อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1074 จนปัญญาจะช่วยเหลือ
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1074 จนปัญญาจะช่วยเหลือ
“ปึง……”
ทันทีที่เซียวหยู่เซวียนไม่ระวัง ขาขวาก็ถูกตีด้วยท่อนเหล็กอย่างแรง ความแรงของพลังนั้น สามารถได้ยินกระทั่งเสียงกระดูกหักได้ เขายืนไม่มั่นคง กู้ชูหน่วนที่อยู่บนหลังก็ถูกเหวี่ยงออกไป
เห็นไม้มากมายตีไปที่กู้ชูหน่วน
เซียวหยู่เซวียนตะโกนออกมาด้วยความตกใจ “ยัยอัปลักษณ์”
จากนั้น เขาพุ่งโจมตีเข้าไปอย่างสุดแรง ใช้ร่างกายของตัวเองขวางกั้นท่อนเหล็กตีที่มาทางกู้ชูหน่วนไว้
“ฟู่ว……”
ท่อนเหล็กทั้งหมดตกลงบนร่างกายของเซียวหยู่เซวียน
หัวใจของกู้ชูหน่วนเจ็บปวดจนเลือดหยดริน
เมื่อท่อนเหล็กเหล่านั้นตกลงไป เลือดของเซียวหยู่เซวียนก็พ่นลงบนใบหน้าของนาง
นางยังได้ยินเสียงกระดูกแตกอีกด้วย
รวมทั้ง….เสียงหายใจที่พ่นออกมายาวๆของเซียวหยู่เซวียน
เมื่อคนเหล่านี้เห็นว่าจะโจมตีชนะแล้ว ก็ยิ่งออกแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
กู้ชูหน่วนไม่มีความสามารถที่จะต่อสู้ได้โดยสมบูรณ์
เซียวหยู่เซวียนก็ไม่สามารถจะต่อสู้ได้อีก แต่เขายังคงพยายามฝืนทนไว้ตลอด
แม้ว่าจะพุ่งออกไปไม่ได้ ก็ยังคงใช้ร่างกายของตัวเองรับมีดแทนกู้ชูหน่วนอย่างต่อเนื่อง
เขาเจ็บปวดมาก
เจ็บปวดจนแทบจะชาไปหมดแล้ว มีเพียงความคิดเดียวเท่านั้น นั่นก็คือการยืนหยัดต่อไป
ยืนหยัดรอจนกว่าเย่จิ่งหานจะรีบตามมาถึง
เขาเชื่อว่าเย่จิ่งหานจะไม่ยอมปล่อยผู้หญิงคนนี้ไปโดยไม่สนใจ
“เซียวหยู่เซวียน เจ้ารีบไปซะ อย่าสนใจข้า”
กู้ชูหน่วนพยายามดิ้นขึ้นมา แต่นางได้รับบาดเจ็บหนักเกินไป ลุกไม่ได้โดยสิ้นเชิง ทำได้เพียงมองดูเซียวหยู่เซวียนช่วยนางโดยทำอะไรไม่ได้ รับมีดซ้ำแล้วซ้ำเล่า”
เป็นเช่นนี้ต่อไป เขาจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
แม้ว่าจะมีวิชาการรักษาสูง ก็ไม่สามารถรักษาเขาให้หายได้
ลูกศิษย์ของพรรคบางพรรคที่อยู่ข้างๆทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว
ไม่ต้องพูดถึงว่าชายผู้นี้เป็นปีศาจหรือไม่ พูดถึงแค่มิตรภาพของเขากับกู้ชูหน่วนนี้ ก็ไม่เรื่องที่คนทั่วไปจะเทียบได้
“ฟู่ว……”
ค้อนเหล็กอันหนึ่งผ่านไป ทุบจนเซียวหยู่เซวียนลุกไม่ขึ้นอีก
อาจเป็นเพราะลมหายใจของพวกเขาทั้งสองอ่อนลงเล็กน้อย ใกล้จะตายแล้ว หรืออาจเป็นเพราะถูกเซียวหยู่เซวียนทำให้ซาบซึ้ง หรืออาจเป็นเพราะดอกบัวศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสี ทุกพรรคต่างหยุดลงแล้ว และล้อมรอบพวกเขาทั้งสองไว้
“เสี่ยวเซวียนเซวียน”
กู้ชูหน่วนพยายามสุดแรง คลานไปข้างกายของเซียวหยู่เซวียน กุมมืออันสั่นเทาของเขาไว้ น้ำตาร้อนผ่าวไหลออกมาจากในตา
เซียวหยู่เซวียนหายใจหอบไม่หยุด ชำเลืองมองคนมากมาย ยิ้มเจื่อนๆและกล่าวว่า “ขอโทษ ยังไงข้าก็…..ไม่สามารถปกป้องเจ้าได้”
“คนโง่ ตายคนเดียวยังไงก็ดีกว่าตายไปทั้งคู่”
“ข้ามีชีวิตอยู่ เดิมทีก็เหมือนศพที่เดินได้ เพราะการปรากฏตัวของเจ้า ข้าถึงได้มีแสงสว่าง”
กู้ชูหน่วนจับมือเซียวหยู่เซวียนไว้แน่น
ราวกับว่าเพียงแค่ปล่อย เซียวหยู่เซวียนก็จะจากนางไปโดยสมบูรณ์เช่นนั้น
“พวกเราจะไม่ตาย”
กู้ชูหน่วนสูดหายใจเข้าลึกๆ กล่าวอย่างอ่อนแอว่า “พวกเจ้าอยากได้ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสีไม่ใช่หรือ? ปล่อยเขา ข้าจะบอกเบาะแสของดอกบัวศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสีกับพวกเจ้า”
“ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสีไม่ได้ถูกเซียวหยู่เซวียนกินไปแล้วหรือ?”
“ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์เป็นของล้ำค่าขนาดนั้น แม้ว่าเซียวหยู่เซวียนจะกิน ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะกินไปทั้งหมด ข้ายังเก็บบางส่วนเอาไว้”
“พวกข้าจะเอาอะไรมาเชื่อเจ้า?”
“ไม่เชื่อก็ช่างเถอะ หากว่าข้าตาย พวกเจ้าก็เลิกคิดที่จะได้ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์ไปซะ”
ทุกคนต่างมองหน้ากัน ไม่รู้ว่าจะฆ่าพวกเขาดีหรือไม่
ความโกรธแค้นของพวกเขาได้ผูกขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แล้ว
หากปล่อยนางไปวันนี้ นางไม่มาล้างแค้นก็แปลกแล้ว
ไป๋หลี่เฉิงกล่าว “ไม่จำเป็น ตระกูลไป๋หลี่ของพวกเรามีวิชาลับประจำตระกูลสามารถดึงความทรงจำทั้งหมดออกมาจากสมองของเจ้าได้”
วิชาลับอันนี้ของตระกูลไป๋หลี่ ซ่างกวนชิงก็รู้
ภายใต้วิชาลับนี้ ทุกความลับล้วนไม่สามารถปิดซ่อนไว้ได้
คนที่ถูกใช้วิชา ที่หนักหน่อยก็จะตาย ที่เบาหน่อยก็จะกลายเป็นคนโง่ไร้ประโยชน์
กู้ชูหน่วนยิ้มอย่างดูถูกเหยียดหยาม กวาดตาไปทางเจ้าสำนักต่างๆ “บางทีตระกูลไป๋หลี่อาจจะมีวิชาลับนี้ แต่พวกเราคิดว่า หลังจากที่พวกเขาใช้วิชานี้แล้ว จะบอกสถานที่ซ่อนดอกบัวศักดิ์สิทธิ์กับพวกเจ้างั้นหรือ?”