อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1021 อธิบายอะไร
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1021 อธิบายอะไร
สัตว์อสูรระดับสูงทั้งหมดต่างมองไปที่กระทิงไฟเก้าเขา
ดีชั่วก็เป็นสัตว์อสูรระดับสูงตัวหนึ่ง ทำไมถึงให้มนุษย์เรียกว่าเจ้ากระทิงโง่น้อยได้?
หรือว่ามันถูกมนุษย์คนนั้นทำพันธสัญญาด้วยแล้ว?
แต่ดูแล้วก็ไม่เหมือนว่าจะเป็นอย่างนั้นนี่…
“เจ้าหดอยู่ข้างหลังทำอะไร เห็นลูกพี่มาแล้วยังไม่ทักทาย ต้อนรับดีๆ อีก ”
ซี้ด…
มนุษย์และสัตว์อสูรทั้งหลายต่างมองไปทางกู้ชูหน่วน จากนั้นก็มองไปทางกระทิงไฟเก้าเขาอีก ดวงตาเปี่ยมด้วยความเหลือเชื่อ
ลูกพี่?
พวกเขาไม่ได้ฟังผิดไปกระมัง?
กระทิงไฟเก้าเขาเริ่มทำอะไรไม่ถูก
เขาเอ่ยเสียงกระซิบ “ลูกพี่ของข้า ท่านลดเสียงลงหน่อยได้หรือไม่?”
“ทำไมต้องลดเสียง? หรือว่าข้าทำเจ้าขายหน้าหรือ?”
พูดเป็นเล่น…
ก็ต้องขายหน้าอยู่แล้ว…
พวกพ้องเยอะแยะกำลังมองอยู่นะ ต่อไปเขาจะเป็นราชากระทิงไฟได้อย่างไร?
ตระกูลใหญ่ทั้งสี่ต่างมีนักฝึกสัตว์ พวกเขาแปลภาษาให้ฟัง ดังนั้นจึงฟังเข้าใจ ทุกผู้ทุกนางพากันมองกู้ชูหน่วนด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ
โดยเฉพาะสี่เจ้าบ้านตระกูลใหญ่
พวกเขามีฝีมือสูงส่ง มีหรือจะดูไม่ออกว่าวรยุทธ์กู้ชูหน่วนอยู่แค่ระดับสอง
ก่อนหน้านี้ชีพจรยุทธ์นางเพิ่งจะอยู่ในระดับหนึ่ง เพิ่งจะกี่วันก็ระดับสองแล้ว?
เป็นเพราะนางปกปิดพลังที่แท้จริง หรือเพราะพัฒนาฝีมือพรวดพราดกันแน่
หากเป็นอย่างหลัง เช่นนั้นนางก็คือยอดอัจฉริยบุคคลในร้อยพันปีที่อยู่เหนือผู้คน
ที่สำคัญที่สุดคือ นางยังฟังภาษาสัตว์ออกด้วย…แล้วยังทำให้ราชากระทิงไฟเก้าเขารับนางเป็นนายอีก
ใบหน้าหล่อเหลาของซ่างกวนหมิงหลางมีความฉงนและความต้องการสืบรู้นิดๆ
ผู้หญิงคนนี้ราวกับมีบางอย่างต่างจากเมื่อก่อนหน้านี้
“ราชากระทิงไฟ เจ้าคงไม่รับนางมนุษย์ผู้นี้เป็นลูกพี่จริงกระมัง? เสือดาวตัวหนึ่งถาม”
“เออ…คือ…คือว่า…เออ…”
“เอออาอะไร ลูกพี่คุ้มหัวเจ้า เจ้ากระทิงโง่น้อยไม่ต้องห่วงว่าจะถูกคนอื่นรังแก”
กู้ชูหน่วนคล้องหัวของราชากระทิงไฟอย่างไม่เกรงใจ ท่าทางอย่างกับเป็นสหายสนิท
ราชากระทิงไฟอยากเตะนางกระเด็น
แต่ครั้นนึกถึงพยัคฆ์ขาวกับงูมรกตแล้วมันก็อดกลั้น ปล่อยให้นางกอดตนราวกับกอดแกะน้อยตัวหนึ่ง
“ราชากระทิงไฟ การถูกเรียกเป็นราชาเหมือนอย่างเจ้า เป็นความอัปยศของข้า”
“การเรียกพี่เรียกน้องกับเจ้า เป็นความอัปยศของข้าเหมือนกัน”
“ขายหน้าพวกเราสัตว์อสูรเหลือเกินแล้ว ต่อให้รับนาย ดีชั่วก็น่าจะหาที่ฝีมือสูงหน่อย แต่เจ้ากลับแค่หามนุษย์ผู้หญิงระดับสองมาเป็นลูกพี่ ถูกลาเตะสมองเพี้ยนไปแล้วหรือ?”
“เจ้าจะด่าก็ด่า เกี่ยวอะไรกับลาอย่างพวกเราด้วย? อยู่พวกเดียวกับเจ้า นับเป็นความอัปยศของลาอย่างพวกเรามากกว่า”
ราชากระทิงไฟพลันร้อนรน หน้าแดงอธิบาย
“นางไม่เหมือนมนุษย์คนอื่น ไม่เพียงแต่ข้า พยัคฆ์ขาวโบราณกับราชางูเก้าหัวมรกตก็แย่งกันจะรับนางเป็นนายด้วย แถมนางยังไม่ไยดี จนตอนนี้ก็ยังไม่ทำพันธสัญญากับราชางูเก้าหัวมรกตเลย”
ราชากระทิงไฟเงียบยังแล้วไป แต่พอพูดออกมาสัตว์อสูรทั้งหลายก็ดูแคลนหนักกว่าเดิม
“ล้อเล่นอะไร พยัคฆ์ขาวโบราณ? สายเลือดของพยัคฆ์ขาวโบราณสูญหายไปนานแล้วไม่ใช่หรือ? จะเอาพยัคฆ์ขาวโบราณที่ไหนมาอีก?”
“ราชางูเก้าหัวมรกตก็ด้วย นั่นไม่ใช่แค่ราชันแห่งหมู่มวลอสรพิษนะ ยังเป็นราชันแห่งพวกเราสัตว์อสูรด้วย หายสาบสูญไปตั้งแต่ร้อยพันปีก่อนแล้ว ราชากระทิงไฟ เจ้าจะหาข้ออ้างก็น่าจะหาที่มันดีหน่อยเถอะ ข้ออ้างแย่อย่างนี้พวกเราดูเบาเจ้า”
“นั่นสิ ตัวเองตกต่ำแล้วยังกล้าหาข้าอ้างเยอะแยะปานนี้ พวกเรา ต่อไปราชากระทิงไฟจะไม่ใช่สหายของพวกเราอีก พวกเราไม่มีสหายไร้ปณิธานเช่นนี้”
ราชากระทิงไฟไม่อาจอธิบายได้ชัดเจน
ได้แต่มองกู้ชูหน่วนด้วยสายตาวิงวอน
“ท่านก็ช่วยข้าอธิบายหน่อยสิ?”
กู้ชูหน่วนลูบจมูก “อธิบายอะไร? พวกมันพูดถูกนี่ เจ้าไร้ปณิธานจริงๆ ไม่มีคุณธรรมด้วย มีของดีไม่นึกถึงลูกพี่ แต่กลับแอบมาเอาเองอยู่นี่อีก เพ้ยๆๆ ต้องแก้นิสัยแย่ๆ อย่างนี้แล้ว”