อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1020 พบหน้า
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1020 พบหน้า
“ลุกยังลุกไม่ขึ้นเลย จะไปได้อย่างไร? ของวิเศษอย่างคันฉ่องหงส์ ใครๆ ก็ไม่ยอมพลาดทั้งนั้น เจ้าไปก็เท่ากับไปตายนะสิ อีกอย่างยังมียอดฝีมือระดับห้ารอให้เจ้าโผล่หน้าไปฆ่าตั้งเยอะ”
“แต่ข้าต้องเอาคันฉ่องหงส์มาให้ได้”
ต่อให้เขาไม่ได้ขวานผานกู่มา เขาก็ยอมรับแล้ว
อย่างมากเขาแค่กลับแผนดินผืนนั้นของพวกเขาไม่ได้ แต่ยัยขี้เหร่ต้องฟื้นคืนชีพ
เซียวหยู่เซวียนยืนกราน
กู้ชูหน่วนซัดเขาสลบจากทางด้านหลังเสียเลย
“ขอโทษด้วย ข้าทุ่มเทมากมายเพื่อช่วยเจ้า จะเห็นเจ้าไปตายไม่ได้เด็ดขาด คันฉ่องหงส์ที่เจ้าต้องการ ข้าจะไปชิงมันกลับมาให้เอง”
“งาวๆ นายหญิง ทำไมท่านถึงดีกับเขาขนาดนั้น” เจ้าเสือร้อยเอ่ยอย่างน่ารัก
ทำไมถึงดีกับเขาขนาดนั้น?
กู้ชูหน่วนพลันลูบหน้าอกตัวเอง
ทำไมถึงดีกับเขาขนาดนั้น? นางก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ในใจนางก็อยากดีกับเขาอย่างนี้นั่นแหละ
แล้วนางยังถึงกับรู้สึกผิดอย่างหนึ่งกับเซียวหยู่เซวียนด้วย เป็นความรู้สึกผิดที่มาจากวิญญาณส่วนลึก แต่หลังจากที่นางคิดหลายตลบ ก็ยังไม่รู้ว่าผิดต่อเขาตรงไหน
“คุ้มครองเขาให้ดี เดี๋ยวข้าก็กลับมา”
ไม่รอให้เจ้าเสือน้อยตอบ
กู้ชูหน่วนก็ออกไปพร้อมกับบาดแผลอีกครั้ง
นางมุ่งตรงไปยังจุดที่มีแสงส่องออกมา
นั่นเป็นทางเข้าทางหนึ่งส่วนลึกของโบราณสถาน
ตรงทางเข้าถูกปราการไร้รูปผนึกอยู่
ตระกูลใหญ่สำนักทั้งหลายและสัตว์อสูรนานาชนิดกำลังประชันหน้ากัน แบ่งเป็นสองฝั่ง
ต่างฝ่ายต่างบาดเจ็บล้มตาย สามารถทราบได้ว่าพวกเขาเพิ่งผ่านศึกใหญ่มาหมาดๆ
การปรากฏตัวของกู้ชูหน่วนทำให้คนทั้งสองฝ่ายต่างมองนาง
ผู้เฒ่าหนิงทั้งตกใจทั้งดีใจ “นังหนู ทำไมเจ้าบาดเจ็บหนักอย่างนั้นล่ะ? ใคร ใครทำร้ายเจ้า บอกปู่หนิงมา ปู่หนิงจะจัดการให้เจ้าเอง”
“ถูกหมาบ้าสองสามตัวกัดเท่านั้นเอง วางใจเถอะ ตัวร้ายมีพิษร้าย หมาบ้าพวกนั้นกัดข้าแล้วก็ไม่ดีไปกว่ากันหรอก”
กู้ชูหน่วนหึเย็นเสียงหนึ่ง นัยน์ตาเย็นชากวาดมองทางตระกูลไป๋หลี่อย่างเปิดเผย
ขอเพียงเป็นผู้มีมันสมองย่อมทราบว่าตระกูลไป๋หลี่นั่นแหละที่เป็นผู้ลงมือ
ไป๋หลี่เจิ้นเอ่ยด้วยโทสะ “เจ้ามองพวกเราทำไม หรือว่าตระกูลไป๋หลี่ของพวกเราจะฆ่านังเด็กอย่างเจ้าหรือ?”
“น่าขัน ดวงตาอยู่บนตัวข้า ข้าจะมองไปทางไหนยังต้องผ่านความเห็นชอบจากพวกเจ้าหรือ? อีกอย่าง พวกเจ้าลงมือกับข้าหรือไม่ พวกเจ้าน่าจะรู้อยู่แก่ใจมากที่สุดไม่ใช่หรือ?”
“นังตัวดี ข้าว่าเจ้าไม่อยากอยู่ต่อแล้ว”
“ไป๋หลี่เจิ้น ต่อหน้าคนมากมายเจ้ายังกล้าโอหังเพียงนี้ ลับหลังไม่รู้ว่ายังใช้แผนการอีกเท่าไร ตาเฒ่าไป๋หลี่ เจ้าอบรมลูกน้องอย่างนี้หรือ?”
เจ้าบ้านไป๋หลี่ขึงตามองไป๋หลี่เจิ้นด้วยสายตาแหลมคม ไป๋หลี่เจิ้นจึงเก็บอารมณ์ แล้วถอยไปอีกทางหนึ่งด้วยความคับแค้น
ไป๋หลี่หมิงหลานชายเขาออกไปตั้งนานแล้วยังไม่มีข่าวคราวมา ไม่รู้เป็นอย่างไรกันแน่
ช่างน่าเป็นห่วงนัก
เจ้าบ้านไป๋หลี่เอ่ย “เรื่องนี้ข้าจะสืบให้ชัด ถ้าพวกเราตระกูลไป๋หลี่ทำอะไรแม่นางมู่จริง ข้าจะไม่ไว้มันแน่”
กู้ชูหน่วนเพียงหัวเราะเย็นเสียงหนึ่ง แม้แต่จะมองเจ้าบ้านไป๋หลี่หน้าตรงก็ยังขี้เกียจ เมินเฉยไม่แยแส
ดีชั่วก็เป็นเจ้าบ้านคนหนึ่ง แต่กลับถูกเพิกเฉยอย่างนี้ ไม่เพียงแต่เขาที่ขายหน้า หน้าตาตระกูลไป๋หลี่ก็ขายไปจนหมดสิ้น
แทบทุกคนที่กำลังรอดูเรื่องขำขัน
พวกไป๋หลี่เจิ้นจะบันดาลโทสะ แต่ถูกเจ้าบ้านไป๋หลี่ยั้งไว้
กู้ชูหน่วนราวกับได้เห็นใบหน้าสีแดงก่ำของพวกเขา และเห็นกระทิงไฟเก้าเขาที่หลบอยู่ข้างๆ ฝั่งตรงข้าม
“เจ้ากระทิงโง่น้อย พวกเราเจอกันอีกแล้วนะ”
กระทิงไฟเก้าเขายิ้มแห้ง “ใช่ เจอกันอีกแล้ว”