อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1058 ช่วยเหลือ
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1058 ช่วยเหลือ
“พวกเจ้าตระกูลมู่ตั้งใจแน่วแน่ว่าต้องการจะช่วยนางแล้วใช่หรือไม่?” เจ้าบ้านไป๋หลี่กล่าวข่มขู่
กู้ชูหน่วนคิดว่า เมื่อไตร่ตรองอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วตระกูลมู่จะไม่ช่วยเหลือนาง เจ้าบ้านรองและเจ้าบ้านสามก็ยิ่งจะไม่ช่วยนางเข้าไปใหญ่
คิดไม่ถึง……
ไม่เพียงเจ้าบ้านมู่ที่ยืนอยู่ข้างนางตรงนั้น เจ้าบ้านรองเจ้าบ้านสามก็ยืนอยู่ข้างนางตรงนั้นเป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ด้วย
เจ้าบ้านรองกล่าว “แม้ว่านิสัยของอาหน่วนจะไม่มีเหตุผลไปหน่อย แต่จิตใจของนางไม่ได้เลวร้าย ไม่สามารถจะเป็นปีศาจได้เด็ดขาด”
ประมุขพรรคไห่เทียนกล่าว “นางเป็นคนตระกูลมู่ของพวกท่าน เป็นธรรมดาที่พวกท่านจะต้องพูดโน้มไปทางนาง จากที่ดู ไม่เพียงแค่นาง บางทีคนทั้งตระกูลมู่อาจจะเป็นปีศาจกันหมดก็เป็นได้”
เจ้าบ้านสามลุกขึ้นด้วยเดือดดาลเป็นอย่างมาก “เจ้าสิเป็นปีศาจ ทั้งบ้านของเจ้าล้วนเป็นปีศาจ”
“เจ้าบ้านไป๋หลี่ ท่านเห็นแล้วสินะ แค่ตระกูลมู่ตัวเล็กๆทำไมถึงได้กล้าบุ่มบ่ามได้เช่นนี้ พวกเขาเอาความมั่นใจมาจากไหน ข้าขอร้องให้ตรวจสอบตระกูลมู่ให้ถึงที่สุด”
“ตรวจสอบให้ถึงที่สุดอะไรกัน ยอมที่จะฆ่าผิดเป็นพัน ก็ไม่สามารถปล่อยไปได้สักคนเดียว ฆ่าไปโดยตรงก็ได้แล้ว”
“ฆ่าพวกเขาซะ ฆ่าพวกเขาซะ……..”
เสียงของทั้งงานเหมือนดั่งระฆังอันใหญ่
ตระกูลมู่และคนอื่นๆร้อนใจ ต่างพากันมองไปทางเจ้าบ้านมู่
ท่านพ่อ ตอนนี้จะทำอย่างไร?
“พวกเจ้าไม่ได้กลัวมาตลอดว่านางจะทำให้พวกเจ้ามีผลกระทบหรือ? ทำไมตอนนี้ถึงได้กล้าพูดจาแทนนางล่ะ?”
“พวกเรากลัวว่านางจะทำให้พวกเรามีผลกระทบไปด้วยจริงๆ แต่ว่า……ก่อนหน้านี้นางไม่มีอันตรายถึงชีวิต ครั้งนี้หากว่าพวกเราไม่ช่วยนาง นางจะถูกฆ่า”
“หากว่าพวกเจ้าช่วยนางในวันนี้ จวนมู่ก็จะกลายเป็นเป้าที่ทุกคนจะโจมตี”
“เช่นนั้นจะทำอย่างไร? พวกเราจะไม่ช่วยนางเช่นนั้นหรือ?”
มู่ซินกล่าวด้วยความร้อนใจ “ท่านพ่อ จะทอดทิ้งอาหน่วนไม่ได้นะขอรับ แม้ว่าอาหน่วนจะควบคุมสัตว์อสูรไม่ได้ นางก็เป็นหลานสาวแท้ๆของท่านนะขอรับ”
เจ้าบ้านมู่ขมวดคิ้ว
เขาจะไม่อยากปกป้องนางได้อย่างไร
เพียงแต่ปกป้องนางแล้ว ก็อาจจะปกป้องทั้งตระกูลมู่ไว้ไม่ได้
เขาเป็นเจ้าบ้านมู่จะเสี่ยงด้วยเหตุนี้ไม่ได้เด็ดขาด
กู้ชูหน่วนเห็นการกระทำทั้งหมดของพวกเขาในสายตา
นางสามารถเข้าใจเจ้าบ้านมู่ได้ ไม่ว่าอย่างไรก็มีชีวิตคนมากมายของตระกูลมู่อยู่ในมือของเขา
กู้ชูหน่วนยืนขึ้นมาอย่างเปิดเผย กล่าวด้วยเสียงอันดังก้องไปทางเจ้าบ้านไป๋หลี่ “คนที่พวกเจ้าอยากสังหารก็คือข้า ไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลหนิงและตระกูลมู่ บัญชีของพวกเรา พวกเรามาคิดกันเองเถอะ”
หนิงเทียนโย่วยืนอยู่กับนาง เดินอยู่เคียงข้างกัน ไม่กลัวการถูกประณามจากทั่วทั้งโลกหล้าเช่นกัน กล่าวด้วยเสียงอันดังก้องอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ว่า “มู่หน่วนเป็นเพื่อนของข้า เรื่องของนางก็คือเรื่องของข้า วันนี้ทุกการกระทำของข้าไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลหนิง เป็นเพียงการกระทำของแต่ผู้เดียวเท่านั้น”
“ทั้งทวีปปิงหลิงล้วนคิดจะเอาชีวิตของข้า เจ้าไม่กลัวตายรึไง”
“มีอะไรน่ากลัวกัน ใครใช้ให้ข้าโชคร้ายเป็นเพื่อนกับเจ้าล่ะ”
กู้ชูหน่วนยิ้มทันที รู้สึกอบอุ่นในใจอย่างบอกไม่ถูก
หลินซือหย่วนคิดอยู่นาน สุดท้ายก็ลุกยืนออกมาแล้ว เดินไปเคียงบ่าเคียงไหล่กับกู้ชูหน่วน
เขายิ้มแล้วกล่าว “ยังไงซะพวกข้าสองคนก็บริสุทธิ์ไม่ด่างพร้อย ไม่มีอะไรให้เป็นห่วง วันนี้จะร่วมเป็นร่วมตายกับเจ้า”
หยางโม่ขมวดคิ้ว ในใจกำลังย้อนแย้งกัน
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินซือหย่วนและหนิงเทียนโย่ว เขาก็กำหมัดแน่นอย่างอดไม่ได้ และคิดจะลุกขึ้นมา
หยางม่านดึงเขาไว้
“ท่านเสียสติไปแล้ว ท่านดูไม่ออกหรือว่าตระกูลไป๋หลี่และกลุ่มอำนาจใหญ่แต่ละกลุ่มของทวีปปิงหลิงล้วนคิดจะกำจัดนาง เพื่อเลี่ยงไม่ให้วิชาชั่วร้ายเป็นหายนะต่อโลก”
“นางไม่ใช่คนเช่นนั้น และก็เป็นไป๋หลี่เจิ้นที่ลงมือก่อน”
“พวกเขาจะสนใจว่าผู้ใดลงมือก่อนงั้นหรือ? พวกเขารู้แค่ว่ามู่หน่วนมีวิชาชั่วร้าย และไม่ได้เอื้อประโยชน์ต่อพวกเขาเท่านั้น”
หยางโม่จะไม่เข้าใจปัญหานี้ได้อย่างไร เพียงแต่……
กลางงาน ผู้เฒ่าหนิงลูบเคราหัวเราะเสียงดังแล้วกล่าว “หลานชายที่ดี มีความกล้าหาญ ปู่จะบอกเจ้า การตัดสินใจของเจ้าก็คือการตัดสินใจของตระกูลหนิง ก็แค่เป็นศัตรูกับคนทั้งโลกไม่ใช่หรือ มีอะไรให้กลัวกัน ตระกูลหนิงของพวกข้าจะสู้ด้วยให้ถึงที่สุด”
กู้ชูหน่วนจะบอกว่าไม่ซาบซึ้งก็ปลอม
เพียงแต่……
นางไม่อยากทำให้คนมากมายขนาดนั้นเดือดร้อน