อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1018 เวินเส้าหยี
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1018 เวินเส้าหยี
“เจ้าจะเอาอย่างไร?” กู้ชูหน่วนกัดฟันถาม
“อย่างไร? เฮอะ ตอนแรกเพราะเข้าภูเขาสัตว์วิเศษไม่ได้ แต่ตอนนี้ข้าก็เข้ามาแล้ว แล้วทำไมยังต้องใช้เจ้าอีก ตอนนี้เจ้าไม่มีค่าสักนิด”
“เช่นนั้นหรือ? วรยุทธ์เจ้าพอๆ กับเจ้าผีเสื้อกระมัง ถ้าเขาตามราวีเจ้าไม่หยุด เจ้ายังจะหาคันฉ่องหงส์กับขวานอะไรนั่นได้หรือ?”
ถ้อยคำนี้จุดชนวนทำให้เย่จิ่งหานโกรธอีกครั้ง
ครั้นเห็นเย่จิ่งหานจะบีบเจ้าเสือน้อยให้ตายทั้งอย่างนี้แล้ว
กู้ชูหน่วนจึงรีบเสียงอ่อนลง
“เจ้าบ้านทั้งหลายรีบมาเพื่อแย่งชิงของวิเศษอะไรกัน เป็นไปได้มากว่าจะเป็นของสองอย่างที่เจ้าว่า แต่ถึงจะไม่ใช่ ข้าก็ล่อให้พวกเขาตามหาคันฉ่องหงส์กับขวานผานกู่ก็ได้ จากนั้นก็แอบขโมยกลับมา เจ้าแค่รับมือกับเจ้าผีเสื้อของเจ้าก็พอ”
“เวินเส้าหยีไม่ใช่ของข้า”
“ใช่ๆๆ เขาหน้าเนื้อใจเสือ เป็นสุภาพบุรุษจอมปลอม จะเป็นของเจ้าได้อย่างไร”
เย่จิ่งหานนิ่ง
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ร้องซี่ๆๆ ดวงตาโตอันบริสุทธิ์เต็มไปด้วยการวิงวอน
บางทีอาจเห็นแก่เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ เย่จิ่งหานจึงยอมปล่อยเจ้าเสือน้อย
“นี่คือโอกาสสุดท้ายของเจ้า ถ้าเจ้าหาขวานผานกู่หรือคันฉ่องหงส์ไม่เจอ เจ้าคงรับผลที่ตามมาไม่ไหว”
เย่จิ่งหานเข็นรถเข็นจากไปอย่างโมโห
กู้ชูหน่วนโล่งอก แล้วรีบทำแผลให้เจ้าเสือน้อย
พอเห็นเจ้าเสือน้อยเลือดไหลโชก กู้ชูหน่วนก็ด่าทอสาปแช่งเย่จิ่งหานอีกพันหมื่นตลบ
“เป็นข้าที่ทำให้เจ้าเดือดร้อน”
“งาวๆๆ…”
เจ้าเสือน้อยอดทนต่อความเจ็บปวด แล้วยิ้มโง่งมกับนางทีหนึ่ง แต่กลับเห็นนางน้อยเนื้อต่ำใจกว่าเดิม
“เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ เจ้ารู้จักกับเย่จิ่งหานมาก่อนหรือ?”
“ซี่ๆ…รู้จัก แต่ไม่ถือว่าคุ้นเคย”
“ที่แท้วิญญาณในตัวข้าก็คือนายเก่าของเจ้าหรือ?”
“ซี่ๆ…นายหญิง ข้างนอกมียอดฝีมือเข้ามาใกล้แล้ว ฝีมืออย่างน้อยต้องมีระดับหก น่าจะเป็นเวินเส้าหยี”
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ไม่อยากตอบคำถามโดยตรง
จากนั้นจู่ๆ ก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายข้างนอก ใบหน้างูพลันตะลึง
กลิ่นอายนี้ ไม่ใช่แค่เป็นไปได้ แต่ต้องเป็นเวินเส้าหยีแน่นอน
มันไม่รู้ว่านายหญิงล่วงเกินอะไรเย่จิ่งหานกับเวินเส้าหยี
แต่การที่เวินเส้าหยีตามมาต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่
“นายหญิง ข้าจะไปล่อเวินเส้าหยีไปก่อน”
“เอ๊ะ เดี๋ยวๆ…”
กู้ชูหน่วนไม่ทันปฏิเสธ เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ก็เลื้อยออกไปแล้ว
เสือน้อยมองกู้ชูหน่วนอย่างฉงนสนเท่ห์ “ใครคือเวินเส้าหยี”
“เจ้าเสือน้อย เจ้าอยู่ในถ้ำกับเซียวหยู่เซวียนก่อน ข้าจะไปดูเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์สักหน่อย เวินเส้าหยีวรยุทธ์สูงส่ง ข้ากลัวว่าเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์จะเสียเปรียบ”
“งาวๆ…”
พอกู้ชูหน่วนขยับเท้า มือขวาก็พลันถูกฉุดไว้ นางหันไปมอง ผู้ที่ฉุดนางไว้ก็คือเซียวหยู่เซวียนนั่นเอง
“เมื่อ…เมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไร?”
“อะไร?”
เซียวหยู่เซวียนลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก สติยังมึนเบลอเล็กน้อย
แต่เขาฝังใจเข้ากระดูกกับเวินเส้าหยีสามคำนี้
“เวิน…เวินเส้าหยี…เจ้าพูดถึงเขาใช่ไหม?”
“เจ้ารู้จักด้วยหรือ?”
เซียวหยู่เซวียนพลันตื่น เขาขยับ แต่เจ็บจนสูดปาก
เรี่ยวแรงมือเขาหนักขึ้นอย่างไม่อยาก แม้แต่ลมหายใจก็หนักขึ้นด้วย จิตสังหารในดวงตายิ่งปกปิดไม่อยู่
“เวินเส้าหยีมาแล้วจริงๆ ใช่ไหม?”
กู้ชูหน่วนเขลาอย่างไรยังรู้ว่าเวินเส้าหยีมีความแค้นกับเขา
นางไม่อยากให้ส่งผลกระทบกับแผลของเขา ดังนั้นจึงเอ่ยเรียบ
“เปล่านี่ เจ้าฟังผิดแล้ว ที่พวกเราพูดกันคือเวินเส้าอวี่ต่างหาก นักเรียนคนหนึ่งของวิทยาลัยอี้เหอ”
“เช่นนั้นหรือ?”
แต่เขาได้ยินว่าเวินเส้าหยีนี่นา