อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1009 ทรงพลัง
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1009 ทรงพลัง
“อะไรนะ…ในส่วนลึกของโบราณสถานมีของวิเศษ? มีของวิเศษอะไร?” ไป๋หลี่หมิงเอ่ย
“ไม่…ไม่ทราบขอรับ แต่ทราบมาว่าเป็นของวิเศษที่เยี่ยมยอดยิ่งกว่าหนิวโหยวกั่วอีกขอรับ”
ไป๋หลี่หมิงมองกู้ชูหน่วนด้วยความเคียดแค้นยิ่ง แล้วมองไปทางส่วนลึกของโบราณสถาน สุดท้ายจึงกัดฟัน นำคนของตัวเองวิ่งตะบึงไปทางนั้น
นักเรียนคนอื่นๆ ก็ไม่ยอมแพ้ วิ่งไปทางโบราณสถานส่วนลึกด้วย
พริบตาเดียว สถานที่ครึกครื้นเมื่อครู่ก็เหลือแต่เซียวหยู่เซวียนกับกู้ชูหน่วนแล้ว
เซียวหยู่เซวียนขมวดคิ้วน้อยๆ
ของวิเศษ?
หรือจะเป็นคันฉ่องหงส์หรือจะเป็นขวานผานกู่?
“ยัยเด็กโง่ ตัวเจ้ามีบาดแผล อยู่รักษาแผลที่นี่ก่อนเถอะ ข้าจะไปดูทางนั้นเอง”
“พูดถึงแผล เจ้าก็ไม่น้อยไปกว่าข้ากระมัง จะไปก็ไปด้วยกัน”
“หนิวโหยวกั่วก็เป็นของชั้นยอด แค่เจ้าปรับลมหายใจให้ดี มันก็ช่วยเพิ่มพลังยุทธ์ให้เจ้าแล้ว ได้หนิวโหยวกั่วที่นี่ก็ไม่เลวแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปเสี่ยงภัยอีก”
“ต้องเสี่ยงจึงจะได้ยศฐาความมั่งคั่ง มาถึงภูเขาสัตว์วิเศษทั้งที แต่ถ้าเพื่อหนิวโหยวกั่วเพียงผลเดียว นั่นก็เสียทีเกินไปแล้ว”
“เจ้าเป็นเพียงอิสตรี จะทุ่มเทเพื่อการเพิ่มพลังไปทำไม?”
“เพราะ…ข้าไม่อยากถูกคนดูถูก และไม่อยากถูกคนรังแกง่ายๆ ด้วย”
เซียวหยู่เซวียนขยับมุมปาก
เขาอยากบอกนางว่าเขาจะปกป้องนาง นางไม่จำเป็นต้องทุ่มเทขนาดนั้น
แต่พอนึกถึงว่านางมีนิสัยเหมือนกับกู้ชูหน่วน เซียวหยู่เซวียนจึงปิดปาก
“ก็ได้ ประเดี๋ยวเข้าไปในนั้นแล้ว เจ้าก็ตามข้าอย่าให้ห่าง และอย่าเดินไปเรื่อยด้วย”
กล่าวจบ เซียวหยู่เซวียนกำชับอีกประโยค “แน่นอน ถ้าสถานการณ์อันตรายมาก เจ้าก็รักษาชีวิตน้อยๆ ของเจ้าเอาไว้ก่อน” อย่างเช่นยามที่ผู้แข็งแกร่งระดับห้ามาโจมตีเขาอีก
“ข้ารู้แล้ว เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ เจ้าตามไป๋หลี่หมิงไป มีข่าวอะไรก็ส่งมาบอกข้าทันที”
“ซี่ๆ…”
มันยังไม่ทันได้นอนอุ่นบนตัวนายหญิงเลย ถูกบังคับให้ต้องไปอีกละ
สายลับเป็นยากจัง
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เลื้อยไปอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ
ระหว่างเดินไปทางส่วนลึกของโบราณสถาน กู้ชูหน่วนกับเซียวหยู่เซวียนต่างรู้สึกหายใจลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ
ระหว่างนั้น พวกเขาประสบกับการจู่โจมสังหารสองสามหน
ทั้งสองมีความโกรธอยู่ในใจ
นับจากเข้าภูเขาสัตว์วิเศษ ก็มักมีคนจู่โจมสังหารพวกเขา
ด้วยความโกรธ กู้ชูหน่วนจึงร่วมมือกับเซียวหยู่เซวียน ไม่สนว่าจะเป็นกลุ่มอิทธิพลที่ส่งมาจากไหน โจมตีสังหารแหลกลาญ ไม่ไว้ไมตรีสักนิด
ครั้นเดินไปอีกไกล ความรู้สึกอึดอัดก็ยิ่งทวีคูณ
เซียวหยู่เซวียนยังดี กู้ชูหน่วนแทบทนไม่ไหว
พวกเขาเห็นนักเรียนของวิทยาลัยอี้เหอจำนวนมากตลอดทาง สีหน้าขาวซีด ทั้งยังมีเหงื่อชุ่มโชก เดินซวนเซออกจากส่วนลึกของโบราณสถาน
บ้างบาดเจ็บหนักขนาดที่ว่าดวงตาทั้งคู่หลั่งเลือดตาบอดทันที บ้างก็เลือดออกเจ็ดทวาร สิ้นลมทันควัน
หลินซือหยวนกับหนิงเทียนโย่วก็ออกมาด้วย
พอพวกเขาเห็นกู้ชูหน่วนก็ทั้งตะลึงทั้งดีใจ
“แม่นางมู่ เจ้ายังไม่ตาย?”
“คำพูดเจ้านี้ทำไมฟังดูแปลกๆ? หรือว่าเจ้าอยากให้ข้าตาย?”
“ไม่ใช่อยู่แล้ว แค่เห็นเจ้าก็เลยตื่นเต้นมากไปเท่านั้น พวกเจ้า…คงไม่คิดเข้าไปในนั้นกระมัง? ที่นี่ทรงพลังเกินไป ไม่ใช่ที่ที่เราจะบุกรุกเข้าไปได้ มีนักเรียนหลายคนต้องจากไปอย่างไม่ยินยอม ส่วนพวกที่ดื้อดึงจะเข้าก็บาดเจ็บล้มตายอยู่ในนั้นเป็นจำนวนมาก ลุกยังลุกไม่ขึ้นเลย”
สภาพหนิงเทียนโย่วยังดีหน่อย ส่วนหลินซือหยวนกลับถูกความกดดันทำจนเหงื่อไหลพราก พูดไม่ออกไปเลยทีเดียว
หากไม่ได้หนิงเทียนโย่วพยุงเอาไว้ เกรงว่าเขาต้องล้มแผละลงไปนานแล้ว
“ข้างในเป็นอะไรกันแน่?”
“รายละเอียดข้าไม่แน่ชัด ด้วยกำลังของข้าไม่อาจเข้าไปได้ แต่ก่อนหน้านี้บนฟ้าปรากฏแสงสนธยาเจ็ดสี จากนั้นก็มีชี่ทิพย์เข้มข้น ทุกคนต่างนึกว่าเป็นหนิวโหยวกั่ว แต่ความจริงไม่ใช่ เป็นของวิเศษที่อยู่ในนั้นเปล่งรัศมีแกร่งกล้าต่างหาก”
“นอกจากพวกเรานักเรียนจากวิทยาลัยอี้เหอ ยังมีสัตว์อสูรระดับสูงมากมายที่พากันเข้าไปในนั้น สามารถทำให้สัตว์อสูรระดับสูงตะบี้ตะบันเข้าไปโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใดได้ คาดว่าของวิเศษคงไม่ธรรมดาเป็นแน่”
เมื่อได้ยินดังนั้นกู้ชูหน่วนก็เดินหน้าต่อ
หนิงเทียนโย่วรีบรั้งนางไว้
สายตาแหลมคมเซียวหยู่เซวียนมองปราดไป กลิ่นอายเย็นเยียบทำจนหนิงเทียนโย่วผงะ รีบคลายมือที่จับแขนเสื้อกู้ชูหน่วนทันที
“เจ้าฝีมืออ่อนด้อยเกินไป ขนาดซ่างกวนหมิงหลางเข้าไปยังลำบากเลย เจ้าไม่จำเป็นต้องไปเสี่ยง พวกเราไปหาตรงตำแหน่งอื่นให้มากหน่อยก็ได้ของวิเศษเหมือนกัน แล้วยังทำพันธสัญญากับสัตว์อสูรระดับกลางได้อีก”
“ขอบคุณในความหวังดีมาก แต่ข้าต้องเข้าไปให้ได้ เสี่ยวเซวียนเซวียน ไปกันเถอะ”
ว่าแล้วกู้ชูหน่วนก็เดินต่อ หนิงเทียนโย่วอยากตามนางไป แต่หลินซือหยวนกลับล้มลงเสียนี่ กระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง ทำให้เขาจำต้องรีบกลับมาประคองหลินซือหยวนออกไป มิเช่นนั้นชีวิตน้อยๆ ของหลินซือหยวนคงรักษาไว้ไม่ได้แน่
ระหว่างทาง เซียวหยู่เซวียนหยิบยาเม็ดหนึ่งยื่นให้กู้ชูหน่วน “กินเสีย มันจะทำให้เจ้าไม่ถูกพลังแกร่งโจมตี”
กู้ชูหน่วนสูดดม อดร้องอุทานออกมาไม่ได้ “ยาระดับห้า ระดับห้าเชียวนะ เจ้าเอามาจากไหน? เสี่ยวเซวียนเซวียน เจ้าคงไม่ใช่นักหลอมยากระมัง?”
“สหายให้มา” เสี่ยวเซวียนเซวียนไม่ปรารถนาพูดมาก จึงตอบไปอย่างส่งๆ
เมื่อกู้ชูหน่วนกินยาลงไป กลิ่นอายที่ร่างกายถูกกดเอาไว้ก็ผ่อนคลายประมาณหนึ่ง
“เจ้ามียาดีขนาดนี้ ทำไมไม่ให้ข้าแต่แรกเล่า”
เซียวหยู่เซวียนยิ้มขม
นั่นคือยาระดับห้านะ
หากไม่จำเป็น ใครจะเอาออกมากิน
นางนึกว่าอมยิ้มหรือ
ด้วยการเดินทางอย่างต่อเนื่อง ยิ่งเดินไปข้างหน้า นักเรียนของวิทยาลัยอี้เหอก็ยิ่งบางตา
และถึงจะมี ก็เป็นแค่ซากศพนักเรียนที่ถูกพลังแกร่งกดทับจนอวัยวะแหลกลาญเท่านั้น
“โครม…”
มีเสียงการต่อสู้ปรากฏอยู่ด้านหน้า และยังมีเสียงคำรามของสัตว์อสูรด้วย
กู้ชูหน่วนเดินขึ้นเนินเขา ครั้นมองลงไปก็เห็นเสือดาวสองตัวกำลังล้อมโจมตีหยางโม่อยู่
หยางโม่ปราศจากผู้ช่วยอยู่ข้างกาย มีเขาเพียงลำพัง
ไม่ทราบเพราะถูกพลังแกร่งกดดันหรืออย่างไร เขาหายใจลำบาก เนื้อตัวถูกเสือดาวข่วนจนเป็นแผลมากมาย เลือดไหลลงตามทางเสื้อผ้า
เห็นชัดว่าเขาเสียเปรียบในการเผชิญหน้ากับเสือดาวสองตัว
“ซี้ด…”
แผ่นหลังถูกข่วนเป็นทางเลือดอีกแล้ว ขณะเดียวกันขาขวาก็ถูกกัดอย่างจังด้วย หยางโม่เจ็บจนสูดปาก
ผู้มีดวงตากระจ่างล้วนเห็นแจ้ง หากเป็นเช่นนี้ต่อไป หยางโม่ต้องถูกเสือดาวสองตัวขย้ำตายแน่
เซียวหยู่เซวียนแววตาเย็นเยือก คล้ายเห็นสภาพอนาถเบื้องหน้าเป็นปกติวิสัย
เพียงวิจารณ์อย่างเย็นชา “หยางโม่เพิ่งขึ้นระดับสอง แต่เสือดาวสองตัวนี้กลับเป็นระดับสองขั้นสูง เขาทานต่อไปได้อีกไม่นานหรอก”
กู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว
ระหว่างทางพวกเขาเจอการจู่โจมสังหารไม่น้อย เวลานี้ต้องเข้าไปหาของวิเศษในส่วนลึกอีก หากจะสู้กับเสือดาวระดับสองสองตัวนี้ เกรงว่าต้องสูญกำลังภายในอีกมาก
นางหมุนตัวจากไป แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ย้อนกลับมาอีก
เซียวหยู่เซวียนถาม “เจ้าอยากช่วยเขา?”
“เข้าก็ไม่ได้ขวางหูขวางตาขนาดนั้น”
“ฝีมือเจ้าก็รับมือกับเสือดาวสองตัวนั้นไม่ได้หรอก”
กู้ชูหน่วนเอ่ยประจบ “ข้ารับมือไม่ได้ก็ยังมีเจ้าอยู่ไม่ใช่หรือ?”
“เรื่องไม่เกี่ยวกับตัว อยู่ให้ห่างๆ เรื่องของคนอื่น ข้องแวะอะไรกับตัวเอง?”
“จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ถูก ดีชั่วหยางโม่ก็เป็นองค์ชาย ถึงอิทธิพลเขาจะไม่มาก แต่บางครั้งก็ยังพอใช้งานได้” กู้ชูหน่วนกะพริบดวงตาเจ้าเล่ห์
ท่าทางนี้
ท่าทีนี้
น้ำเสียงนี้…
เซียวหยู่เซวียนล้วนไม่อาจปฏิเสธ