อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1057 ประณาม
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1057 ประณาม
ทั้งงานนิ่งเงียบ
ช่วยนาง เท่ากับล่วงเกินตระกูลไป๋หลี่
พวกเขาล่วงเกินตระกูลไป๋หลี่ไม่ไหว
ไม่ช่วยนาง คนหน่วยก้านดีเช่นนี้ผู้หนึ่งก็ถูกทำลายไปเช่นนี้แล้ว ช่างน่าเสียดายเกินไปแล้ว
บรรดาผู้คนลังเลเล็กน้อย
ไม่มีใครกล้าพูดแทนนาง
มีเพียงผู้เฒ่าหนิงที่มองไปทางเจ้าบ้านไป๋หลี่ช้าๆ ลูบเคราขาวโพลนหรี่ตาลงแล้วกล่าว
“เจ้าบ้านไป๋หลี่ เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นสะใภ้ตระกูลหนิงของพวกเรา พวกท่านฆ่านางแล้ว หลานชายข้าจะไปหาภรรยาจากที่ไหน?”
สีหน้าเจ้าบ้านไป๋หลี่นิ่งสงบ ตอบกลับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “เจ้าบ้านหนิงฟังความหมายของท่าน วันนี้จะช่วยนางเป็นแน่แล้วใช่หรือไม่?”
“เหลวไหล ข้าไม่ช่วยหลานสะใภ้ของตัวเอง จะให้ข้าช่วยท่านหรือไง?”
ซื้ด…….
ทุกคนคิดไม่ถึง สองตระกูลใหญ่ในสี่ตระกูลใหญ่จะฉีกหน้ากันเช่นนี้แล้ว?
ตระกูลหนิงเสื่อมถอยลงแล้ว
พวกเขายังจะกล้าขัดขาตระกูลไป๋หลี่อย่างจริงจังอีก
จิตใจของกู้ชูหน่วนรู้สึกอบอุ่นทันที ชำเลืองมองผู้เฒ่าหนิงด้วยความเคารพที่มากขึ้นอีกเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้
เจ้าบ้านไป๋หลี่ถูกคนตอบโต้ต่อหน้าฝูงชนเช่นนี้ ไม่ได้โกรธเคือง กลับเป็นไป๋หลี่เฉิง ไป๋หลี่หยุนเยว่และคนอื่นที่โกรธเคืองมาก
ไป๋หลี่เฉิงกล่าว “นางมีวิชาชั่วร้าย? เจ้าบ้านหนิงไม่กลัวว่านางจะใช้วิชาชั่วร้ายดูดจนท่านสิ้นชีพรึ”
“ไปไกลๆไปอยู่กับแม่ของเจ้าซะ เจ้าบ้านของเจ้ายังไม่ได้พูดจา เจ้าเป็นเพียงผู้อาวุโสจิ๊บจ๊อยเหมือนดั่งแมลงวันเช่นนั้นจ้อกแจ้กจอแจ น่ารำคาญหรือไม่?”
“ท่าน……”
“ท่านอะไรท่าน ข้าสนทนากับไป๋หลี่ป้า มีที่ให้เจ้าพูดแทรกได้งั้นหรือ?”
ไป๋หลี่เฉิงออกอาการฉุนเฉียวตรงนั้นทันที ไป๋หลี่หยุนเยว่ดึงเขาไว้ บอกใบ้ไม่ให้เขาวู่วาม
“เจ้าบ้านหนิง มู่หน่วนฟื้นคืนชีพจากความตาย ตัวตนน่าสงสัย และยังมีวิชาชั่วร้ายอีก แม้จะไม่ได้ทำเพื่อไป๋หลี่หมิงและไป๋หลี่เจิ้น แต่เพื่อทุกคนในทวีปปิงหลิง ข้าก็จำเป็นต้องกำจัดนาง หากวันนี้ท่านต้องการจะปกป้องนางให้ได้ เช่นนั้นก็ทำได้เพียงแค่ล่วงเกินท่านแล้ว”
หนิงเทียนโย่วและผู้เฒ่าหนิงยืนอยู่ด้วยกัน ไม่ได้กลัวว่าจะล่วงเกินคนทั่วหล้าแม้สักนิด กล่าวด้วยเสียงกังวานว่า “วิชาชั่วร้ายอะไร? วิชาอภินิหารกลับสู่สภาพเดิมเมื่อครู่นี้พวกเจ้ายังดูไม่เข้าใจอีกหรือ? เป็นไป๋หลี่เจิ้นที่ต้องการจะเอาชีวิตของนางก่อน หากว่านางไม่ตอบโต้ ก็คงตายในเงื้อมมือของไป๋หลี่เจิ้นไปนานแล้ว?”
“อีกอย่า หลังจากที่มู่หน่วนดูดวิทยายุทธของไป๋หลี่เจิ้นไปแล้ว ตัวนางเองก็แสดงสายตาที่ไม่น่าเชื่อออกมาเช่นกัน? ในวิชาอภินิหารกลับสู่สภาพเดิมของพวกเจ้า สีหน้าท่าทางของนางเป็นเรื่องโกหกงั้นหรือ?”
ผู้เฒ่าหนิงตบหน้าขาทันที
หลานชายคนนี้ของเขา ปากไวเกินไปแล้ว
เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไม่ใช่ว่ายอมรับว่านางมีวิชาชั่วร้ายไปตรงๆแล้วหรือ?
เป็นดังคาด ไป๋หลี่ป้าหัวเราะด้วยเสียงทุ้มต่ำ “พูดเช่นนี้ พวกท่านก็ยอมรับว่านางมีวิชาชั่วร้ายแล้วเหมือนกันสินะ?”
“ข้า……ข้า……”
ไป๋หลี่ป้ากวาดตามองทุกคนในงานแล้วเอ่ยขึ้นอย่างน่าเกรงขาม “ทวีปปิงหลิงไม่อนุญาตให้มีวิชาชั่วร้ายปรากฏขึ้นในโลก วันนี้หากว่าผู้ใดช่วยนาง ผู้นั้นก็คือพวกเดียวกับนาง พวกเราตระกูลไป๋หลี่ทำได้เพียงธำรงคุณธรรมแทนสวรรค์แล้ว”
ไป๋หลี่ป้าพูดจบ ก็เอาสายตาแห่งการเตือนไปไว้บนตัวของผู้เฒ่าหนิง ประกายไฟบนร่างของทั้งสองดังเปรี้ยงปร้างขึ้น
เมื่อคำพูดนี้โพล่งออกมา ทุกคนที่อยู่เบื้องล่างต่างพากันแปรเปลี่ยนไปเป็นประณามกู้ชูหน่วน
พวกเขาล้วนเป็นคนฉลาดเฉียบแหลม ล้วนเข้าใจดีว่าเมื่อไม่ได้กู้ชูหน่วนมา เช่นนี้วิชาชั่วร้ายของนางก็เป็นภัยคุกคามอันใหญ่หลวงอย่างหนึ่ง ทำได้เพียงกำจัดหายนะที่จะตามมาในภายหลังด้วยความรวดเร็วเท่านั้น
แต่คนที่ได้นางไป จะนับเป็นเรื่องง่ายๆได้อย่างไรกัน
ในเมื่อไม่ได้มา ก็ทำลายซะยังจะดีกว่า
ตระกูลหนิงมีเพียงผู้เฒ่าเหนิงรวมถึงผู้อาวุโสสี่ท่านที่มีศักยภาพถึงระดับสี่
แต่ตระกูลไป๋หลี่นั้น มีผู้อาวุโส สุดยอดผู้อาวุโสและคนอื่นๆนับสิบกว่าคนที่เป็นระดับสี่ขึ้นไป
หากว่าต้องเลือก พวกเขาก็ยังคงต้องยืนอยู่ทางตระกูลไป๋หลี่ทางนี้
พรรคไห่เทียนยืนขึ้นมาคนแรก “เจ้าบ้านไป๋หลี่พูดถูก ทวีปปิงหลิงไม่ยอมอนุญาตให้วิชาชั่วร้ายดำรงอยู่ ผู้หญิงคนนี้จะต้องเป็นปีศาจอย่างแน่นอน”
“ฆ่านางซะ ฆ่านางซะ ฆ่านางซะ…….”
คนที่เอาอกเอาใจกู้ชูหน่วนในก่อนหน้านี้ต่างพากันปรามปรามให้สังหาร
มีเพียงเจ้าบ้านรอง เจ้าบ้านสามของตระกูลมู่ที่ลุกขึ้นมาพูดแทนนาง
“อาหน่วนไม่ใช่ปีศาจ ในนั้นจะต้องมีการเข้าใจผิดเป็นแน่”