อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1096 หอกระบี่
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1096 หอกระบี่
“ผนึกวิทยายุทธของพวกเราฝีมือแปลกประหลาดอย่างยิ่ง เจ้าปลดได้หรือ?”
“ไม่มั่นใจ แต่ขอลองก่อน ยังไงก็ต้องมีวิธี”
“รบกวนด้วย”
กู้ชูหน่วนตรวจดูชีพจรของฝูกวง พร้อมทั้งตรวจดูตำแหน่งจุดฝังเข็มให้กับพวกเขา แล้วก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
ผนึกจุดฝังเข็มได้อย่างแปลกประหลาดจริงๆ ดูเหมือนปกติ แต่พวกเขากลับไม่มีเรี่ยวแรง โดยเฉพาะกระดูกที่อ่อนแรง อ่อนจนเพียงแค่บิดก็หัก
“พวกเราก็ลองมาหลายวิธีก็ไม่ได้ผล ทุกครั้งที่ลองทั้งร่างกายราวกับถูกสับละเอียด เจ็บปวดอย่างตายทั้งเป็น แม้แต่หัวใจยังรู้สึกแสบร้อน”
“รู้สึกแสบร้อน?”
“ใช่ เหมือนถูกไฟแผดเผา”
กู้ชูหน่วนตรวจดูให้กับเขาอีกครั้ง ลองกดสามจุดเฉวียน จุดจวี้เชวี่ย
“ซี๊ด…..”
ฝูกวงเจ็บปวดจนเหงื่อแตก
“คนที่ผนึกวิทยายุทธของพวกเจ้า ความสามารถน่าจะอยู่ระดับห้า พวกเขาไม่เพียงผนึกจุดฝังเข็มของพวกเจ้า ยังเลี้ยงพิษกู่ไว้ในตัวพวกเจ้า ภายในใจที่แสบร้อนเพราะหนอนกู่กำเริบ พวกเจ้ายิ่งดิ้นรนรุนแรง หนอนกู่ก็ยิ่งกระฉับกระเฉง จึงทำให้ยิ่งเจ็บปวด”
“ไม่กำจัดหนอนกู่ วิทยายุทธของพวกเจ้าก็ไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิม ข้าใช้วิธีฝังเข็มสะกดจิตหนอนกู่ก่อน แล้วค่อยๆปลดผนึกจุดฝังเข็มทั้งหก”
“สะกดจิตหนอนกู่ก็พอแล้วหรือ? ต้องหาคนวางพิษกู่ไหม”
“ดูไม่ออกว่าเจ้าอายุยังน้อย” รู้จักวิชาพิษกู่ว่าหรือ?
“พวกเราไม่รู้ แต่นายของพวกเรารู้ เมื่อก่อนเคยได้ยินนางพูด”
วิชาพิษกู่เห็นได้น้อย มีเพียงในหนานเจียง แต่ว่านาง อายุน้อยขนาดนี้ก็รู้จักด้วย
เห็นกู้ชูหน่วนล้วงเอาแหวนออกมาหนึ่งวง เปิดแหวนมิติ หยิบชุดฝังเข็มออกมา
ฝูกวงเลว่อิ่งหายใจถี่ ฝูกวงคว้าจับมือกู้ชูหน่วนไว้อย่างตื่นเต้น จ้องมองดูแหวนมิติ
“เจ้าเอาแหวนวงนี้มาจากไหน? รีบบอกมา”
เลว่อิ่งถึงจะไม่พูดอะไร แต่ก็ขวางทางนางไว้ สายตาที่เยือกเย็นนั้น ราวกับหากนางไม่พูด เขาพร้อมจะลงมือตลอด
กู้ชูหน่วนหัวเราะ
หัวเราะอย่างเยาะเย้ย
“โลกแคบจริงๆ เจอสองคนที่รู้จักแหวนวงนี้อีกแล้ว พวกเจ้าอย่าบอกข้าว่า เจ้าของแหวนวงนี้ เป็นของนายพวกเจ้ามั้ง?”
“แม่นาง แหวนวงนี้ได้มาจากไหนหรือ?”
“เอามาจากไหนสำคัญด้วยหรือ? ข้าบอกว่าแย่งมา ขโมยมา แล้วพวกเจ้าบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ จะทำอะไรข้าได้?”
“หากเจ้าไม่พูด ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตของพวกเรา ก็จะ…..”
“ก็จะอะไร? ตายไปพร้อมกับข้าหรือ?”
กู้ชูหน่วนหยิบเข็มเงินเล่มเล็กๆ ออกมาจากในชุดอย่างไม่สนใจ
“หมอหลวงที่พวกเขาเชิญมาใกล้จะถึงแล้ว อยากกลับมามีวิทยายุทธแล้วไปจากที่นี่ ก็นั่งนิ่งๆ ส่วนแหวนวงนี้ ข้าก็แค่ได้มาจากการประมูล”
ฝูกวงเลว่อิ่งมองตากัน
ดูท่าทีของนางไม่เหมือนพูดโกหก
ฝูกวงนั่งลง จ้องมองดูนางอย่างระแวดระวัง ให้นางฝังเข็มไปด้วย พร้อมถามไปด้วยว่า
“แหวนวงนี้ปรากฏอยู่ในงานประมูลได้อย่างไร?”
“เจ้าถามข้า ข้าจะรู้ได้อย่างไร”
“แม่นาง แหวนวงนี้ ขายให้พวกเราได้ไหม?”
“ไม่ได้”
เพราะแหวนวงนี้ นางเกือบจะถูกเวินเส้าหยีฆ่าตาย แล้วจะขายให้พวกเขาได้อย่างไร
ตอนนี้นางเพียงอยากที่จะฝังเข็มให้พวกเขาเสร็จโดยเร็ว แล้วก็ไปสืบดูว่าคนที่ถูกกักขังไว้คนนั้นใช่เซียวหยู่เซวียนหรือไม่
เมื่อกู้ชูหน่วนแทงเข็มลงไป เจ็บปวดจนใบหน้าหล่อเหลาของฝูกวงย่นคดเป็นวงกลม เจ็บปวดจนเขาแทบจะขาดใจ
“ทรมานหน่อย อดทนไว้ ใช่ ในเมื่อพวกเจ้ารู้จักแหวนวงนี้ งั้นพวกเจ้ารู้ไหมว่าขลุ่ยกับขนมดอกไม้ที่ถูกผนึกอยู่ในนี้เป็นของใคร?”
“เป็นของนายของข้า”
“นายของเจ้าเป็นผู้ชาย?”
“ผู้หญิง”
ผู้หญิงหรือ?
ภาพที่นางมองเห็น เป็นผู้ชายสวมชุดสีเขียว อ่อนโยนสง่างาม
“แม่นาง เมื่อกี้เจ้าพูดว่า ยังมีคนรู้จักแหวนวงนี้? ไม่รู้ว่าใครที่รู้จักแหวนวงนี้ด้วย?” ที่นี่เป็นทวีปปิงหลิง คนที่รู้จักแหวนวงนี้ ยังไงก็ต้องเป็นคนรู้จัก
“ตั้งจิตสงบสติ พูดจาน้อยหน่อย”
กู้ชูหน่วนแทงลงไปทีละเข็ม เคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติเหมือนกับกำลังเล่นหมากรุก เลว่อิ่งมองดูอย่างอดไม่ได้ที่จะเป็นกังวล
ผ่านไปสักพัก กู้ชูหน่วนค่อยดึงเข็มทั้งหมดออกมา
ฝูกวงลูบตรงหัวใจตนเอง หันไปมองกู้ชูหน่วน พร้อมพูดขึ้นว่า “ดูเหมือนจะไม่เจ็บขนาดนั้นแล้ว ร่างกายก็ค่อนข้างมีแรงขึ้น”
“เวลามีค่า นั่งลงสิ” กู้ชูหน่วนหันไปมองเลว่อิ่ง
เลว่อิ่งหันหน้าไป ไม่รู้ว่าไม่อยากให้ใครแตะต้องตัวเขา หรือไม่ยินยอมให้กู้ชูหน่วนรักษา
ฝูกวงดึงแขนเสื้อของเขา พูดโน้มน้าวอยู่หลายครั้ง เลว่อิ่งยังคงไม่สะทกสะท้าน
เสียงฝีเท้าด้านนอกยิ่งอยู่ก็ยิ่งใกล้เข้ามา
กู้ชูหน่วนรีบรวบเก็บเข็ม พร้อมพูดขึ้นว่า “พวกเขาใกล้จะมาถึงแล้ว รอข้าหาแม่หนอนกู่เจอแล้วค่อยมาแก้ให้พวกเจ้านะ”
“เจ้ามีเงื่อนไขอะไร?” ฝูกวงรีบถาม
ผู้คนมากมาย คิดจะตามหาคนวางพิษกู่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องง่าย
คนที่กักขังพวกเขายังเป็นจักรพรรดินีในตอนนี้
คนแปลกหน้าคนหนึ่ง ไม่มีทางที่จะช่วยเหลือพวกเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข
บอกว่าทำความร่วมมือกัน หาวิธีหนีออกไปจากวังด้วยกัน ล้วนเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ
นางหนีออกไปคนเดียว ยังไงก็ง่ายและก็รวดเร็วกว่าพาพวกเขาสองคนไปด้วย
กู้ชูหน่วนอมยิ้ม สายตาฉายแววอ่อนโยน
“เงื่อนไข? ทำไมข้าถึงคิดไม่ถึง…..หากข้าช่วยพวกเจ้าแล้ว พวกเจ้าก็คอยเป็นองครักษ์ให้ข้าหนึ่งปี คอยปกป้องดูแลความปลอดภัยของข้า?”
เห็นสีหน้าอึ้งของฝูกวงเลว่อิ่ง ในใจกู้ชูหน่วนรู้สึกหวั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก
นางไม่รู้ว่าทำไม ภายในความทรงจำลึกๆ รู้สึกสนิทเป็นมิตรกับสองคนนี้มาก
จนสามารถ….
นางสามารถปล่อยเรื่องตามหานักฆ่าที่ฆ่าล้างตระกูลมู่ไว้ แล้วช่วยพวกเขาออกไปก่อน
หมอหลวงกับขันทีน้อยสองคน ในที่สุดก็มาถึงแล้ว
ฝูกวงเลว่อิ่ง คนหนึ่งนอนอยู่บนเตียงอย่างกับจะเป็นจะตาย คนหนึ่งห้อยอยู่ข้างโต๊ะ กู้ชูหน่วนยืนอยู่ด้านข้างอย่างนอบน้อม
“หมอหลวงหวู จักรพรรดินีมีคำสั่ง พันแผลให้คุณชายทั้งสอง อย่าให้พวกเขาเสียชีวิตเด็ดขาด”
“รู้แล้ว พวกเจ้าไปตักน้ำมาเยอะหน่อย”
“ได้”
ขันทีน้อยโบกมือ ให้กู้ชูหน่วนไปช่วยตักน้ำ
กู้ชูหน่วนเงยหน้าขึ้น ส่งสายตาให้กับฝูกวงเลว่อิ่ง บ่งบอกให้พวกเขามีชีวิตอยู่ต่อไปให้ดี รอฟังข่าวของนาง ส่วนตัวเองก็ฉวยโอกาสนี้ไปแล้ว
หอกระบี่ห่างจากตำหนักจักรพรรดินีไม่ไกล
คนที่สามารถได้อาศัยอยู่ที่นี่ ล้วนเป็นคนที่จักรพรรดินีรักใคร่ที่สุด
คิดอยากที่จะเข้าไปในหอกระบี่นั้นยากมาก
กู้ชูหน่วนสำรวจอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรวู่วาม เพราะภายในภายนอกหอกระบี่ ไม่เพียงมีทหารเฝ้าอยู่อย่างนั้นแน่น
ในที่ลับยังมีลมหายใจของยอดฝีมืออยู่หลายคน
หากไม่ใช่เพราะนางฉลาดประสาทรับรู้ไว เฝ้าอยู่ที่นี่หลายวัน ก็คงไม่รู้
ลมหายใจของยอดฝีมือพวกนั้น อย่างน้อยก็อยู่ขั้นระดับห้า
ระดับห้า….
ฝีมือที่มีกำลังขนาดนี้ ก็มีเพียงประมุขของสี่ตระกูลใหญ่ ตลอดจนพวกสุดยอดผู้อาวุโสก็สามารถไปถึงได้
เพียงหอกระบี่แห่งหนึ่งของในวัง
ก็มีผู้แข็งแกร่งระดับห้าหลายคนแอบเฝ้าอยู่
นางยิ่งมั่นใจว่า คนที่อยู่ข้างในจะต้องเป็นเซียวหยู่เซวียนอย่างไม่ต้องสงสัยแน่
เพียงแต่รูปลักษณ์อย่างเซียวหยู่เซวียน ก็สามารถทำให้จักรพรรดินีสั่งคนเฝ้าอย่างแน่นหนาขนาดนี้
แววตาอำมหิตของจักรพรรดินีนั้น ยังคงทำให้นางค่อนข้างกังวลใจ
จึงเฝ้าดูอยู่อีกสองวัน
คนในหอกระบี่ตกอยู่ในภาวะวิกฤต
คนในโรงหมอหลวงไม่รู้จะทำอย่างไร มีหมอหลวงไม่น้อยที่ถูกประหาร
คนในวังต่างตื่นตระหนก
จักรพรรดินีป่าวประกาศตามหาหมอ
หมอชาวบ้านไม่น้อยต่างพากันเข้าวัง
กู้ชูหน่วนหาโอกาส ตีหมอคนหนึ่งสลบ แล้วแปลงโฉมเป็นเขาเข้าไปในหอกระบี่
บทที่ 1095 ทำความร่วมมือ