อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1025 โอกาสสุดท้าย
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1025 โอกาสสุดท้าย
ก็ขณะที่เย่จิ่งหานกำลังจะเอาชีวิตกู้ชูหน่วน จู่ๆ ด้านนอกก็มีดวงแสงหนึ่งเจิดจ้าขึ้นมา
ดวงแสงนี้ปรากฏเป็นรูปร่างขวาน ยาวถึงขอบฟ้า ปกคลุมโบราณสถานยุคดึกดำบรรพ์ถึงกึ่งหนึ่ง
“ขวานผานกู่” เวินเส้าหยีมองไปทางขวานแล้วร้องตกใจ
เย่จิ่งหานชะงัก หันไปมองที่ไกลๆ พร้อมกับกู้ชูหน่วน
ครั้นปรากฏขวานผานกู่ หมื่นอสูรก็สั่นพั่บๆ สิ่งมีชีวิตทั้งปวงต่างยอมสยบ
แม้แต่ตระกูลใหญ่ทั้งหลายก็ถูกกดจนลงไปคุกเข่าอย่างอดไม่อยู่ด้วย
นี่ก็คือขวานผานกู่?
อานุภาพทรงพลังขนาดนี้ เพิ่งปรากฏขึ้นก็สะเทือนไปทั่ว
เวินเส้าหยีกวาดตามองเย่จิ่งหานกับกู้ชูหน่วน แม้เขาอยากสังหารพวกเขา แต่เมื่อขวานผานกู่ปรากฏขึ้น ก็มีเวลาเอาเพียงหนึ่งก้านธูปเท่านั้น หากพลาดต้องรออีกหลายร้อยปีหรืออาจจะถึงพันปีก็ได้
มนุษย์ปุถุชนชาติหนึ่งก็เพียงไม่กี่สิบปี ไหนเลยจะรอนานขนาดนั้นได้
หากไม่มีขวานผานกู่ เขาก็จะกลับแคว้นเย่ไม่ได้ แก้แค้นไม่ได้ และไม่อาจก่อตั้งเผ่าเทียนเฟิ่นขึ้นมาใหม่ได้เหมือนกัน
เย่จิ่งหานบาดเจ็บสาหัส ผู้หญิงคนนั้นก็มีฝีมืออ่อนด้อย หากเทียบกันแล้ว เวินเส้าหยีเลือกขวานผานกู่ สละเย่จิ่งหานกับกู้ชูหน่วน
เวินเส้าหยีปลงได้ แต่เย่จิ่งหานปลงไม่ได้
สำหรับเขา ผู้หญิงคนนี้ทำคันฉ่องหงส์แตก เท่ากับความหวังที่อาหน่วนจะฟื้นคืนชีพก็ถูกทำลายไปด้วย เขาจะปล่อยไปได้อย่างไร
จิตสังหารเย่จิ่งหานยังคงเดิมถือไฟอสนีบาตไปทางกู้ชูหน่วน
กู้ชูหน่วนพลันเปลี่ยนสีหน้า กระบวนนี้แข็งแกร่งเกินไป นางไม่สามารถทัดทานได้ ตกเป็นเป้า นางได้แต่หลับตา รอความตายมาถึง
“พลั่ก”
ความเจ็บปวดยังไม่ทันมา แต่กลับมีเสียงล้มลงแรงๆ กับเสียงกระอักเลือด
เมื่อนางลืมตาขึ้น กลับเห็นเซียวหยู่เซวียนรับฝ่ามือนั้นแทนนาง
เดิมทีเขาก็บาดเจ็บสาหัสปางตายอยู่แล้ว บัดนี้ยังรับฝ่ามือถึงชีวิตอีก ร่างทั้งร่างโงนเงน
“เซียวหยู่เซวียน!” กู้ชูหน่วนรีบเข้าไปพยุง คลำชีพจรของเขา สีหน้าแย่
เย่จิ่งหานก็คิดไม่ถึงว่าเซียวหยู่เซวียนจะรับฝ่ามือนี้แทนนาง
“อั๊ก” เซียวหยู่เซวียนกระอักเลือดอีกหน
ใบหน้าเขาซีดเซียว เสียงแหบแห้งรวยริน “เจ้าจะฆ่านางไม่ได้”
“นางทำคันฉ่องหงส์แตก”
เมื่อได้ยินดังนั้น พอเซียวหยู่เซวียนมองคันฉ่องหงส์ที่อยู่บนพื้น สีหน้าก็แย่มากขึ้น มุมปากขยับแล้วขยับอีก ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร
แค่ขมวดคิ้วมุ่น ดูออกว่าเขากำลังคิดหนัก
“หลีกไป” เย่จิ่งหานตวาด
เซียวหยู่เซวียนฝืนยันตัวขึ้น บังอยู่หน้ากู้ชูหน่วน
“จะฆ่านาง ต้องฆ่าข้าก่อน”
“นางทำคันฉ่องหงส์แตกแล้ว”
เย่จิ่งหานนึกว่าเขายังฟังไม่ชัด ย้ำอีกครั้ง
“ข้ารู้ ข้าก็บอกแล้ว จะฆ่านาง นอกเสียจากจะเหยียบศพข้าไป”
เขารู้ดีว่าเย่จิ่งหานเป็นคนเช่นไร ขอเพียงเกี่ยวกับยัยขี้เหร่ ไม่ว่าอะไรเขาก็ทำได้ทั้งนั้น
แต่หากวันนี้เขาไม่ปกป้องนาง นางต้องตายแน่
เย่จิ่งหานฝีเท้าซวนเซ อย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าเซียวหยู่เซวียนจะละทิ้งกู้ชูหน่วนเพื่อนาง
เซียวหยู่เซวียนมองเย่จิ่งหานด้วยสายตาแน่วแน่ ดูไม่เหมือนกำลังล้อเล่นกับเขาสักนิด
อาหน่วนผิดต่อเซียวหยู่เซวียน และเห็นเซียวหยู่เซวียนเป็นพี่น้องแท้ๆ ด้วย ถ้าเขาฆ่าเซียวหยู่เซวียน อาหน่วนต้องไม่อภัยเขาแน่
“เจ้ารู้ว่าตัวเองกำลังพูดอะไรไหม?” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาปกป้องนาง
“ข้ารู้”
“เห็นแก่นาง นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ข้าจะไว้หน้าเจ้า วันนี้ข้าจะไม่ฆ่านาง แต่หากให้ข้าได้เห็นอีก ข้าจะไม่ไว้แน่”
ครั้นสิ้นเสียง เบื้องหน้าก็ไม่เห็นเงาเย่จิ่งหานอีก
เซียวหยู่เซวียนทนไม่ไหวอีกต่อไป ล้มลงกับพื้นทันที มองกู้ชูหน่วนด้วยสายตาอันซับซ้อน