อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 636 พี่ไม่ใช่คนอื่นๆ ตอนที่ 637 ไปเป็นสะใภ้เหมือนกัน
ตอนที่ 636 พี่ไม่ใช่คนอื่นๆ ตอนที่ 637 ไปเป็นสะใภ้เหมือนกัน
ตอนที่ 636 พี่ไม่ใช่คนอื่นๆ
หลังผ่านงานนิทรรศการศิลปะ เจียงเฟิงเหมียนก็โด่งดังขึ้นไปอีกขั้น
หนุ่มสาวจึงใช้โอกาสนี้มารวมตัวกันเพื่อฉลองให้เธอ
สนุกสนานกันจนถึงสามทุ่ม พวกผู้ชายพากันไปส่งสาวๆ กลับบ้านกลับมหาวิทยาลัย
ตี้อู๋โยวไปส่งอวิ๋นสุ่ยเหยาที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเหยียนหวงเสร็จก็พูดกับคนที่นั่งด้านหลัง “เสี่ยวเหมียน พวกเราไปหาที่นั่งคุยกันหน่อยนะ”
“พี่รองอยากกินเหล้าเหรอคะ แต่พวกเราเพิ่งกินมา พี่ยังดื่มไหวอีกเหรอคะ ฉันดื่มไม่ไหวแล้ว! อีกอย่างดื่มเหล้าก็ขับรถไม่ได้ด้วย…” บอกว่าฉลองให้เธอ แต่เมื่อกี้พวกผู้ชายไม่แตะเหล้ากันเลย มีแค่พวกผู้หญิงที่ดื่มบ้างนิดหน่อย
“…พี่ไม่ได้จะดื่มเหล้าหรือหาอะไรกิน แค่มีเรื่องอยากคุยกับเธอหน่อย”
เจียงเฟิงเหมียนสองแก้มแดงก่ำเพราะฤทธิ์เหล้า ดวงตากลมโตโค้งมน พูดอย่างใจกว้าง “พี่อยากได้ภาพวาดเหรอคะ ไม่มีปัญหา เดี๋ยวฉันวาดให้พี่ภาพนึงค่ะ! สองสามภาพก็ยังได้!”
“…ไม่ใช่ เสี่ยวเหมียน วิทยาลัยของเธอไม่มีเวลาปิดหอ พวกเราหาที่นั่งเล่นกันเดี๋ยวพี่ไปส่งเธอกลับช้าหน่อย ได้ไหม”
“พี่รองมีเรื่องอะไรอยากให้ฉันช่วยหรือเปล่าคะ”
ตี้อู๋โยว “…มีเรื่องอยากให้เธอให้ความร่วมมือหน่อย” แต่มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิด!
“ค่ะ งั้นแล้วแต่พี่เลยค่ะ พี่อยากพาฉันไปไหนก็ได้หมด”
ตี้อู๋โยวอดขำไม่ได้ “ไว้ใจพี่ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ก็นี่พี่รองนี่คะ! ไม่ใช่คนอื่น!” พวกเธอสนิทกันจะตาย! มีเหรอจะเอาเธอไปขาย! ยิ่งไปกว่านั้นคนตระกูลตี้ก็ไม่ใช่คนแบบนั้น!
“อืม พี่ไม่ใช่คนอื่น” ตี้อู๋โยวมองผ่านกระจกมองหลังแล้วยิ้ม
เจียงเฟิงเหมียนไม่รู้ว่าเขายิ้มอะไร แค่รู้สึกแปลกๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าแปลกตรงไหนจึงไม่คิดอะไรมาก
ตี้อู๋โยวขับรถไปที่สวนสาธารณะของเมืองหลวง ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากวิทยาลัยวิจิตรศิลป์ สุดสัปดาห์หรือช่วงเย็นจึงมีนักศึกษากับอาจารย์มาเดินเล่นกันที่นี่เยอะ พอจอดรถก็เจอเพื่อนของเจียงเฟิงเหมียนทันที
อึม เป็นเพื่อนผู้ชาย
“เสี่ยวเหมียน! ทำไมเธอมาที่นี่ล่ะ” น้ำเสียงตื่นเต้นมาก แต่พอเห็นตี้อู๋โยวก็ลดความตื่นเต้นลง “คนนี้…แฟนเธอเหรอ”
“เอ่อ…ใช่” เจียงเฟิงเหมียนคล้องแขนตี้อู๋โยว ดวงตากลมโตส่งสายตาว่า ‘ขอร้องล่ะ ช่วยเออออหน่อย’
ตี้อู๋โยวดวงตาอมยิ้ม เอาใจเป็นพิเศษ
นักศึกษาชายคนนั้นแอบเปรียบเทียบตัวเองกับอีกฝ่ายเงียบๆ อยู่ ๆ ก็ถอนหายใจ
“งั้นฉัน…ไม่รบกวนพวกเธอแล้ว” ตัวเตี้ยกว่า หน้าตาแย่กว่า รถก็ไม่หรูเท่า…เอาอะไรไปสู้!
เจียงเฟิงเหมียนโบกมือ “อึม บ้าย บาย”
“…บ้ายบาย” ฮือ…ปวดใจ!
พอเห็นนักศึกษาชายคนนั้นเดินไปไกลแล้ว ตี้อู๋โยวจึงก้มถาม “เสี่ยวเหมียน เพื่อนคนนี้มาตามจีบเหรอ”
“เอ่อ รูมเมทฉันบอกแบบนั้นค่ะ”
“รูมเมทบอกเหรอ แล้วเธอว่าไง”
“ฉันไม่รู้ค่ะ”
ตี้อู๋โยวรู้สึกขำ แต่ก็แอบดีใจ เห็นได้ชัดว่าเธอไม่มีใจให้ เขาพูด “เธอทำแบบนี้ถูกแล้ว ไม่ชอบก็อย่าไปให้ความหวังใคร”
เจียงเฟิงเหมียนพยักหน้าเหมือนไก่ “อืม”
เธอไม่เคยคิดเรื่องพวกนี้เลยด้วยซ้ำ แต่รูมเมทบอกว่าเขาชอบเธอ งั้นก็ใช้โอกาสนี้ตัดตอนความคิดของเขาดีกว่า
เดิมทีก็ไม่ได้ชอบหรือเกลียด แค่ไม่อยากมีแฟน
“ขอโทษนะคะพี่รอง ฉัน…”
“ไม่เป็นไร พี่ยินดีช่วยเธอ”
“ขอบคุณค่ะ” รอยยิ้มของเจียงเฟิงเหมียนเจิดจ้ายิ่งกว่าแสงไฟนีออนที่อยู่ไกลออกไป
ตี้อู๋โยวเคลิ้มไปชั่วขณะถึงได้สติกลับมา “ไปเถอะ เราไปซื้อชานมสักแก้วแล้วเข้าไปกัน”
สองฝั่งของประตูทางเข้ามีร้านรวงต่างๆ
“ฉันกินไม่ไหวแล้วค่ะ” เจียงเฟิงเหมียนขมวดคิ้ว ในใจเธออยากกินนะ แต่ร่างกายรับไม่ไหวแล้ว ท้องแน่นมาก!
รู้แบบนี้ขอยาช่วยย่อยมาจากพี่เยาๆ ดีกว่า!
“งั้นไอศกรีมล่ะ”
เจียงเฟิงเหมียนดวงตาเปล่งประกายรีบตอบทันที “กินไหวค่ะกินไหว” ประจำเดือนเพิ่งหมดไป กินได้
ไอศกรีมของอร่อย แถมไม่หนักท้องเท่าไร
ตี้อู๋โยวหลุดขำ
พาเธอไปที่ร้านเล็กๆ ร้านหนึ่งแล้วซื้อไอศกรีมซากุระ
เจียงเฟิงเหมียนถึงได้สังเกตเห็นว่าตัวเองยังคล้องแขนตี้อู๋โยวอยู่
ตี้อู๋โยวแอบนึกเสียใจที่มาซื้อไอศกรีม ไม่อย่างนั้นเธอก็ยังจะคล้องแขนเขาเหมือนเป็นแฟนอยู่ แอบเซ็งตัวเองเบาๆ
“อะนี่”
เจียงเฟิงเหมียนรับไป ตักหนึ่งคำเข้าปาก เอร็ดอร่อยจนตาหยี
“พี่รองไม่กินเหรอคะ” ถามตามความเคยชิน เพราะเธอกับมู่เถาเยา มู่หว่าน อวิ๋นสุ่ยเหยา ปกติก็เป็นกันแบบนี้
“งั้นเธอป้อนพี่คำนึง”
เจียงเฟิงเหมียนตักคำใหญ่ป้อน พอตี้อู๋โยวกินแล้วถึงได้รู้สึกว่าผิดปกติ
เธอกับตี้อู๋โยวสนิทกันก็จริง แต่ไม่ควรใกล้ชิดกันขนาดนี้ อย่างไรเสียเขาก็ไม่ใช่ผู้หญิง
“เอ่อ…”
ตี้อู๋โยวยิ้มมุมปากดวงตาโค้งมน ลูบศีรษะเธอ “พวกเราไปนั่งริมทะเลสาบต้นหลิวกันเถอะ”
“ค่ะ” เจียงเฟิงเหมียนสลัดความรู้สึกแปลกๆ ที่โผล่ขึ้นมาในใจเมื่อครู่ทิ้ง
ทั้งสองคนเดินไปคุยไป
“เสี่ยวเหมียน เธอก็อยู่เมืองหลวงมาหลายปีแล้ว ชอบที่นี่ไหม”
“ชอบนะคะ แต่ชอบที่สุดคือเมืองเย่ว์ตูกับหมู่บ้านเถาหยวน”
“เมืองเย่ว์ตูเป็นบ้านเกิดของเธอ เธอย่อมชอบที่สุดเป็นธรรมดา เธอคิดว่าอากาศกับอาหารของเมืองหลวงเป็นยังไง คุ้นชินหรือยัง”
“ก็ดีนะคะ แต่ฉันเป็นคนไม่เลือกกินอยู่แล้ว อากาศแห้งไปหน่อย แต่ดื่มน้ำเยอะๆ ก็ได้…เอาเป็นว่ารวมๆ คือดีค่ะ” บลา ๆ ๆ
“แล้วทิวทัศน์ค่ะ เป็นแบบที่เธอชอบหรือเปล่า”
“ฤดูใบไม้ผลิสวยที่สุด ดอกท้อ ดอกแอปริคอต ดอกไห่ถัง…ดอกไม้หลากหลายชนิดแย่งกันผลิบาน ทำให้เมืองหลวงกลายเป็นท้องทะเลแห่งดอกไม้ หน้าร้อนหญ้าเขียวชอุ่ม ต้นไม้แตกกิ่งก้านสาขา…ฤดูใบไม้ร่วงสีเหลืองแดงอร่ามเพราะต้นแปะก๊วยกับเมเปิ้ล…หน้าหนาวห่อหุ้มด้วยสีขาวดูใสสะอาด…สี่ฤดูแยกกันชัดเจน เป็นเมืองที่น่าหลงใหลมากเลยค่ะ”
“เธอชอบก็พอแล้ว” ตี้อู๋โยวยิ้มกว้างขึ้นเรื่อย ๆ
ตอนที่ 637 ไปเป็นสะใภ้เหมือนกัน
“เสี่ยวเหมียน วันหน้าอยากอยู่เมืองหลวงนานๆ ไหม”
เจียงเฟิงเหมียนปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด “ไม่อยากค่ะ เรียนจบแล้วฉันจะไปหมู่บ้านเถาหยวนค่ะ”
ตี้อู๋โยว “…” แผนไม่ราบรื่น!
“พี่รองมีอะไรอยากให้ฉันช่วยเหรอคะ คนอย่างฉันจะช่วยอะไรพี่ได้เหรอ”
“เธอออกจะเก่ง พี่ชอบคนแบบเธอนะ” เป็นคนง่ายๆ ดี
คน ‘ง่ายๆ’ หาได้ยากในสังคมสมัยนี้
เจียงเฟิงเหมียนพูดด้วยความดีใจ “ฮี่ ฉันก็ชอบคนแบบตัวเองค่ะ พี่เยาเยาพี่เสี่ยวหว่านก็ชอบฉัน!”
ตี้อู๋โยว “…” ท่าทีตอบสนองแบบนี้มันไม่ใช่แล้ว!
ผู้ชายบอกชอบผู้หญิง ผู้หญิงก็ควรหน้าแดงไม่ใช่เหรอ
“สรุปว่าฉันช่วยอะไรพี่รองได้เหรอคะ”
“…น้องชายพี่มีแฟนแล้ว พี่ยังไม่มี…”
เจียงเฟิงเหมียนอดถลึงตาโตไม่ได้ “พี่ถูกใจพี่อีเหิงเหรอคะ อยากให้ฉันเป็นสะพานเชื่อมให้เหรอ” บรรดาสาวๆ ที่อยู่รอบตัวเธอมีแค่พี่อีเหิงที่ยังไม่มีแฟน ยกเว้นเสี่ยวเหยา
เสี่ยวเหยาถือเป็นญาติของเขา งั้นก็มีแค่พี่อีเหิงแล้ว
ตี้อู๋โยวมุมปากกระตุก พูดอย่างจนปัญญา “แล้วพี่ถูกใจเธอไม่ได้หรือไง แล้วก็ จั่วอีเหิงมีคนที่ชอบอยู่แล้ว”
เจียงเฟิงเหมียนดวงตาเบิกโพลงยิ่งกว่าเดิม อ้าปากกว้างเป็นรูปตัวโอ ท่าทางเหมือนถูกฟ้าผ่า
ตี้อู๋โยวลูบศีรษะเธอ หยิบช้อนในมือเธอมาตักไอศกรีมใส่ปากเธอที่อ้าอยู่
เจียงเฟิงเหมียนหุบปากอัตโนมัติ ลิ้มรสไอศกรีม
ตี้อู๋โยวขำท่าทางของเธอ
“เสี่ยวเหมียน ต่อไปเสี่ยวเยาเยาจะแต่งกับตี้อู๋เปียน คงได้อยู่ที่เมืองหลวงนานแน่ ถ้าเธออยากอยู่กับเสี่ยวเยาเยาบ่อยๆ แบบนั้นมาเป็นสะใภ้ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ไม่อย่างนั้นวันหน้าเธอแต่งกับคนอื่นก็ไม่สะดวกเท่าแบบนี้ เธอลองคิดดูนะว่ามันเป็นแบบนี้หรือเปล่า”
สมองน้อยๆ ของเจียงเฟิงเหมียนเริ่มทำงาน จากนั้นเธอก็รู้สึกว่าพี่รองพูดถูก!
“งั้นฉันกับพี่…” เจียงเฟิงเหมียนชี้ตัวเองแล้วชี้ตี้อู๋โยว
“อืม ถ้าเธอไม่ติดขัดอะไร งั้นตอนนี้พวกเรามาเป็นแฟนกัน” ตี้อู๋โยวกลั้นขำ
หลอกมาก่อนค่อยทำให้หลงรัก
เด็กสาวใสซื่อแบบนี้ให้เขาปกป้องเองดีกว่าถึงจะสบายใจ
เจียงเฟิงเหมียนแอบงง ทำไมออกมาแค่แปบเดียวมีแฟนเฉย
“วันมะรืนเป็นวันสุดสัปดาห์ พี่จะไปเยี่ยมอากับน้องชายเธอที่เมืองเย่ว์ตูเป็นเพื่อนเธอนะ”
“อ้อค่ะ” มันดูแปลกๆ ตรงไหนชอบกล
สมองที่ไม่ค่อยฉลาดของเธอแอบตามไม่ทัน
ตี้อู๋โยวหยิบถ้วยไอศกรีมมาจากมือของเจียงเฟิงเหมียน ป้อนเธอหนึ่งคำ ป้อนตัวเองหนึ่งคำ ไม่นานก็กินไอศกรีมหมดถ้วย จากนั้นก็จูงมือเธอที่เย็นเพราะไอศกรีม “ไปเถอะ พี่จะส่งเธอกลับหอพัก”
เจียงเฟิงเหมียนใช้อีกมือเกาหัว
พอกลับถึงหน้าหอพักวิทยาลัยวิจิตรศิลป์ ตี้อู๋โยวก็จูงคนที่ยังงุนงงอยู่ลงจากรถ “เสี่ยวเหมียน พรุ่งนี้บ่ายเลิกเรียนแล้วพี่จะมารับไปวังตระกูลตี้นะ”
“เอ่อ” เจียงเฟิงเหมียนพยักหน้าแบบงงๆ
ตี้อู๋โยวอดจุ๊บที่ปลายจมูกของเธอที่แสนน่ารักไม่ได้ จากนั้นก็จับตัวเธอหมุนเข้าหาหอพัก “รีบเข้าไปเถอะ ฝันดีนะ”
เจียงเฟิงเหมียนเดินเข้าประตูเหมือนหุ่นยนต์ พอถึงตึกก็ยังไม่ได้สติกลับมา
รูมเมทคนหนึ่งถามขึ้น “เสี่ยวเหมียน จมูกเป็นอะไร ทำไมเอาแต่ลูบล่ะ”
เจียงเฟิงเหมียนเอามือออก ลืมตาที่หวานหยาดเยิ้มถาม “แดงหรือเปล่า” เธอรู้สึกเหมือนจมูกร้อนจนจะสุกแล้ว!
“ไปชนอะไรมาเหรอ ขอดูหน่อย…จมูกไม่แดง แต่หน้าเธอแดงมาก ตัวมีกลิ่นเหล้าด้วย ไปกินเหล้ามาเหรอ มึนหัวหรือเปล่า”
เจียงเฟิงเหมียนพยักหน้า เดิมทีไม่มึนหัว แต่เพิ่งจะมึนนี่แหละ
รูมเมทตบหน้าอกตัวเองเบาๆ แล้วถอนหายใจโล่งอก “ยังดีนะที่เธอรู้จักกลับมา ไม่ถูกใครหามไป”
“ฉันไปดื่มกับพวกพี่ๆ เพื่อนมาส่งหน้าหอ ไม่มีอะไรหรอก”
“อึมๆ เธอไปอาบน้ำนอนเถอะ พรุ่งนี้ตื่นมาก็ดีขึ้น”
“อึมๆ”
เจียงเฟิงเหมียนเปลี่ยนรองเท้าถอดเสื้อกันหนาวออก หยิบชุดนอนเดินเข้าห้องน้ำ
อาบน้ำเสร็จก็นอนบนเตียง พลิกตัวไปมานอนไม่หลับ
ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
หยิบโทรศัพท์มือถืออยากคุยกับมู่เถาเยา
แต่เพิ่งหยิบโทรศัพท์ได้หน้าจอก็สว่าง มีข้อความจากตี้อู๋โยว [เสี่ยวเหมียน นอนหรือยัง]
[นอนแล้วค่ะ แต่นอนไม่หลับ]
[งั้นพี่คุยเป็นเพื่อน] นอนไม่หลับก็ถูกแล้ว แสดงว่าในใจของเธอมีร่องรอยของเขา
[แต่ฉันอยากคุยกับพี่เยาเยาค่ะ]
[…เวลานี้เสี่ยวเยาเยานอนแล้ว พี่คุยเป็นเพื่อนเอง] ไม่โกรธๆ ต่อไปเขาจะต้องเป็นคนแรกที่เธอนึกถึงเวลามีอะไรแน่
[ก็ได้ค่ะ]
[เสี่ยวเหมียน เมื่อก่อนเธอเคยเป็นแบบนี้ไหม] เด็กผู้หญิงที่นิสัยแบบนี้ไม่ค่อยนอนไม่หลับ
[ไม่เคยค่ะ ฉันหลับง่ายมาตลอด]
[งั้นคืนนี้เธอคิดอะไรอยู่] คิดถึงเขาแน่นอน!
[ไม่รู้ค่ะ] สับสนไปหมด ยังไม่ได้จัดระเบียบ
[เสี่ยวเหมียน อันที่จริงความรักไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้น เธออยากให้เป็นแบบไหนก็ปล่อยไปตามนั้น]
[แต่ว่าฉัน…เหมือนจะไม่ได้มีความรัก…]
[…] เสียดแทงใจ! แต่ไม่เป็นไร กระดาษขาวต่างหากถึงจะวาดง่าย!
[เสี่ยวเหมียน เธอคิดถึงวันข้างหน้าอยากให้เป็นแบบไหนก็จะเข้าใจแล้ว] ต่อให้ไม่ใช่เพื่อเขา แต่บรรลุเป้าหมายก่อนก็เหมือนกัน สามีภรรยาที่แต่งงานแล้วถึงรักกันมีเยอะแยะ! เขาเองก็มั่นใจว่าจะทำให้เธอรักเขาได้!
[ค่ะ ฉันจะลองคิดดู]
[อึม ใส่หูฟังนะ พี่จะร้องเพลงกล่อมนอน]
[พี่รองร้องเพลงกล่อมนอนเป็นด้วยเหรอคะ] เจียงเฟิงเหมียนที่อยู่ในผ้าห่มดวงตาเบิกโพลง ตะลึงสุดๆ
[ร้องเป็นเพราะเมื่อก่อนต้องกล่อมอันเหยี่ยกับจินเหยี่ย]
เจียงเฟิงเหมียนหาหูฟัง [ใส่แล้วค่ะ]
[อึม ไม่ต้องพิมพ์ตอบแล้ว เอาโทรศัพท์วางไว้ไกลหัวเตียงหน่อย หลับตาแล้วฟังพี่]
เจียงเฟิงเหมียนฟังเพลงกล่อมเด็ก ไม่นานก็ผล็อยหลับไป