อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1008 ถูกหลอกแล้ว
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1008 ถูกหลอกแล้ว
“พวกเจ้าสองคนพาพวกนางไปเอาหนิวโหยวกั่ว”
“ไต้อ๋อง ทำไมให้พวกเราสองตัวไปล่ะ?”
“เจ้าไม่เห็นหรือว่าข้าถูกย่างจนสุกหกส่วนแล้ว? ข้าต้องไปทำแผลอีก”
กระทิงไฟสี่เขาสองตัวน้อยอกน้อยใจเอ่ย
“ไต้อ๋อง ข้าก็ถูกย่างสุกห้าส่วนเหมือนกันนะ ขี้เหร่เหลือเกิน”
“ข้ายิ่งกว่า ข้าสุกเจ็ดส่วน”
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เลียปาก จ้องกระทิงไฟสี่เขาสองตัวด้วยแววตาอยาก ทำจนพวกมันขนพองสยองเกล้า
พวกมันไม่อยากอยู่กับราชางูจริงๆ
กระทิงไฟเก้าเขาสีหน้าพลันเปลี่ยน “พวกเจ้าโง่หรือ พวกเจ้าแค่รับผิดชอบพาพวกเขาไปที่ข้างต้นหนิวโหยวกั่ว แล้วบอกพี่น้องคนอื่นๆ ว่าอย่าทำให้พวกเขาลำบากใจก็พอแล้วนี่”
“เออ…ก็ได้…”
กระทิงไฟสี่เขาสองตัวพากู้ชูหน่วนกับเซียวหยู่เซวียนมาถึงข้างต้นหนิวโหยวกั่วอย่างทางโล่งโปร่งสบาย
ตลอดทางมีศพนักเรียนวิทยาลัยอี้เหอจำนวนมาก รวมถึงซากฝูงวัวระดับต่ำจำนวนหนึ่งด้วย สภาพการณ์ชุลมุนวุ่นวาย รอยเลือดเป็นดอกดวง
ดูออกเลยว่าเพื่อหนิวโหยวกั่วผลเดียว ทั้งสองฝ่ายถึงกับเพลี่ยงพล้ำหนัก
กระทิงไฟสี่เขาก่นด่า ด่าทอสาปแช่งนักเรียนวิทยาลัยอี้เหอไม่หยุด
ในที่สุด…
พวกเขาเห็นนักเรียนสิบกว่าคนของวิทยาลัยอี้เหอ นำโดยมีไป๋หลี่หมิง กำลังรบราฆ่าฟันกับเหล่าฝูงกระทิง สองฝ่ายต่างไม่ยอมกัน บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
กระทิงน้องรองและน้องสามร้องมอๆๆๆ กับฝูงกระทิง…
ก็ไม่ทราบว่ากล่าวอะไร ฝูงกระทิงที่กำลังทำศึกเดือดต่างหลีกทาง ถลึงตากับเหล่านักเรียนที่อยู่ไกลๆ ด้วยโทสะ
กู้ชูหน่วนกับเซียวหยู่เซวียนเดินเข้าสมรภูมิอย่างหน้าเชิดอกตรง เดินไปทางข้างต้นหนิวโหยวกั่ว
หนิวโหยวกั่วสูงเพียงหนึ่งเมตรกว่า บนต้นมีผลไม้เพียงผลเดียวเท่านั้น เขียวๆ เลื่อมๆ หน้าตาไม่ดี แต่กลับแผ่ชี่ทิพย์เข้มข้นทั้งผล
ไป๋หลี่หมิงร้องด้วยความตกใจ “เป็นพวกเจ้าสองคนอีกแล้ว ทำไมพวกเจ้ายังไม่ตายอีก”
“เจ้ายังไม่ตายเลย แล้วพวกเราจะกล้าตายได้อย่างไร?”
กู้ชูหน่วนไม่แยแสพวกเขาสักสายตา เดินไปทางต้นไม้อย่างเดียว ยื่นมือคิดจะเด็ดผลไม้
ซ่างกวนหมิงหลางยิ้มเยาะ “เจ้าโง่ หนิวโหยวกั่วเด็ดได้ง่ายขนาดนั้นเชียวหรือ? ไม่เห็นพวกสัตว์อสูรชั้นต่ำจ้องเขม็งหรืออย่างไร?”
“นางอยากรนหาที่ตาย พวกเราจะขวางไว้ทำไม”
“วัวเกิดใหม่ไม่กลัวเสือโดยแท้ แค่เท้าข้างเดียวของกระทิงหนึ่งตัวก็เหยียบนางเละได้แล้ว ทุกคนก็รอดูนางถูกเหยียบตายเถอะ”
เมื่อสิ้นเสียง กู้ชูหน่วนก็เด็ดผลไม้มาได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังโบกไม้โบกมือกับพวกเขาอีก
ส่วนกระทิงเหล่านั้นก็ไม่ขัดขวาง เพียงแต่หลีกทางหนึ่งน้ำลายไหลมองหนิวโหยวกั่วในมือนาง
นี่…
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ทำไมกระทิงไม่โจมตีพวกเขา?
พวกเขานึกว่ากระทิงกำลังกลั้นแผนใหญ่อะไรอยู่
แต่คิดไม่ถึงว่ากู้ชูหน่วนจะกินในคำเดียว ทั้งยังขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจอีก
“ทั้งขมทั้งฝาด ไม่อร่อยสักนิด”
นี่…
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ไป๋หลี่หมิงชี้กู้ชูหน่วนตะโกน “นางกินผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเจ้าไปแล้ว ทำไมพวกเจ้าไม่ฆ่านางเล่า?”
เหล่ากระทิงได้ยินวาจาของไป๋หลี่หมิง ไม่เพียงไม่โจมตีกู้ชูหน่วน แต่ยังถอยออกอย่างเป็นระเบียบอีก พริบตาเดียวก็หายไปจากคลองจักษุผู้คน
ทุกคนพลันว้าวุ่นอยู่ในสายลม ไม่เข้าใจเอาเสียเลย
“มู่หน่วน เจ้าอ้วกหนิวโหยวกั่วออกมาเลยนะ พวกเราพบมันก่อน”
“ข้ากินลงท้องไปแล้ว ถ้าอ้วกออกมาจริงๆ เจ้าจะกล้ากินหรือ?”
“เจ้า…นังผู้หญิงคนนี้ ข้าจะฆ่าเจ้า…”
“สังหารศิษย์ร่วมสำนักอย่างออกหน้าออกตา หากแพร่ออกไปกลัวแต่เจ้าต้องถูกขับออกจากวิทยาลัยอี้เหอกระมัง”
“เจ้า…”
ทุกคนอัดอั้นตันใจ
นี่พวกเขาต่อสู้จะเป็นจะตายเพื่ออะไรกัน?
มิใช่เพื่อหนิวโหยวกั่วหรือ? บัดนี้กลับถูกเจ้าขยะกินไปต่อหน้าต่อตา แล้วพวกเขาจะไม่เจ็บแค้นได้อย่างไร
กู้ชูหน่วนนั่งขัดสมาธิ โคจรชี่หนึ่งรอบโลกา แต่จุดตันเถียนกลับว่างเปล่า
โธ่…
สามร้อยปีออกหนึ่งครั้ง
แค่นี้เองหรือ?
และตอนนี้เอง นักเรียนคนหนึ่งก็รีบร้อนวิ่งมา เอ่ยกับไป๋หลี่หมิง
“คุณชาย เกิดเรื่องใหญ่แล้ว ในส่วนลึกของโบราณสถานมีของวิเศษ พวกซ่างกวนหมิงหลาง องค์ชายหยางโม่กับสัตว์อสูรระดับสูงต่างรีบไปที่นั่นแล้วขอรับ”
กู้ชูหน่วนค้นพบอย่างรู้สึกช้า ว่าตัวเองถูกกระทิงไฟเก้าเขาหลอกเสียแล้ว
ของวิเศษในส่วนลึกของโบราณสถานต่างหากที่เป็นของวิเศษของจริง