ะ…อาการท้องผูกของคุณลุงมีสาเหตุมาจากการที่ทวารหนักทำงานบกพร่อง…จากนั้นมันเลยส่งผลต่ออวัยวะอื่นค่ะ…”
ครอบครัวเฮ่อกำลังคิดตามคำพูดของมู่เถาเยา น้องชายเฮ่อสี่ถามขึ้นมาก่อน “คุณหมอเสี่ยวมู่ครับ แล้วอวัยวะอะไรบ้างของพ่อผมที่มีปัญหาเหรอครับ”
ครอบครัวเฮ่อมองมู่เถาเยาด้วยความกังวล
มู่เถาเยายังคงไม่ตอบ หันไปถามพ่อเฮ่อสี่ “คุณลุงคะ ปกติมีอาการเวียนหัวปวดหัวไหมคะ ฉี่น้อย ง่วงบ่อย อะไรพวกนี้”
พ่อเฮ่อสี่อึ้งไปชั่วขณะแล้วพยักหน้า
เฮ่อสี่ “ทำไมพ่อไม่บอกพวกเราคะว่าเวียนหัวปวดหัว”
พ่อเฮ่อสี่ “ก็พ่อคิดว่ามันอาการเล็กน้อย…”
มู่เถาเยาขมวดคิ้วเล็กน้อย “อวัยวะภายในทั้งหมดของคุณลุงกำลังประท้วงหยุดทำงานค่ะ ไม่ใช่อาการเล็กน้อย”
ลมหายใจเปลี่ยนไปมากแล้ว อีกไม่นานก็จะสติเลือนราง
ครอบครัวเฮ่อถึงกับพูดไม่ออก
ตี้อู๋เปียน “ซาลาเปาน้อย นี่คือภาวะที่อวัยวะภายในล้มเหลวเหรอ”
มู่เถาเยาพยักหน้า “อืม แบบนี้เดิมทีก็คือเข้าข่ายโรคเรื้อรัง แต่เนื่องจากคุณลุงอยู่ในสภาพแวดล้อมที่หนาวเย็นมานาน บาดเจ็บจากความหนาวเย็นบ่อยครั้ง ภูมิคุ้มกันเลยต่ำมาก ไม่ต่างกับเด็กทารก…”
เฮ่อสี่ขอบตาเริ่มแดง “เสี่ยวมู่ แล้วพ่อพี่จะทำยังไงดี ต้องนอนโรงพยาบาลไหม”
“เป็นไปไม่ได้ เมื่อสามเดือนก่อนเพิ่งจะตรวจไป” น้องชายของเฮ่อสี่ไม่เชื่อ
มู่เถาเยา “ไม่อย่างนั้นให้ฉันไปโรงพยาบาลด้วยไหมคะ”
เฮ่อสี่ “เสี่ยวมู่รักษาได้ไหม”
“ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ค่ะ”
เพราะมีวิชาหุยหยางกับผลหมื่นปี
อย่างไรเสียผลหมื่นปีช่วยชุบชีวิตคนตายได้ก็เป็นตำนานที่เล่ากันมา แถมพวกเขายังกินในขณะที่ร่างกายแข็งแรง จึงไม่เห็นสรรพคุณของมันชัดเจน ยาที่คิดค้นโดยมีส่วนผสมของมันก็อยู่ในขั้นทดลอง ไม่มีใครรู้ว่ามันชุบชีวิตคนตายได้จริงหรือเปล่า
โอกาสรักษาด้วยการฝังเข็มก็มีแค่ครึ่งเดียว ยังต้องใช้เข็มหางหงส์ที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของตระกูลลู่ด้วย
หากไม่มีผลหมื่นปีของวิเศษกับเข็มหางหงส์ อวัยวะภายในที่เสื่อมโทรมหนักและรวดเร็วแบบนี้ ต่อให้เป็นเธอกับอาจารย์ทั้งสองคนก็จนปัญญา อย่างไรเสียพวกเขาก็เป็นคน ไม่ใช่เทพ
คนรักษาอาการป่วยได้ แต่กลับช่วยชีวิตที่ควรต้องจบลงไม่ได้
แย่งชิงชีวิตกับสวรรค์ คงได้แค่ใช้ของวิเศษที่เบื้องบนหล่อเลี้ยงเข้าสู้ กำลังของมนุษย์ต้านทานไม่ได้
เฮ่อสี่จับมือมู่เถาเยาพูดด้วยเสียงสะอื้น “หมอเสี่ยวมู่ ช่วยพ่อพี่ด้วยนะ”
น้องชายเฮ่อสี่ “พี่ พวกเราไปตรวจที่โรงพยาบาลกัน”
เขาไม่เชื่อหมออายุน้อยคนนี้ ต้องวินิจฉัยผิดแน่ๆ !
“น้องเล็ก เสี่ยวมู่ช่วยได้ พวกเราต้องเชื่อในตัวเสี่ยวมู่นะ”
“โอกาสแค่ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ พี่ ถ้าอวัยวะทั้งหมดเสื่อมถอยจริง แบบนั้นก็รักษาไม่ได้หรอก แล้วจะมีโอกาสถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ได้ยังไง พวกเราพาพ่อไปโรงพยาบาล ไปตรวจที่โรงพยาบาลผิงคังในเมืองเถอะ”
“ไม่ น้องเล็ก เสี่ยวมู่ช่วยได้! เสี่ยวมู่เป็นลูกศิษย์คนสุดท้ายของหมอเทวดาเชียวนะ!”
แม่เฮ่อสี่ได้สติกลับมาขณะที่สองพี่น้องทะเลาะกัน มองสามีด้วยสายตางุนงง
พ่อเฮ่อสี่จับมือภรรยาพลางพูดปลอบ “ไม่ต้องห่วงนะ พวกเราทำตามที่อาฮวานบอก ไปตรวจที่โรงพยาบาลผิงคังก่อน ผลออกแล้วค่อยว่ากัน หมอเสี่ยวมู่…”
อันที่จริงเขาก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งที่มู่เถาเยาบอก
มู่เถาเยาส่ายมือโดยไม่ถือสาเลยสักนิด “เดี๋ยวฉันไปกับทุกคนด้วยค่ะ จะได้ไปเจอศิษย์พี่เจ็ดด้วย”
เฮ่อสี่ร้อนใจจนกระทืบเท้า “พ่อ แม่ น้องเล็ก หมอเสี่ยวมู่กับแฟนมาเที่ยว อยู่นานไม่ได้” โอกาสมาแล้วทำไมไม่คว้าไว้!
มู่เถาเยา “ไม่เป็นไรค่ะพี่สะใภ้ พวกเราไม่รีบอะไร” จะเห็นแก่เที่ยวจนไม่ช่วยเหลือคนจะตายก็ไม่ได้
ตี้อู๋เปียน “รอช้าไม่ได้ ไปโรงพยาบาลกันเลยดีกว่าครับ”
แม่เฮ่อสี่กับน้องชายคนหนึ่งไปหยิบเสื้อผ้า อีกคนไปหยิบกุญแจรถกับโทรศัพท์มือถือ
เฮ่อสี่จนปัญญา พูดต่อมู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนด้วยความเกรงใจ “ขอโทษนะ ทำพวกเธอเสียเวลาเลย”
มู่เถาเยาพูด “อย่าพูดแบบนี้เลยค่ะ รักษาคนสำคัญกว่านะคะ”
ทุกชีวิตมีค่า ช่วยได้ก็ย่อมต้องช่วย