อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1100 ตายแล้ว
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1100 ตายแล้ว
เย่จิ่งหานรู้สึกค่อนข้างหดหู่
หากวันนั้นไม่ได้บอกตระกูลไป๋หลี่ว่ากู้ชูหน่วนเป็นคนฆ่าพวกไป๋หลี่เจิ้น เรื่องเราจะไม่แย่ขนาดนั้นไหม?
เขาคิดไม่ถึงว่าตระกูลมู่จะถูกฆ่าล้างตระกูล
เย่จิ่งหานอยากอธิบายให้นางฟัง
แต่เขาก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง?
จะบอกว่าเขาทำไปเพื่ออยากรู้กระบวนท่าวิทยายุทธของนางหรือ?
“เจ้าจะไปไหน?”
เห็นกู้ชูหน่วนจะจากไป เย่จิ่งหานจึงพูดขึ้น
“หมอรักษาเสร็จแล้ว ทำแผลเรียบร้อยแล้ว เจ้าว่าควรจะไปไหน?”
“เจ้าจะทิ้งข้าไว้แบบนี้หรือ?”
“เจ้าเก่งกาจมากไม่ใช่หรือ? แค่วังหลวงจะสามารถกักขังเจ้าไว้ได้หรือ?”
เย่จิ่งหานยิ่งโกรธโมโหขึ้นมา
เขาเป็นคนป่วย
คนป่วยสาหัส
ยังเป็นคนหนึ่งที่ถูกเหล็กกล้าพันปีล่ามไว้
ผู้หญิงไร้น้ำใจ เสียแรงที่เขาทำเพื่อช่วยนาง เกือบจะเอาชีวิตตัวเองไม่รอด
กู้ชูหน่วนเดินไปถึงหน้าประตูเห็นเย่จิ่งหานไม่เรียกนาง เพียงแค่อดกลั้นความโกรธไว้
นางจึงหวนกลับคืนมา
เย่จิ่งหานดีใจอย่างบอกไม่ถูก
กลับได้ยินกู้ชูหน่วนพูดขึ้นว่า “พูดจาไพเราะหน่อย บางทีข้าอาจจะช่วยเจ้าออกไปจากวังแคว้นน้ำแข็ง”
“เจ้าเห็นข้าเป็นลิงหรือ? เจ้าจะเล่นยังไงก็ได้หรือ?”
“เห็นที เจ้าอยากที่จะเป็นนายบำเรอของจักรพรรดินี ในเมื่อเป็นความปรารถนาของเจ้า งั้นข้าก็ไม่รบกวนเจ้าแล้ว”
เย่จิ่งหานคิดว่านางจะหวนกลับมาอีกครั้ง
คิดไม่ถึงว่านางจะจากไปจริงๆ ทิ้งเขาอยู่ในหอกระบี่อย่างเยือกเย็นเพียงคนเดียว
ความขุ่นเคืองใจของเย่จิ่งหาน ยังไงก็ไม่ลดน้อยลง
หากอาหน่วนของเขาอยู่ที่นี่ ไม่ว่ายังไงก็จะไม่ยอมปล่อยให้เขาถูกจักรพรรดินีเหยียดหยาม
ผู้มีอำนาจต้องสังวรเรียนรู้ ถ้าสถานการณ์เปลี่ยน ชะตากรรมก็อาจเปลี่ยนไป
คิดไม่ถึงว่าเขาที่เป็นถึงเทพสงคราม กลับตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ขนาดนี้
“อ้า…..”
ด้านนอกมีเสียงร้องอย่างเจ็บปวดดังขึ้น
เย่จิ่งหานได้ยินเพราะหูดี
ช่วงที่ผ่านมานี้ เขาจะได้ยินเสียงร้องเจ็บปวดแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง
ได้ยินจากการพูดคุยกันระหว่างขันทีกับนางกำนัล เขารู้ว่าเสียงร้องเจ็บปวดพวกนั้น เป็นเสียงนายบำเรอที่ถูกหญิงทรราชเหยียดหยาม
จักรพรรดินีข่มเหงผู้ชายทุกค่ำคืน
ในทุกๆคืนล้วนมีผู้ชายรูปงามถูกนางทรมานจนหายใจตาย ศพถูกหามออกมาทีละศพ
เย่จิ่งหานหวั่นใจ พยายามสงบสติ ต้องฟื้นคืนพลังกลับมาโดยเร็ว แล้วหาโอกาสหนีออกไป
ไม่อย่างนั้นอาจจะต้องตายอยู่ในวังแคว้นน้ำแข็งเหมือนอย่างนายบำเรอพวกนั้น
เย่จิ่งหานได้ยิน
กู้ชูหน่วนก็ได้ยิน
นางไม่เพียงได้ยิน นางยังเห็นพวกขันทียกศพที่มีผ้าขาวคลุมไว้ออกมา
เมื่อนับดูแล้ว มีตั้งสิบกว่าคน
“ท่านหมอ เชิญทางนี้….” ขันทีเห็นกู้ชูหน่วนหยุดฝีเท้า จึงพูดขึ้นอย่างนอบน้อม
“ศพของพวกเขาจะถูกยกไปที่ไหน?”
“ยกไปโยนทิ้งที่บ่อคืนวิญญาณ”
“บ่อคืนวิญญาณ?”
“ใช่ คนที่ไม่มีสถานะใดในวังเมื่อตายไปแล้ว ศพล้วนถูกไฟเผาแล้วก็โยนลงไปในบ่อคืนวิญญาณ หมอจิน ทำไมจู่ๆท่านถึงถามเรื่องนี้”
“อ้อ….ไม่มีอะไร เพียงแค่สงสารพวกเขา”
“ได้รับความโปรดปรานจากจักรพรรดินี ถือเป็นเกียรติของพวกเขา ต่อให้ถูกโยนลงไปในบ่อคืนวิญญาณ ก็เป็นบุญของพวกเขา”
ใช่หรือ?
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นเขาจะกลัวขนาดนั้นทำไม?
และทำไมยังเผยให้เห็นถึงความเห็นใจ น่าสงสาร?
“คักลั่ก…..”
ศพหนึ่งตกหล่นลงมา
คนหามศพรีบเก็บขึ้นมาใหม่อย่างร้อนรน
ซึ่งศพนั้นยังไม่ตาย ยังเหลือลมหายใจสุดท้าย
กู้ชูหน่วนเงยมองดู เห็นผู้ชายคนนั้น แล้วฝีเท้าก็หยุดชะงัก ก้าวยังไงก็ไม่ไป
หลินซือหย่วน……
เป็นเขาได้ยังไง?
เขาอยู่ที่วิทยาลัยอี้เหอไม่ใช่หรือ?
ทำไมถึงมาปรากฏอยู่ที่นี่?