อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1037 แหวน
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1037 แหวน
กลับกันกับกู้ชูหน่วน ที่ถูกพลังของเขาบีบคั้นจนหายใจไม่ออกเล็กน้อย แผลบนร่างกายปริแตกอีกครั้ง เลือดสีแดงสดไหลซึมออกมา ย้อมให้เสื้อของนางเป็นสีแดง
“ข้าเจ็บจะตายอยู่แล้ว นี่เป็นการแย่งชิงสมบัติหรือแย่งชีวิต”
“ถอดแหวนออก”
กู้ชูหน่วนรีบซ่อนมือขวาไว้ด้านหลัง ปกป้องแหวนมิติไว้ กัดฟันทนต่อความเจ็บปวดแล้วกล่าว “เจ้าชอบแหวนชนิดนี้ ข้าจะมอบที่ดียิ่งกว่านี้ให้เจ้า แต่แหวนนี่ ข้าให้เจ้าไม่ได้”
“ถอดแหวนออก”
ดวงตาอันดุร้ายของเวินเส้าหยีเพ่งมองไปที่มือของนางที่ซ่อนอยู่ข้างหลัง สั่งซ้ำอีกครั้งอย่างไร้ความปรานี
“ทำไมเจ้าจะต้องเอาแหวนวงนี้ไปให้ได้? หรือว่าเจ้ารู้จักเจ้าของเดิมของแหวน ทั้งยังมีความสัมพันธ์เก่าก่อนกับเจ้าของแหวนวงนี้ด้วยงั้นหรือ?”
“ปัง……”
ไม่รู้ว่าเพราะกู้ชูหน่วนเดาเรื่องจริงถูกหรือไม่ ทันทีที่เวินเส้าหยีโบกมือ ก็เหวี่ยงกู้ชูหน่วนออกไปโดยตรง
แรงที่เหวี่ยงไปนั้นทรงพลังมาก มือของกู้ชูหน่วนชนถูกกำแพง ข้อหลุดไปตรงนั้นทันที
นางกัดฟันแน่น กึกเสียงหนึ่ง ต่อข้อมือที่หลุดออกของตัวเองใหม่อีกครั้ง ปากก็กล่าวอย่างเฉยเมยพร้อมด้วยรอยยิ้มว่า “เหมือนว่าคนรักเก่าของเจ้าจะไม่ชอบเจ้า ไม่เช่นนั้นทำไมแหวนมิตินี่ถึงได้ไม่มีความรู้สึกกับเจ้าแม้แต่น้อย”
“กึก…..”
คอถูกคนบีบไว้ กู้ชูหน่วนดิ้นรนสองสามครั้งแต่ก็ไม่สามารถดิ้นหลุดไปได้ จึงละทิ้งการดิ้นรนไปซะ ปล่อยให้เวินเส้าหยีบีบไว้แน่นเช่นนั้น
เขาคือขั้นสูงสุดระดับหก หากคิดจะฆ่านาง แม้ว่านางจะพยายามใช้วิธีการทุกอย่าง ก็ทำอะไรเขาไม่ได้
“เจ้าพูดมาก”
ดวงตาสีดำขลับของเวินเส้าหยีเย็นยะเยือกลงไปเรื่อยๆ กระทั่งปรากฏเป็นความกระหายเลือดออกมา ดูออกว่า กำลังใกล้จะถึงจุดเดือดดาลแล้ว
กู้ชูหน่วนหายใจหอบแล้วกล่าวว่า “ฆ่าข้าแล้ว เจ้าก็เปิดแหวนมิติไม่ได้ และก็เป็นไปไม่ได้ที่แหวนมิติจะรับเจ้าเป็นเจ้าของ”
“ฆ่าเจ้าแล้ว ข้าก็สามารถเปิดแหวนมิติได้เหมือนเดิม เอาแหวนมิติออกมาไม่ได้ ข้าก็จะเฉือนนิ้วเจ้าซะ”
แรงสังหารอบอวลขึ้นในห้องลับอย่างฉับพลัน กู้ชูหน่วนสั่นสะท้านด้วยความเย็นยะเยือก
ผู้ชายเบื้องหน้าที่ดูสุภาพอ่อนโยน งดงามดั่งเซียนที่ไร้ราคิน เมื่อแรงสังหารขึ้นมา ยังน่ากลัวซะยิ่งกว่าวิญญาณชั่วร้ายในนรกซะอีก
เจ้าของแหวนมีความแค้นอันใหญ่หลวงอะไรกับเขากันแน่ ถึงทำให้เขาเปลี่ยนไปได้มากมายขนาดนี้
อากาศเริ่มบางเบาลงเรื่อยๆ หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่ต้องให้เขาลงมือ นางก็ตายอยู่เบื้องหน้าของเขาแล้ว
กู้ชูหน่วนกล่าวด้วยความจำนน “เลือดไหลโชกทำให้เจ้าสะอิดสะเอียนไม่ใช่หรือ? เจ้า….เจ้าปล่อยข้าก่อน ข้าถอดแหวนออกมาก็ได้”
เวินเส้าหยีจ้องนางนิ่งๆอยู่ครู่หนึ่ง เห็นนางฝืนทนต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ มือที่กำไว้แน่นจึงได้คลายลงทีละนิ้ว
เมื่อได้รับอิสระ กู้ชูหน่วนก็สูดอากาศบริสุทธิ์อย่างบ้าคลั่ง และไอไม่หยุด ผ่านไปนานกว่าจะหยุดลง
ชายที่งดงามดั่งเทพเซียนเบื้องหน้านี้ มองดูนางจากหัวจรดเท้าอย่างเย็นชา
กู้ชูหน่วนปัดเสื้อผ้า ยืนขึ้นมาสบตากับเขา ถอดแหวนของตัวเองออกพลาง เหล่มองเวินเส้าหยีด้วยดวงตาดำขลับไปพลาง
ฉวยโอกาสขณะที่เวินเส้าหยีจดจ่ออยู่กับแหวนมิติของนาง กู้ชูหน่วนสาดผงยาพิษออกมา คิดจะวางยาพิษให้เวินเส้าหยีสลบ
จะรู้ได้อย่างไรว่าเวินเส้าหยีทำท่าทางอะไร คิดไม่ถึงว่าจะแย่งกวาดผงยาพิษกลับมาก่อนก้าวหนึ่ง โดยส่วนใหญ่นั้นก็เทมาบนตัวของกู้ชูหน่วน
หากว่าไม่ใช่เพราะยาพิษทุกอย่างทำอะไรนางไม่ได้ กลัวว่าก็คงจะโดนผงยาพิษของตัวเองจนล้มไปแล้ว
กู้ชูหน่วนรู้สึกหวาดกลัวในใจทันที
ผงยาพิษยังไม่ได้ออกจากมือของนาง เขารู้ได้อย่างไรว่านางจะทำอะไร?
ในไม่ช้า มือทั้งสองของเวินเส้าหยีก็ประกบเป็นท่าทาง หมอกสีขาวเป็นชั้นๆก็ลอยเป็นเกลียวขึ้นรอบๆตัว
กู้ชูหน่วนรู้สึกเพียงแค่ทั้งร่างกายถูกสะกดให้นิ่งแล้ว
อุณหภูมิบนมือก็สูงขึ้นเรื่อยๆ เกือบจะทำให้มือของนางถูกเผาจนเป็นถ่านทั้งเป็นแล้ว
แหวนในมือของนางทนความร้อนไม่ไหว คิดไม่ถึงว่าจะเปิดออกเอง โดยที่ไม่มีคำสั่งของนาง
หลังจากที่แหวนเปิดออก ยา สมุนไพรปรุงยา เงินทองสมบัติต่างๆที่อยู่ด้านในก็ออกมาอย่างต่อเนื่อง ปรากฏออกมาต่อหน้าของนางทีละอย่างๆ