อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1056 หายนะ
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1056 หายนะ
น่ากลัว
น่ากลัวเกินไปแล้ว
ไป๋หลี่เจิ้นเป็นถึงระดับสี่ วิชาชั่วร้ายชนิดนี้ก็ทำได้เพียงปล่อยให้นางฆ่าแกงเท่านั้น
หากว่าเป็นพวกเขา ก็คงไม่ใช่……
แววตาที่ทุกคนมองไปทางกู้ชูหน่วนมีความหวาดกลัวเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้
ทุกคนล้วนคิดว่าวันนี้ผู้ชนะอันดับหนึ่งในงานประชุมมอบรางวัลใหญ่จะเป็นกู้ชูหน่วน ไม่ยกเว้นคนตระกูลมู่
คนตระกูลมู่มาร่วมงานด้วยความภาคภูมิใจแทบจะทุกคน เตรียมพร้อมจะดูว่ามู่หน่วนจะมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วยังไง
แต่ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็คิดไม่ถึงว่า เรื่องราวจะเปลี่ยนไปจนกลายเป็นเช่นนี้
ตอนแรกมู่ซินไม่เชื่อ เขานั่งบนรถเข็น กล่าวด้วยความร้อนใจ “ท่านพ่อ อาหน่วนทำเรื่องเช่นนี้ออกมาไม่ได้เด็ดขาด”
เจ้าบ้านมู่สีหน้าเคร่งเครียด
เขาก็ไม่เชื่อ…….
แต่ความจริงก็อยู่ตรงหน้า……
หากว่ามู่หน่วนมีวิทยายุทธ์ชั่วร้ายประเภทนั้นจริง งานประชุมมอบรางวัลใหญ่วันนี้เกรงว่าคงจะเปลี่ยนเป็นงานชุมนุมประณามแล้ว?
ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีผู้ใดหวังจะให้วิทยายุทธอันชั่วร้ายเช่นนี้ดำรงอยู่ในโลก
นี่เป็นภัยคุกคามอันใหญ่หลวงสำหรับพวกเขา
เจ้าบ้านรองเจ้าบ้านสามกล่าวว่า “ท่านพ่อ แม้ว่าอาหน่วนจะมีนิสัยเปลี่ยนไปมากหลังจากที่ฟื้นจากความตาย แต่นางเป็นคนอย่างไร พวกเราล้วนกระจ่าง นางจะใช้วิชาชั่วร้ายฆ่าคนมั่วซั่วได้อย่างไร? ไม่งั้นพวกเราเข้าไปช่วยล้างมลทินให้นางสักหน่อยเถอะ?”
“ล้างมลทินอะไร ดูไปก่อน พวกเรารู้กระจ่างลักษณะนิสัยของนาง ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะรู้ลักษณะนิสัยของนางอย่างกระจ่าง”
หนิงเทียนโย่วเอ่ยถามกู้ชูหน่วนด้วยเสียงสั่นเทา “อาหน่วน ที่พวกเขาพูดเป็นความจริงหรือ? เป็นเจ้า……ฆ่าไป๋หลี่เจิ้นจริงๆหรือ?”
กู้ชูหน่วนเงยหน้ามองไป นางเห็นความเป็นห่วงของคนตระกูลมู่
เห็นความกังวลใจของผู้เฒ่าหนิง หนิงเทียนโย่ว หลินซือหย่วน
เห็นเจ้าบ้านเวินยังคงยิ้มบางๆ และสายตาก็ไม่ไหวติง
เห็นความแค้นเคืองของตระกูลไป๋หลี่
เห็นความหวาดกลัวและความไม่น่าเชื่อของทุกคน
นางรู้
แม้ว่านางจะไม่เชื่อ ตระกูลไป๋หลี่ก็ยังสามารถเอาหลักฐานออกมาพิสูจน์ได้อีกมากมาย
และ……
วิชาอภินิหารกลับสู่สภาพเดิมอะไรนี่ก็แข็งกล้าจริงๆ
คิดไม่ถึงว่าจะสามารถฟื้นสภาพเหตุการณ์ที่เกิดทุกฉากได้
ไม่รอให้กู้ชูหน่วนพูด ไป๋หลี่เฉิงก็กล่าวว่า “เป็นความจริงแน่นอน วิชาอภินิหารกลับสู่สภาพเดิมของเจ้าบ้านเราจะปลอมได้อีกหรือ?”
ผู้เฒ่าหนิงขยิบตาให้กู้ชูหน่วน “นังหนูหน่วน เจ้าไม่ต้องกลัว ข้าจะช่วยสนับสนุนเจ้า เจ้าเพียงแค่พูดว่าเจ้าไม่ได้ทำ ตระกูลหนิงของพวกเราจะไม่ปล่อยให้ใครหน้าไหนมาใส่ร้ายเจ้าเด็ดขาด”
คำพูดนี้ของผู้เฒ่าหนิง เป็นการเปิดเผยต่อกู้ชูหน่วนโดยไม่ต้องสงสัย
เพียงแค่นางพูดคำเดียว ตระกูลหนิงจะช่วยจัดการเรื่องนี้อย่างยุติธรรมให้นางเอง
ตรงกลางงานเสียงของเจ้าบ้านรองและเจ้าบ้านสามก็ดังขึ้นด้วยความรีบร้อนเช่นกัน
“ใช่ อาหน่วน เจ้ารีบบอกพวกเขาไป เจ้าไม่ได้ฆ่าคน และไม่ได้มีวิชาชั่วร้ายเหล่านั้นด้วย”
ในใจของกู้ชูหน่วนเข้าใจดี
เกรงว่าเรื่องวันนี้คงจะไม่ดีแล้ว
ไม่มีกองกำลังหรือตระกูลใดปรารถนาที่จะให้มีคนที่มีวิชาชั่วร้ายสามารถดูดวิทยายุทธของผู้คนอยู่ได้
ตระกูลไป๋หลี่ก็ยิ่งจะไม่ปล่อยนางไปง่ายๆ
เป็นดังคาด……
มีบางพรรคอาศัยให้ตระกูลไป๋หลี่เป็นผู้นำในการหาเรื่องติติง
“หากนางไม่รู้จักวิชาชั่วร้ายเหล่านั้น แล้วจะมีนิสัยเปลี่ยนไปมากอย่างกะทันหันได้อย่างไร แล้วจากชีพจรยุทธ์ขั้นหนึ่งตัวเล็กๆจะทะยานขึ้นไปสู่ระดับสามเต็มๆอย่างฉับพลันได้อย่างไร นั่นเป็นถึงระดับสามเชียวนะ เทียบได้กับการดำรงอยู่ของซ่างกวนหมิงหลางเลยทีเดียว”
“จากที่ข้ามอง วิทยายุทธของนางสามารถพุ่งทะยานได้อย่างยอดเยี่ยมขนาดนั้น ส่วนใหญ่ก็อาศัยการดูดวิทยายุทธและพลังลมปราณเลือดเนื้อถึงพัฒนาขึ้นได้ นางก็คือปีศาจร้าย ทุกคนจะต้องระวัง อย่าได้ถูกนางดูดวิทยายุทธไปเชียวนะ”
คำพูดนี้ดีปลุกทุกคนให้ตื่นขึ้น
ทุกคนล้วนพากันออกห่างจากนาง เพราะกลัวว่านางจะลงมือ
กู้ชูหน่วนผายมือออก หัวเราะอย่างขมขื่นทีหนึ่ง “พวกเจ้าเตรียมหลักฐานมาอย่างเพียบพร้อมขนาดนั้น ข้าพูดอะไร พวกเจ้าจะเชื่อหรือ?”
“เป็นเจ้าจริงๆ วิทยายุทธทั้งตัวของเจ้าอาศัยวิชาชั่วร้ายพุ่งทะยานขึ้นไปจริงๆ พูดมา เจ้าเป็นใครกันแน่? ทำไมถึงได้รู้จักวิชาชั่วร้ายเหล่านี้?”
“ยังมีอีก ทั้งๆที่ตอนนั้นเจ้าตายไปแล้ว ทำไมถึงฟื้นคืนชีพขึ้นมา และนิสัยเปลี่ยนไปมากเช่นนั้นได้? เจ้าเป็นปีศาจอะไรกันแน่?”
พวกที่ซุบซิบนินทาว่าร้ายกู้ชูหน่วน ล้วนเป็นพรรคเล็กๆไม่กี่พรรคนั้น
ไป๋หลี่เฉิงกล่าว “ไม่ว่านางจะเป็นใคร วันนี้…..พวกเราตระกูลไป๋หลี่สาบานว่าจะสังหารนาง ช่วยชำระแค้นแทนไป๋หลี่หมิง และไป๋หลี่เจิ้นที่ตายไป และช่วยทวีปปิงหลิงกำจัดหายนะ พวกเจ้ามีใครคิดจะช่วยนางหรือไม่?”