อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1103 เข้าเฝ้า
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1103 เข้าเฝ้า
“ต๊อกๆต๊อก….”
นางยังไม่ออกมา ก็มีขันทีมาแจ้งว่า
“ราชินีมีรับสั่ง ให้หมอจินไปเข้าเฝ้าที่ตำหนักเฉินอวี่”
“ข้าน้อยน้อมรับคำสั่ง”
ระหว่างทาง กู้ชูหน่วนเห็นพวกผู้อาวุโสของสี่ตระกูลใหญ่รออยู่ตรงศาลาในอุทยานหลวงอย่างร้อนใจ
พวกเขาหันไปมองตรงตำแหน่งตำหนักเฉินอวี่อย่างตื่นเต้นอยู่บ่อยครั้ง
เดินไปเดินมาอย่างกระวนกระวายอยู่บ่อยครั้ง
จะไปตำหนักเฉินอวี่ต้องเดินผ่านอุทยานหลวง
คนของสี่ตระกูลใหญ่มองเห็นพวกเขา แต่ละคนต่างล้อมมาหา พร้อมพูดขึ้นว่า
“กงกง ราชินีบอกไหมว่าเมื่อไหร่ถึงจะให้พวกเราเข้าเฝ้า?”
“ตอนนี้ยังไม่มี รบกวนทุกท่านรอไปก่อน”
“รอไปก่อน พวกเรารอนานมากแล้วนะ ราชินีไม่ยอมเจอพวกเราหรือเปล่า” ไป๋หลี่เฉิงคนแรกที่อดทนไม่ไหว น้ำเสียงก็แฝงไปด้วยความโมโห
“บังอาจ ราชินีติดงานราชการ จะเอาเวลาที่ไหนมาพบพวกเจ้า ให้พวกเจ้ารอก็รอไปก่อน ถึงเวลาเข้าเฝ้าแล้วก็จะมีคำสั่งเรียกพวกเจ้าเอง”
ไป๋หลี่เฉิงโกรธโมโหอย่างมาก แต่ที่นี่อยู่ในวัง เขาโกรธโมโหก็ไม่สามารถระบายออกมาได้
ราชินีหมกมุ่นแต่ในกาม นางไม่ได้ว่าราชการเช้ามานานแค่ไหนแล้ว?
ติดงานราชการอะไร เห็นได้ชัดว่าไม่อยากเจอพวกเขา
ผ่านไปตั้งหลายวันแล้ว มีขันทียกศพออกมาทุกวัน
หากไม่รีบเข้าเฝ้าราชินี หลานชายของเขาคงจะถูกราชินีทรมานจนตายแน่
หลังจากเสร็จสิ้นงานชุมนุมควบคุมสัตว์ ราชินีให้ลูกศิษย์ฝีมือดีของตระกูลไป๋หลี่เข้าวังมาอย่างต่อเนื่อง ไม่รู้ว่าพวกเขาต้องการทำอะไรกันแน่
ไม่ ไม่เพียงลูกศิษย์ฝีมือดีของตระกูลไป๋หลี่ ควรที่จะพูดว่าลูกศิษย์ฝีมือดีของสำนักใหญ่ต่างๆล้วนเอาไปหมดแล้ว
มีข่าวออกมาว่า คนที่ถูกพาเข้าวังพวกนั้น ส่วนมากลัวนถูกราชินีเล่นจนตายไปแล้ว
เขามีหลานเพียงคนเดียว ไม่ว่ายังไงจะให้หลานเป็นอะไรไปไม่ได้เด็ดขาด
ซ่างกวนชิงก็ร้อนใจมากเหมือนกัน เขาเอาทองออกมาเป็นจำนวนมากยื่นให้กับกงกง พร้อมยังยั้งอารมณ์พูดขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า
“กงกง ราชินีติดงานราชการ เรารอไปก่อนก็ได้ แต่ข้าถามกงกงหน่อยได้ไหมว่า ซ่างกวนหมิงหลางเป็นอย่างไรบ้าง? เขาเป็นผู้สืบสกุลตระกูลซ่างกวน เป็นความหวังในอนาคตของตระกูลซ่างกวน เจ้าบ้านของเราเป็นห่วงอย่างมาก”
กงกงที่รับเงินมา ท่าทีค่อยดีขึ้นหน่อย
เขารับมาไว้อย่างไร้ร่องรอย พร้อมยิ้มพูดขึ้นว่า “คุณชายซ่างกวนไม่เป็นไร ราชินียังไม่ได้ให้เข้าเฝ้า แต่ช่วงนี้ราชินีมีความต้องการสูงมาก ไม่แน่ว่าวันไหนสักวันคงเรียกตัวคุณชายซ่างกวนแล้ว”
คำพูดประโยคเดียวทำให้ซ่างกวนชิงตกใจอย่างมาก
“กงกง ท่านช่วยข้าได้ไหม” เขาเอาทองออกมาอีก
กงกงมองดูทองแวบหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้รับไว้ เพียงพูดขึ้นมาอย่างคลุมเครือว่า
“หากราชินีเรียกตัวคุณชายซ่างกวนไปพบ ถือเป็นบุญของคุณชายซ่างกวน ส่วนราชินีจะเรียกเข้าเฝ้าหรือไม่ ข้าทำอะไรไม่ได้”
“กงกง….ขอร้องท่านด้วย ช่วยข้าที”
ไม่ว่ากงกงจะยินยอมตกลงหรือไม่ ซ่างกวนชิงก็เอาทองยัดใส่มือให้กับกงกง
กงกงเห็นแบบนี้จึงรับไว้ แต่คำพูดที่พูดออกมากลับไม่น่าฟัง
“ความจริงแล้ว ราชินีพอใจคุณชายซ่างกวนอย่างมาก เตรียมที่จะให้คุณชายซ่างกวนเข้าเฝ้าคืนนี้หรือคืนพรุ่งนี้ ข้าน้อยพูดได้เพียงเท่านี้ ข้าน้อยเป็นคนต่ำต้อยคำพูดย่อมไม่มีน้ำหนัก และก็ทำอะไรไม่ได้”
คำพูดประโยคเดียวเท่ากับเป็นการคาดโทษประหารซ่างกวนหมิงหลาง
ซ่างกวนชิงร้อนใจ
ไม่ว่าเขาให้หว่านล้อมกงกงยังไง กงกงก็ไม่หวั่นไหว
คนอื่นเห็นแล้วต่างก็รีบเอาเงินทองออกมาให้ กงกงเองก็อยากได้มาก แต่มีกู้ชูหน่วนอยู่ด้วย จึงพูดเพียงว่า “คืนนี้ยามจื่อ(ช่วงเวลา ๒๓.๐๐ น.-๑.๐๐ น)ข้าน้อยเข้าเวรอยู่ที่ตำหนักหานฉี”