อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 631 ช่วยชีวิตนักผจญภัย ตอนที่ 632 เธอมีแฟนแล้วเหรอ
ตอนที่ 631 ช่วยชีวิตนักผจญภัย ตอนที่ 632 เธอมีแฟนแล้วเหรอ
ตอนที่ 631 ช่วยชีวิตนักผจญภัย
มู่เถาเยาจับชีพจรให้ผู้ชายที่หายใจรวยรินเสร็จก็เปิดกล่องยาหยิบยาบำรุงมายัดใส่ปากเขา
“ท้องหิว บาดเจ็บภายใน กระดูกหักหลายจุด…ต้องหาที่ให้เขานอนราบแล้วตรวจดูอย่างละเอียดอีกครั้ง ปฐมพยาบาลฉุกเฉิน ไม่อย่างนั้นเขาอาจไม่รอดก่อนถึงโรงพยาบาล” บาดแผลแต่ละจุดไม่รุนแรงถึงชีวิต แต่เมื่อรวมๆ กันก็ถึงแก่ชีวิตได้
“ได้ พวกเราไปทางยอดเขากัน” ยอดเขาเป็นจุดที่น่าจะมีพื้นเรียบมากที่สุดแล้ว
“อืม คุณอุ้มเขา ระวังตรงเอวหน่อย เอวเขากระดูกหัก ห้ามขยับ”
ตี้อู๋เปียนพยักหน้า
พออุ้มขึ้นมาได้ทั้งสองคนก็เหาะไปด้านบน ลงยืนบนพื้น แต่พื้นที่ตรงนี้ไม่ได้ราบเรียบ
“ซาลาเปาน้อย ฉันจะลองเรียกพวกสัตว์เล็กๆ มาถามหน่อยว่ามีตรงไหนให้นอนราบได้บ้าง”
“อืม”
ตี้อู๋เปียนใช้พลังวิเศษเรียกลิงจมูกเชิดมา และก็ได้ทราบว่าไม่ไกลออกไปมีพื้นหินที่ค่อนข้างเรียบ จึงให้มันพาพวกเขาไป
ลิงน้อยมีความสุขมาก ร้องเจี๊ยกๆ ตลอดทาง
มู่เถาเยาฟังไม่เข้าใจ ตี้อู๋เปียนคุยกับลิงพลางแปลให้มู่เถาเยาฟัง
“ซาลาเปาน้อย ฉันถามพวกมันเรื่องจุดที่พวกเราวางกระเป๋าเต็นท์ไว้ มันบอกว่าตรงนี้ห่างจากป่างูเขียวไผ่ไกลมาก…ฉันบอกให้มันพาพรรคพวกไปเอาของของพวกเรามาให้หน่อย แต่พวกมันกลับไม่กล้าไปด้านนั้น…”
“งั้นอีกเดี๋ยวไปถึงพื้นเรียบ ฉันรักษาเขา คุณไปเอาของ พอกลับมาเจอกันค่อยกลับไป ผู้ชายคนนี้ต้องไปโรงพยาบาล” อาการบาดเจ็บภายในยังพอไหว เธอมียาในกล่อง แต่กระดูกหักต้องดาม เธอไม่มีทางพกเฝือกไปไหนมาไหน
ตี้อู๋เปียนพยักหน้า
ทั้งสองคนวิ่งตามลิงจมูกเชิด ไม่นานก็ไปถึงพื้นหินที่มันบอก
วางคนป่วยลงบนพื้นเสร็จตี้อู๋เปียนก็ไล่ลิงจมูกเชิดไปแล้วพูดกับมู่เถาเยา “ซาลาเปาน้อย เธอรออยู่ที่นี่ ฉันจะรีบไปรีบมา”
“อืม” เขามีพลังวิเศษ มู่เถาเยาไม่กังวลว่าเขาจะหลงทาง
พอตี้อู๋เปียนไปแล้วมู่เถาเยาก็เริ่มตรวจร่างกายผู้ชายคนนี้
เขากินยาบำรุงเข้าไปหนึ่งเม็ดแล้ว ลมหายใจดีขึ้น แต่ก็ยังอ่อนแรง อยากพูดแต่ก็พูดไม่ออก
มู่เถาเยาป้อนน้ำให้เขานิดหน่อย “ไม่ต้องรีบร้อนค่ะ ฉันเป็นหมอ ตอนนี้จะถอดเสื้อผ้าคุณเพื่อตรวจร่างกายหน่อยค่ะ”
อีกฝ่ายกะพริบตาเพื่อบอกว่าตกลง
มู่เถาเยาถอดเสื้อผ้าของเขาด้วยความระมัดระวัง เธอถอดออกหมดยกเว้นกางเกงใน
ตรวจอย่างละเอียดแล้วถึงพูดกับเขา “คุณโชคดีมากนะคะ ถึงร่างกายจะกระดูกหักหลายจุด บาดเจ็บภายในภายนอก แต่ก็ไม่โดนจุดที่เป็นอันตรายถึงชีวิต”
อืม ถ้าพวกเธอไม่มาเจอ อีกไม่นานเขาก็จะหิวตาย!
อีกฝ่ายกะพริบตา
เขาไม่ได้โชคดีหรอก แค่อาศัยประสบการณ์
แต่เขาก็โชคดีด้วย ตอนตกหน้าผาลงมามีต้นไม้รับไว้ แถมยังได้รับการช่วยเหลือก่อนตาย แบบนี้เรียกโชคดีครั้งใหญ่
มู่เถาเยาเปิดกล่องยาอันล้ำค่าของตัวเอง หยิบขวดสีขาวที่ติดคำว่า ‘บาดแผล’ ท่ามกลางขวดอื่นๆ มากมายออกมาเทยาสีน้ำเงินใส่มือหนึ่งเม็ด
“นี่เป็นยาช่วยฟื้นฟูทำจากกุหลาบน้ำเงิน สำหรับรักษาบาดแผลค่ะ หลังกินเข้าไปไม่นานบาดแผลภายในของคุณก็จะดีขึ้นมาก เดี๋ยวก็จะมีแรงพูดแล้วค่ะ”
อีกฝ่ายกะพริบตาสองครั้ง พยายามอ้าปาก
“ยาเข้าปากจะละลายทันที ไม่ต้องพยายามกลืนนะคะ” มู่เถาเยาจับเม็ดยาสีน้ำเงินใส่ปากของเขาแล้วพูดต่อ “ฉันจะฝังเข็มให้ด้วย ช่วยให้ยากระจายออกฤทธิ์ไปถึงแผลได้เร็วและเพิ่มประสิทธิภาพค่ะ”
เขาย่อมไม่ว่าอะไร
มู่เถาเยาลงเข็มให้อีกฝ่ายไปสามสิบเก้าเข็ม
เสียงจากเข็มหางหงส์ทำให้ผู้ชายคนนั้นเริ่มตั้งสติได้ ใบหน้ามีเลือดฝาดแบบที่สังเกตได้ ไม่ได้ดูซูบซีดแบบก่อนหน้านี้
มู่เถาเยาเห็นผลลัพธ์แบบนี้ก็ดีใจมาก
พวกเขาไม่เคยเจ็บหนักกันมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ใช้ยากุหลาบสีน้ำเงิน ผลลัพธ์ดีเหนือความคาดหมายมากทีเดียว
แน่นอนว่าก็เพราะได้เข็มหางหงส์ช่วยด้วยอีกแรง
ผู้ชายคนนั้นตะลึงกับการตอบสนองของร่างกายมาก
เมื่อครู่ยังอ่อนแอเจียนตาย ตอนนี้รู้สึกได้ถึงกำลังวังชาที่เริ่มกลับมาแล้ว
แม้ความเจ็บปวดจะชัดเจนยิ่งขึ้น แต่เขาดีใจ นี่ก็แสดงว่าร่างกายของเขาค่อยๆ กลับสู่สภาพปกติแล้ว ไม่รู้สึกใกล้ตายแบบก่อนหน้านี้
ครึ่งชั่วโมงต่อมามู่เถาเยาก็ดึงเข็มออก ใส่เสื้อผ้าให้เขา
“แม่หนู ขอบคุณนะที่ช่วยชีวิตฉันไว้”
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณพักผ่อนก่อนนะคะ ฉันจะไปช่วยหาแผ่นไม้ในป่ามาดามมือ ขา เอวที่หักแก้ขัดให้ไปก่อน”
“ขอบคุณมาก ในป่ามีอันตราย ระวังตัวด้วย” เขาไม่กล้าดูถูกเด็กสาวที่ดูเหมือนอายุยังไม่ถึงยี่สิบคนนี้ ก็แค่พูดถ้อยคำเป็นห่วงออกไปโดยอัตโนมัติ
“ค่ะ ฉันไปไม่ไกล มีอะไรก็ตะโกนเรียกนะคะ ฉันได้ยิน ฉันชื่อมู่เถาจื่อค่ะ”
“อืม ฉันชื่อเซียวไห่หมิง”
“คุณคือเซียวไห่หมิงเหรอคะ มิน่าฉันถึงรู้สึกคุ้นหน้า” ใบหน้าที่ซูบผอมจากการไม่ได้กินอาหารทำให้เธอจำไม่ได้ในตอนแรก
“เสี่ยวมู่รู้จักฉันด้วยเหรอ”
“คุณคือนักผจญภัยและช่างภาพเซียวไห่หมิง ภรรยาชื่อเหลยจื่อ มีลูกสาวสองคนชื่อเสี่ยวตันกับเสี่ยวหาน ลูกชายหนึ่งคนชื่อเสี่ยวเหิง เป็นแฝดสาม ใช่ไหมคะ”
“หา…ใช่เลย! เสี่ยวมู่เป็นอะไรกับอาจื่อเหรอ ฉันไม่เคยเห็นเธอมาก่อนเลย…”
“เหลยโจวพี่ชายที่เป็นญาติของเหลยจื่อเป็นพี่เขยของเฉิงหรานศิษย์พี่ใหญ่ของฉันเองค่ะ อันที่จริงฉันชื่อมู่เถาเยาค่ะ”
เซียวไห่หมิงดวงตาเบิกโพลง “เธอก็คือเสี่ยวเยาเยาเหรอ ลูกศิษย์คนเล็กของหมอเทวดาหยวน ศิษย์น้องเล็กของน้องชายแท้ๆ ของเฉิงซินพี่สะใภ้ของอาจื่อ ดาวแห่งวงการกีฬา มู่เถาเยาใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ ฉันแปลงโฉมมา ไว้ค่อยคุยกันค่ะ ขอไปหาแผ่นไม้ก่อน”
“…อืม”
ตอนที่ 632 เธอมีแฟนแล้วเหรอ
มู่เถาเยาโรยยาไว้รอบตัวเซียวไห่หมิงแล้วถือมีดพกเข้าไปในป่า
แผ่นไม้สำเร็จรูปย่อมไม่มี เธอเลยต้องเลือกต้นไม้ใหญ่ที่พบเห็นบ่อยๆ มาตัดทำเป็นแผ่นไม้
ถึงจะไม่มีเลื่อยไฟฟ้า แต่มีกำลังภายในกับมีดพกที่คมกริบ ตัดทำแผ่นไม้ไม่ถือว่าลำบาก
พอได้แผ่นไม้ มู่เถาเยาก็ไปหาเถาวัลย์ที่เหนียวหน่อยมาทำเป็นเชือกผูก
เสร็จแล้วก็เดินกลับ
เวลานี้เซียวไห่หมิงหลับไปแล้ว
หลายวันมานี้ไม่เพียงแต่เขาจะไม่ได้กินอาหาร แม้แต่หลับก็ยังไม่กล้า เพราะเผื่อหาทางช่วยเหลือตัวเองได้หรือเจอคนมาช่วยแม้ความหวังจะริบหรี่ก็ตาม
วินาทีที่ตกลงมาจากหน้าผา เดิมทีเขาคิดว่าตัวเองจะเหมือนพวกคนรุ่นก่อนที่หลับใหลอยู่ในหุบเขานรกไปตลอดกาลแล้ว ยังดีที่เขานึกถึงลูกเมีย กัดฟันอดทนมาตลอด จนในที่สุดก็ได้รับการช่วยเหลือ!
ตอนนี้สบายใจแล้วจึงผล็อยหลับไป
มู่เถาเยาจัดการดามมือ ขา และเอวให้เซียวไห่หมิง
ขนาดถูกทำแบบนี้เขาก็ยังไม่ตื่น
ตอนตี้อู๋เปียนถือข้าวของกลับมา ดวงอาทิตย์ก็เริ่มคล้อยลงต่ำแล้ว
ทั้งสองคนใช้ท่อนไม้ยาวกับผ้าห่มมาทำเป็นเปลหามแบบง่ายๆ หามคนขึ้น แบกข้าวของ จากนั้นก็เหาะลงจากภูเขา
เนื่องจากตี้อู๋เปียนคุยกับพวกสัตว์จนรู้ทิศทางแล้ว ดังนั้นต่อให้ตรงนี้เป็นคนละโซนกับที่พวกเขาขึ้นเขามา ก็ใช้เวลาไม่เท่าไรในการตามหารถ
พอกลับถึงตัวเมืองเยียนอวิ๋นมู่เถาเยาก็ตรวจร่างกายเซียวไห่หมิงอีกรอบ เมื่อแน่ใจว่าอาการของเขาดีกว่าเมื่อครู่จึงช่วยกันกับตี้อู๋เปียนพาเขาไปส่งโรงพยาบาล
บาดแผลพวกนี้ไม่ถึงแก่ชีวิต หมอทั่วไปรักษาได้
ยาหลินเจี่ยกับยาหอมมัจฉาเป็นยาวิเศษล้ำค่าที่รักษาโรคกระดูกได้ผลอันน่ามหัศจรรย์ แต่ไม่จำเป็นต้องใช้กับโรคกระดูกหักทั่วไปแบบนี้
พรุ่งนี้ค่อยฝังเข็มอีกครั้ง จะได้ไม่ทิ้งอาการหลงเหลือในภายหลัง
เซียวไห่หมิงหลับตลอดทางตั้งแต่บนเขาจนถึงโรงพยาบาล
มู่เถาเยาถ่ายภาพของเขาส่งให้เหลยจื่อ
ตี้อู๋เปียน “ซาลาเปาน้อย คืนนี้ดึกแล้ว พวกเรากลับโรงแรมก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ ที่นี่มีหมอมีพยาบาลไม่ต้องห่วง”
“อืม”
ทั้งสองคนเพิ่งขึ้นรถ โทรศัพท์มือถือของมู่เถาเยาก็ดังขึ้น
“เสี่ยวเยาเยา เซียวไห่หมิงเป็นอะไรเหรอ” น้ำเสียงของเหลยจื่อดูร้อนใจ
ในฐานะที่เป็นภรรยา ไม่ว่าสภาพของสามีจะเปลี่ยนไปแค่ไหนเธอก็จำได้ทันที
“ฉันบังเอิญเจอเขาที่หุบเขานรกในเมืองเยียนอวิ๋นค่ะ เขากระดูกหักหลายจุด มีบาดแผลภายใน แถมยังไม่ได้กินอาหารมาหลายวัน พี่เหลยจื่อไม่ต้องกังวลมากเกินไปนะคะ ตอนนี้เขาพ้นขีดอันตรายแล้วค่ะ”
“พี่จะซื้อตั๋วไปเดี๋ยวนี้ รบกวนเสี่ยวเยาเยาช่วยดูแลให้ก่อนนะ”
“ค่ะ พี่จัดการเรื่องเด็กๆ ให้เรียบร้อยก่อนค่อยมาก็ได้ค่ะ ฉันแนะนำให้พักที่โรงพยาบาลทางนี้ก่อนสักครึ่งเดือนค่อยย้ายไปค่ะ”
“พี่เข้าใจจ้ะ พี่จะจัดการทางนี้ให้เสร็จก่อน ขอบใจนะเสี่ยวเยาเยา”
“ไม่เป็นไรค่ะ พรุ่งนี้เจอกันแล้วค่อยว่ากันค่ะ”
“ได้จ้ะ”
พอกลับถึงโรงแรมเสี่ยวเหอกู่ มู่เถาเยาก็เล่าให้ตี้อู๋เปียนฟังว่าเซียวไห่หมิงเป็นใคร
ตี้อู๋เปียนไม่สนว่าคนคนนั้นจะเป็นใคร แค่รู้สึกว่าบังเอิญมากที่เป็นญาติของคนรู้จัก
ทั้งสองคนคุยกันสักพักก็ไปอาบน้ำ ออกกำลังกาย นอน
หลังอาหารเช้าวันรุ่งขึ้น มู่เถาเยาโทรหาหร่วนเหวินเสร็จก็ไปเยี่ยมเซียวไห่หมิงที่โรงพยาบาลพร้อมตี้อู๋เปียน
เซียวไห่หมิงนอนไปสิบกว่าชั่วโมง สภาพจิตใจใช้ได้เลยทีเดียว
“เสี่ยวมู่…แล้วคุณคนนี้ไม่ทราบชื่ออะไรครับ”
ตี้อู๋เปียนพยักหน้า “ลู่ครับ”
“คุณลู่ ขอบคุณคุณกับเสี่ยวมู่ที่ช่วยชีวิตผมไว้นะครับ ไว้ผมหายจะเอาของไปขอบคุณครับ”
“ไม่ต้องเกรงใจครับ”
มู่เถาเยายิ้มพูด “คุณเซียวคะ เมื่อคืนฉันแจ้งให้พี่เหลยจื่อทราบแล้ว เธอจะจองตั๋วเที่ยวบินที่เร็วที่สุดมาค่ะ วันนี้เที่ยงน่าจะถึงค่ะ”
“โอเค เสี่ยวมู่กับเสี่ยวลู่จะกลับกันเมื่อไร”
“พวกเราออกมาเที่ยวนานมากแล้วค่ะ ตอนบ่ายจะกลับเมืองเย่ว์ตูค่ะ”
“งั้นก็คงต้องรอกลับไปถึงจะได้เจอกันอีก”
“ค่ะ ฉันจะช่วยฝังเข็มให้อีกครั้งนะคะ จะได้หายเร็วขึ้น”
“ขอบใจมาก”
มู่เถาเยาฝังเข็มให้เซียวไห่หมิงเสร็จก็ให้เขากินยาบำรุงอีกเม็ด
เซียวไห่หมิงนอนต่อ
มู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนกลับไปเก็บของที่โรงแรม คืนห้องพักแล้วมาใหม่ อยู่โรงพยาบาลจนกระทั่งเหลยจื่อมาถึง
“เสี่ยวเยาเยา เซียวไห่หมิงเป็นยังไงบ้าง”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ พักฟื้นสักสามเดือนก็หายค่ะ ไม่มีอาการหลงเหลือแน่ รอพวกพี่กลับไปอยู่บ้านฉันก็อยู่ที่เมืองเย่ว์ตูค่ะ ไว้ถึงตอนนั้นฉันจะช่วยฝังเข็มฟื้นฟูร่างกายอีกครั้งค่ะ”
“จ้ะ ไว้ถึงตอนนั้นพี่จะเลี้ยงข้าวเธอกับ…แล้วคนนี้คือ?”
“เขาเป็น…แฟนของฉันค่ะ ชื่อตี้อู๋เปียน”
“เธอมีแฟนแล้วเหรอ!”
เหลยจื่อไม่รู้จักใบหน้านี้ ไม่คุ้นชื่อ ‘ตี้อู๋เปียน’ เพราะตี้อู๋เปียนป่วยแต่เด็ก ไม่เคยเปิดเผยตัวต่อสาธารณชน
เดิมทีพวกเขาก็ไม่ได้เป็นญาติสนิท เหลยจื่อจึงไม่รู้เรื่องส่วนตัวของมู่เถาเยาเท่าไร
ตี้อู๋เปียน “…” ซาลาเปาน้อยมีแฟนไม่ได้หรือไง ต้องตกใจเล่นใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ!
มู่เถาเยา “เอ่อ…พี่เหลยจื่อคะ ฉันอายุยี่สิบสามแล้วนะคะ”
ถูกต้อง ตอนนี้กลางเดือนมีนาคมแล้ว เธอฉลองวันเกิดอายุครบยี่สิบสามปีไปแล้ว
เหลยจื่ออึ้ง จากนั้นก็หัวเราะ “ก็หน้าเธอเด็กเหมือนผิวทารกเลยหลอกอายุได้”
มู่เถาเยาก็หัวเราะ
ตี้อู๋เปียนแอบขำไม่ออก
เขารักทุกอย่างที่เป็นเธอ แต่ใบหน้านี้ต่อให้ขยายมากกว่านี้ก็ยังดูเด็ก คนตระกูลเย่ว์ก็เลย…
น่าปวดหัว เห้อ…