อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 597 ศิษย์พี่เจ็ดเฟยหลวน ตอนที่ 598 ลูกศิษย์ตกกระป๋องแล้ว
- Home
- อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร
- ตอนที่ 597 ศิษย์พี่เจ็ดเฟยหลวน ตอนที่ 598 ลูกศิษย์ตกกระป๋องแล้ว
ตอนที่ 597 ศิษย์พี่เจ็ดเฟยหลวน ตอนที่ 598 ลูกศิษย์ตกกระป๋องแล้ว
ตอนที่ 597 ศิษย์พี่เจ็ดเฟยหลวน
น่าซูถูไปส่งลูกชายที่โรงเรียนเสร็จกลับมา ครอบครัวเฮ่อกำลังจะออกจากบ้านพอดี
“คุณพ่อ คุณแม่ อาฮวาน จะไปไหนกันครับ” พาเสี่ยวมู่มารักษาไม่ใช่เหรอ แล้วจะออกไปไหนกัน
พ่อเฮ่อสี่ถามกลับ “ทำไมวันนี้อาถูไม่ทำงานล่ะ”
“อาสี่พาหมอเสี่ยวมู่มารักษาคุณพ่อ ผมไปส่งฮาเซินที่โรงเรียนเสร็จก็ต้องกลับมาดูหน่อย แล้วนี่ทุกคนจะ…เอ่อ…เกิดอะไรขึ้นครับ” น่าซูถูถึงได้สังเกตเห็นว่าคนครอบครัวเฮ่อขอบตาแดงก่ำ
เฮ่อสี่ทำสีหน้าเหมือนจะร้องไห้ดึงแขนเสื้อสามี “พวกเราจะไปโรงพยาบาลผิงคังในเมือง อาการของพ่อหนักมาก”
น่าซูถูหันไปมองมู่เถาเยา
มู่เถาเยาพยักหน้า
“โรคอะไรเหรอ”
“อวัยวะภายในล้มเหลวค่ะ”
“…เป็นไปได้เหรอ ไม่ใช่โรคไขข้ออักเสบเหรอ” น่าซูถูไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน
“สามเดือนมันดูเร็วเกินไปจริงๆ ไปตรวจที่โรงพยาบาลก่อนดีกว่าค่ะ”
น่าซูถูจับภรรยาหันตัวเดินขึ้นรถ “รีบขึ้นรถเถอะ”
พ่อเฮ่อสี่พูดห้าม “อาถู เข้าเมืองมันไกล ไปกลับก็เจ็ดชั่วโมงแล้ว อาสี่ไปก็พอแล้ว บ่ายยังต้องไปรับฮาเซินกลับจากโรงเรียนอีก ไหนจะต้องใช้เวลาตรวจ ดีไม่ดีต้องค้างคืนในเมือง”
“…ผมจะโทรหาครูประจำชั้น ฝากครูดูแลคืนนึงครับ”
โรงเรียนของลูกชายค่อนข้างไกล พ่อของเขาเท้าเจ็บ แม่ก็ขับรถไม่เป็น บางครั้งถ้ามีเหตุจำเป็นก็จะฝากไว้บ้านครูประจำชั้น เพราะครูพักในโรงเรียน
เฮ่อสี่ก็เห็นด้วยกับความคิดนี้
พ่อเฮ่อสี่ “อาถูไม่ต้องไปหรอก จะไปกี่คนผลลัพธ์ก็ค่าเท่ากัน รถอาฮวานนั่งพอ”
เฮ่อสี่ “พ่อคะ ให้อาถูตามไปด้วยเถอะค่ะ” คนเยอะจะสบายใจหน่อย
แม่เฮ่อสี่ร้อนใจ “เอาล่ะๆ ก็ไปด้วยกันหมดนี่แหละ รีบขึ้นรถ อย่ามัวเสียเวลาเลย”
ครอบครัวเฮ่อสี่คนขึ้นรถเฮ่อฮวาน มู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนไปรถน่าซูถู
วันนี้หิมะไม่หนักเท่าไร เดินทางไม่ยาก ประมาณสามชั่วโมงก็ไปถึงแถวโรงพยาบาลผิงคังในเมือง
เนื่องจากตอนนี้เป็นเวลาพักกลางวัน พวกเขาจึงไปกินข้าวกันก่อน รอตอนบ่ายค่อยเข้าไป
มู่เถาเยาเห็นใครบางคนยืนอยู่หน้าโรงพยาบาลจากไกลๆ เธอรีบวิ่งเข้าไป “ศิษย์พี่เจ็ด ทำไมมายืนหน้าโรงพยาบาลคะ อากาศหนาวขนาดนี้!”
“พี่ก็เพิ่งมาถึง คิดว่าพวกเธอน่าจะใกล้ถึงแล้วเลยมารอตรงนี้” ซูเฟยหลวนลูกศิษย์คนที่เจ็ดของหยวนเหยี่ยจับตัวมู่เถาเยาแล้วสำรวจซ้ายขวา
เธอใส่ถุงมือหนาอยู่ ไม่อย่างนั้นจะหยิกแก้มสักหน่อย แปลงโฉมมาเนียนมาก!
ถ้าไม่ใช่เพราะเธอรู้หน้าตาของศิษย์น้องเล็กอยู่แล้ว เธอคงคิดว่าใบหน้านี้เป็นของจริง
ตี้อู๋เปียนยิ้มทักทาย “สวัสดีครับศิษย์พี่เจ็ด”
ซูเฟยหลวนลังเลเล็กน้อยก่อนพูดขึ้น “นี่อู๋เปียนเหรอ”
“ผมเองครับ”
“จำไม่ได้เลยนะเนี่ย”
มู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนคุยกับศิษย์พี่เจ็ดเล็กน้อยแล้วแนะนำครอบครัวเฮ่อให้รู้จัก
“พี่จัดการไว้แล้วนะ เข้าไปตรวจก่อนดีกว่า”
ซูเฟยหลวนพาทุกคนเข้าไปที่ห้องทำงานผู้อำนวยการโรงพยาบาล
ครอบครัวเฮ่อแอบงงเล็กน้อย
ที่แท้นี่ก็คือผู้อำนวยการโรงพยาบาลผิงคังที่อยู่ในเมืองเสวี่ยตู!
ใครๆ ต่างก็รู้ว่าโรงพยาบาลผิงคังเป็นของสำนักแพทย์โบราณ และก็รู้ว่าผู้อำนวยการคือลูกศิษย์ที่หมอเทวดาหยวนสั่งสอนด้วยตัวเอง แบบนั้นหมอเสี่ยวมู่ก็คือ…
ซูเฟยหลวนถอดถุงมือหนา สวมเสื้อกาวน์ ห้อยป้ายพนักงาน พามู่เถาเยากับครอบครัวเฮ่อไปห้องต่างๆ เพื่อทำการตรวจแบบครบทั้งหมด
เธอเชื่อในการวินิจฉัยของศิษย์น้องเล็กแบบเต็มร้อย แต่เนื่องจากศิษย์น้องเล็กหน้าตาเหมือนเด็กสิบแปดที่เพิ่งบรรลุนิติภาวะ คนไข้จะสงสัยก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ศิษย์น้องเล็กไม่ไปนั่งตรวจตามโรงพยาบาล สถานะของเธอที่เป็นลูกศิษย์คนสุดท้ายของหมอเทวดาหยวนก็เลยไม่โด่งดังไปทั่ว ไม่มีคนเชื่อว่าหมออายุน้อยคนนี้จะมีฝีมือล้ำเลิศก็เป็นเรื่องปกติมาก
หลังจากตรวจทุกรายการเสร็จผลก็ออกมาค่อนข้างดียกเว้นรายการที่ผลยังไม่ออก
ครอบครัวเฮ่อหน้าซีด แม่เฮ่อสี่ใจคอไม่ค่อยดี
“ผอ.ซูครับ ช่วยพ่อผมด้วยนะครับ” เฮ่อฮวานที่เป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ถึงขั้นที่พูดขอร้องด้วยเสียงสะอื้น
ซูเฟยหลวนพูดเสียงเบา “ใจเย็นๆ ก่อนนะคะ พวกเราทำสุดความสามารถ ขอฉันดูประวัติการรักษาก่อนหน้านี้หน่อยค่ะ”
น่าซูถูยื่นประวัติการรักษาของพ่อตาให้
ซูเฟยหลวนอ่านเสร็จก็มองมู่เถาเยา
มู่เถาเยาพยักหน้า
ซูเฟยหลวนถอนหายใจ พูดกับครอบครัวเฮ่อ “อวัยวะภายในทั้งหมดเกิดปัญหาพร้อมกัน แถมยังทรุดหนักเร็วขนาดนี้ หาได้ยากจริงๆ ค่ะ” ถ้าไม่มาเจอศิษย์น้องเล็กของเธอ อีกสามเดือนคงไม่รอดแน่
เฮ่อสี่พูดด้วยความร้อนใจ “ผอ.ซูคะ งั้นตอนนี้ต้องนอนโรงพยาบาลไหมคะ”
“พูดตามตรงนะคะ ศิษย์น้องเล็กของฉันรักษาเก่งสุดแล้วในสำนักแพทย์โบราณ ถ้าขนาดศิษย์น้องเล็กยังรักษาไม่ได้ก็หมดหนทางแล้วจริงๆ ค่ะ”
ครอบครัวเฮ่อกับน่าซูถูต่างหันไปมองมู่เถาเยาด้วยสายตาคาดหวังและมีหวัง
เฮ่อฮวานมีสีหน้ารู้สึกผิด “ผมไม่ควรสงสัยในตัวคุณหมอเสี่ยวมู่เลย อย่าถือสาผมเลยนะครับ ได้โปรดช่วยพ่อผมด้วย”
มู่เถาเยาพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “โอกาสสำเร็จมีแค่ครึ่งเดียวค่ะ”
ไม่ใช่ว่าเธอขู่ แต่เธอไม่รู้จริงๆ ว่าผลหมื่นปีช่วยให้คนตายคืนชีพได้อย่างที่เล่ากันมาจริงหรือเปล่า เธอยังมีพกหญ้าพิษชีวิตมาหน่อยด้วยนอกจากผลหมื่นปี เผื่อฉุกเฉิน
ครอบครัวเฮ่อรู้ว่าสถานการณ์แบบนี้มีโอกาสสำเร็จครึ่งหนึ่งก็ถือว่ามากแล้ว จึงรู้สึกขอบคุณมู่เถาเยามาก
“ฉันให้คนเอาเข็มวิเศษกับยาวิเศษมาส่งแล้วค่ะ คืนนี้พวกเราจะพักโรงแรมแถวนี้กัน พรุ่งนี้ค่อยฝังเข็มค่ะ”
เธอส่งข้อความหาอาจารย์ใหญ่ตั้งแต่เดินทางมาแล้ว ขอให้ช่วยเตรียมของแล้วให้หร่วนเหวินเอามาส่ง
ตอนที่ 598 ลูกศิษย์ตกกระป๋องแล้ว
พอออกจากโรงพยาบาล มู่เถาเยาก็ให้น่าซูถูไปที่โรงแรมอวิ๋นซ่าง
ครอบครัวเฮ่อคิดว่ามู่เถาเยาอยากอยู่โรงแรมนั้นจึงกัดฟันตามไป
โรงแรมอวิ๋นซ่างเป็นโรงแรมที่หรูหราที่สุดในเมืองเสวี่ยตู ราคาไม่ใช่ถูกๆ
เฮ่อฮวานกะว่าจะเปิดห้องให้พวกเขา จากนั้นครอบครัวตัวเองก็ไปพักโรงแรมถูกๆ แถวนั้น จะได้ประหยัดเงิน พ่อยังป่วยอยู่ ประหยัดได้ก็ต้องประหยัด
หลังลงจากรถ มู่เถาเยาก็ยกมุมปากตะโกนเรียกผู้ชายรูปหล่อรูปร่างภูมิฐานที่กำลังเดินเข้ามาหาพวกเขา “พี่เขยเจ็ด”
ตี้อู๋เปียนก็เรียกพี่เขยตาม
ชายหนุ่มรูปงามอายุประมาณสี่สิบมีรอยยิ้มเป็นกันเอง “ศิษย์น้องเล็กกับอู๋เปียนมากันสักทีนะ! พี่เจ็ดของเธอตั้งหน้าตั้งตารอตั้งแต่พวกเธอเข้าเมืองเสวี่ยตูมา”
มู่เถาเยายิ้มพูด “เดิมทีพวกเราไม่ได้วางแผนจะมาทางนี้ค่ะ”
“ถ้าไม่ติดว่าพี่เจ็ดของเธองานยุ่งมากคงได้ไปหาพวกเธอที่หมู่บ้านเหลิ่งจี๋แล้ว วันๆ หลังเลิกงานกลับมาก็บ่นคิดถึงให้พี่ฟังทุกวัน”
พูดทักทายกันเล็กน้อยเสร็จมู่เถาเยาก็แนะนำให้ครอบครัวเฮ่อรู้จัก “นี่คือผู้จัดการใหญ่ของโรงแรมชื่อหยางเค่อค่ะ เป็นสามีของศิษย์พี่เจ็ดของฉันด้วยค่ะ โรงแรมนี้มีลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ฉันให้คนเอายาจากหมู่บ้านเถาหยวนซานที่อยู่ทางใต้มาส่ง เครื่องจะลงจอดที่นี่ ดังนั้นคืนนี้พวกเราจะพักกันที่นี่ก่อนค่ะ”
ครอบครัวเฮ่อแอบเกรงใจ
เมื่อครู่พวกเขาคิดแบบนั้นกับหมอเสี่ยวมู่ได้ยังไง! ไม่สมควรเลยจริงๆ
หยางเค่อยิ้มพลางพาทุกคนไปจัดการเช็กอินเข้าห้องพักที่ล็อบบี้
เฮ่อฮวานกับน่าซูถูพยายามจะจ่ายค่าห้องพัก แต่หยางเค่อไม่รับไว้
มู่เถาเยาก็ช่วยห้าม “โรงแรมนี้เป็นของอาเขยฉันเองค่ะ ฉันกับพี่สามพักได้ไม่ต้องเสียเงิน เรื่องเงินเรื่องเล็ก ทุกคนก็ไม่ต้องคิดมากนะคะ ขึ้นห้องไปพักก่อนดีกว่าค่ะ”
ครอบครัวเฮ่อยิ่งเกรงใจเข้าไปใหญ่
หยางเค่อยิ้มพูด “พวกคุณโชคดีนะครับที่มีวาสนาเจอหมอเก่ง ทำใจให้สบายครับ”
ครอบครัวเฮ่อพยักหน้า
หยางเค่อพาทุกคนขึ้นชั้นบน จัดการพาเข้าห้องเสร็จก็ถามขึ้น “ศิษย์น้องเล็ก ข้าวเย็นกลับไปกินบ้านหรือกินที่โรงแรมดีล่ะ”
“หนูบอกพี่เจ็ดแล้วค่ะว่าเย็นนี้จะกินที่โรงแรม เย็นพรุ่งนี้ค่อยไปที่บ้าน พี่เจ็ดเลิกงานแล้วจะมาหาค่ะ รอรุ่ยหรานรุ่ยเซวียนเลิกเรียน พี่เขยไปรับทั้งสองคนมากินข้าวด้วยกันนะคะ”
“ได้เลย เดี๋ยวเย็นๆ พี่จะพานักบินของเธอขึ้นมาส่ง เธอกับอู๋เปียนพักผ่อนก่อนนะ”
พวกเขาสองสามีภรรยาจะไปเยี่ยมหยวนเหยี่ยปีละครั้งสองครั้งที่หมู่บ้านเถาหยวนซาน ถือว่าคุ้นเคยกับตี้อู๋เปียน จึงเรียกชื่อโดยตรง
มู่เถาเยา “ค่ะ พี่เขยเจ็ดไปทำงานเถอะค่ะ”
หยางเค่อพยักหน้า “พี่จะให้คนเอากาแฟกับขนมขึ้นมาให้นะ”
“ขอบคุณค่ะพี่เขยเจ็ด”
หยางเค่อลูบศีรษะมู่เถาเยา พูดกับตี้อู๋เปียนสองสามประโยคแล้วเดินออกไป
เวลาประมาณห้าโมงเย็นหยางเค่อก็พาหร่วนเหวิน หยวนเหยี่ย เฉิงอันนั่ว ไปกดออดหน้าประตูห้องของมู่เถาเยา
พอมู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนเห็นหยวนเหยี่ยก็มีสีหน้างุนงง
หยวนเหยี่ยหัวเราะเสียงดัง “นึกไม่ถึงใช่ไหมล่ะ!”
มู่เถาเยาได้สติกลับมาทันที เข้าไปกอดแขนหยวนเหยี่ยแล้วซบบ่าของเขาอย่างออดอ้อน สายตาตัดพ้อเล็กน้อย “อาจารย์ใหญ่กับอันนั่วจะมาทำไมไม่บอกหนูสักคำ”
หยวนเหยี่ยลูบศีรษะลูกศิษย์คนเล็ก ยิ้มพูด “พวกเรามาเซอร์ไพรส์พวกเธอยังไงล่ะ!”
ตี้อู๋เปียน “…” ไม่เห็นจะดีใจเลย!
เพราะโลกที่มีแค่พวกเขาสองคนกลายเป็นหลายคนแล้ว!
เฉิงอันนั่ว “อาจารย์อาเล็กครับ อาจารย์ปู่อยากพาผมมาตรวจดูคนไข้ครับ”
อีกไม่กี่ปีเขาก็ต้องรับช่วงต่อโรงพยาบาลผิงคังศูนย์ใหญ่แล้ว มีโอกาสได้มาคลุกคลีกับคนไข้ที่เป็นโรครักษายากให้มากๆ จะยิ่งเป็นการดี
“อืม เข้ามานั่งกันก่อนสิคะ”
หยางเค่อพาคนมาส่งเสร็จก็ออกไป เพราะต้องไปรับลูกชายฝาแฝดที่เพิ่งอายุสิบขวบกลับจากโรงเรียน
มู่เถาเยาคุยกับทุกคนสักพักก็ส่งข้อความหาเฮ่อสี่ เรียกให้พวกเขามาเจออาจารย์ใหญ่ของเธอ จะได้เพิ่มความมั่นใจให้ครอบครัวนี้ไปอีกขั้น
สภาพจิตใจของคนป่วยสำคัญต่ออาการของโรคเป็นอย่างมาก
พอครอบครัวเฮ่อกับน่าซูถูเห็นหยวนเหยี่ยก็ดีใจมากตามที่คาดไว้
แม่เฮ่อสี่ซาบซึ้งใจจนร้องไห้
พวกเขาเป็นเพียงชาวบ้านตัวเล็กๆ ยังสามารถรบกวนหมอเทวดาที่โด่งดังไปทั่วได้ มีเหรอจะไม่ซาบซึ้งใจ
มู่เถาเยาเรียกให้ทุกคนนั่งลง จากนั้นก็หยิบหมอนรองข้อมือไปวางบนโต๊ะตรงหน้าหยวนเหยี่ยแล้วพูดกับพ่อเฮ่อสี่ “คุณลุงมานั่งตรงนี้ค่ะ ให้อาจารย์ใหญ่จับชีพจรหน่อยนะคะ”
พ่อเฮ่อสี่เข้าไปนั่งด้วยความตื่นเต้น
หยวนเหยี่ยจับชีพจรเสร็จก็เรียกให้เฉิงอันนั่วไปจับบ้าง จากนั้นก็เปิดดูประวัติการรักษากับผลตรวจที่เพิ่งออกมา
เฉิงอันนั่วยังได้ถามพ่อเฮ่อสี่อีกหลายคำถาม
ดวงตาของมู่เถาเยาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
นับตั้งแต่ออกไปท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้กลับมา ทั้งยังอยู่ในศูนย์วิจัยยามาระยะหนึ่ง อันนั่วก็มองปัญหาได้ครอบคลุมขึ้น
มู่เถาเยาพอใจมาก หยวนเหยี่ยก็ดีใจ
อันนั่วไม่ค่อยมีพรสวรรค์ด้านการฝึกยุทธ์ แต่ในด้านการแพทย์เขามีพรสวรรค์สูงมากกว่าเฉิงหรานที่เป็นพ่อ
ถ้าให้เวลาอีกก็ใช่ว่าจะตามพ่อไม่ทัน หรือนำไม่ได้ อย่างไรเสียเขาก็ยังหนุ่ม อนาคตยังอีกยาวไกล
ขณะที่ทุกคนกำลังคุยเรื่องอาการ ศิษย์พี่เจ็ดซูเฟยหลวนกับหยางเค่อก็พาลูกชายฝาแฝดรุ่ยหรานกับรุ่ยเซวียนเข้ามา
เด็กผู้ชายที่หน้าตาเหมือนกันสองคนพอเห็นหยวนเหยี่ยกับเฉิงอันนั่วก็ดีใจมาก เข้าไปตะโกนเรียกอาจารย์ปู่กับพี่ใหญ่ ไม่มีความเคอะเขินแบบคนที่ไม่ได้เจอกันนาน
มู่เถาเยายิ้มพูด “รุ่ยหราน รุ่ยเซวียนจ๊ะ ไม่รู้จักอาเล็กแล้วเหรอ”
เด็กทั้งสองคนงง จากนั้นก็ส่ายหน้าพร้อมกัน
อาเล็กสวยมาก ไม่ได้หน้าตาแบบนี้
แต่เสียงเหมือนอาเล็กจริงๆ นะ!
แล้วตกลงว่าใช่อาเล็กหรือไม่ใช่กันแน่
สองพี่น้องงงสนิท
หยวนเหยี่ย เฉิงอันนั่ว และซูเฟยหลวนหัวเราะเสียงดัง
มู่เถาเยาลูบศีรษะของเด็กน้อยทั้งสองคนแล้วพาไปตรงหน้าตี้อู๋เปียน ยิ้มตาโค้งถาม “อาเล็กกับอาอู๋เปียนแปลงโฉมแล้ว ตอนเย็นจะล้างออกให้ดูนะ”
สองพี่น้องถึงได้เชื่อว่านี่คืออาเล็ก พากันดีใจจูงมือมู่เถาเยากับหยวนเหยี่ยพลางเจื้อยแจ้วไม่หยุด
หยวนเหยี่ยกับมู่เถาเยาก็ดีใจ จูงเด็กทั้งสองไม่ยอมปล่อย
ซูเฟยหลวนอิจฉา “อาจารย์! ลูกศิษย์อย่างหนูตกกระป๋องแล้วเหรอคะ” ทักทายแค่ตอนเข้ามาแค่นั้นเลย!
หยวนเหยี่ยหัวเราะ พูดกับเด็กน้อยทั้งสองคน “รุ่ยหรานรุ่ยเซวียน ดูแม่ของพวกเราสองคนสิ อายุขนาดนี้แล้วยังจะมาแย่งความรักกับเด็ก”
สองพี่น้องที่หน้าตาเหมือนกันพูดเป็นเสียงเดียว “น่าอายนะฮะคุณแม่”
หยวนเหยี่ยหัวเราะดังกว่าเดิม
คนอื่นๆ ก็พลอยหัวเราะตามไปด้วย