อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1114 แต่งงานในวันเดียวกัน
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1114 แต่งงานในวันเดียวกัน
ราชินีให้ทุกคนออกไปให้หมด เหลือเพียงไป่หนิง กู้ชูหน่วนกับเย่จิ่งหาน
เย่จิ่งหานไม่สนใจนาง
“ทำไมรักษาตั้งนาน ยังรักษาไม่หาย?” หางตาราชินีหรี่ลง
“เรียนราชินี คุณชายเย่บาดเจ็บค่อนข้างสาหัส ยังต้องใช้เวลาอีกช่วงหนึ่ง”
“หนึ่งเดือนกว่า ข้าให้เวลาเจ้าหนึ่งเดือนครึ่งเท่านั้น หลังจากหนึ่งเดือนครึ่ง หากเขายังไม่หาย เฮ้อ….”
“ขอรับ….”
“ฟังให้ชัดเจน ข้าพูดว่าหายดี รวมถึงขาทั้งคู่ของเจ้าด้วย”
กู้ชูหน่วนอึ้ง
หญิงทรราชคนนี้ นางรู้ว่านางจะรักษาขาของเย่จิ่งหาน?
“ข้าน้อยจะพยายาม…..”
“ไม่ใช่พยายาม แต่ต้องรักษาให้หาย” สายตาราชินีแฝงไปด้วยความตักเตือน
ถึงนางไม่ได้พูดถึงผลที่จะตามมา แต่กู้ชูหน่วนรู้ หากนางรักษาไม่หาย ก็ไม่สามารถหนีออกไปจากวัง แบบนั้น….ผลที่จะตามมา ไม่ใช่สิ่งที่นางสามารถทนรับได้แน่
“ขอรับ”
“หลังจากนั้นหนึ่งเดือน ข้าจะแต่งงานกับหัวหน้าเผ่าเทียนเฟิ่นเวินเส้าหยีกับเย่จิ่งหาน”
ซี๊ด…..
ร่างกายเย่จิ่งหานเยือกเย็นลง
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะนางพูดถึงเวินเส้าหยี หรือเพราะพูดว่าจะแต่งงานกับเขา
ราชินีมองดูท่าทีประเดี๋ยวเดียวของเย่จิ่งหานอย่างชื่นชมพอใจ พร้อมพูดต่อไปว่า “จะแต่งตั้งให้เวินเส้าหยีเป็นฮองเฮา เย่จิ่งหานเป็นกุ้ยจุน”
“ขอแสดงความยินดีกับราชินี” ไป่หนิงพูดขึ้น
กู้ชูหน่วนก็พูดขอแสดงความยินดีอย่างไม่เต็มใจ
ราชินีเดินไปตรงหน้าเตียงเย่จิ่งหานทีละก้าว นั่งบนเตียงของเขา มือเรียวขาวเชยคางของเขาขึ้นมา พร้อมยิ้มพูดขึ้นว่า “เจ้ารู้ไหมว่า ข้ารอให้อาการของเจ้าหายดี อย่างทุกข์ทรมานแค่ไหน?”
เย่จิ่งหานปัดมือของนางทิ้งอย่างรังเกียจ พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชาว่า “ผู้หญิงไร้ยางอาย อย่างเจ้าก็คิดอยากได้ตัวข้า”
“บังอาจ เจ้ากล้าพูดแบบนี้กับราชินี”
“เจ้าสิบังอาจ แค่สุนัขรับใช้ มีสิทธิ์อะไรมาพูดตรงนี้?”
เย่จิ่งหานจ้องมองไป่หนิง ลักษณะท่าทีของความเป็นราชาเผยออกมาให้เห็น
ถึงแม้วิทยายุทธ์ของเขาถูกปิดผนึก มือเท้าถูกล่าม ร่างกายก็บาดเจ็บสาหัส
แต่ความเป็นราชาโดยกำเนิดของเขากดดันจนไป่หนิงอดไม่ได้ที่จะสั่นไหวไปหลายที
ถึงราชินีจะเป็นราชินีผู้สูงศักดิ์
แต่เมื่อพูดถึงความเป็นราชา นางรู้สึกว่าราชินีสู้เย่จิ่งหานไม่ได้
ไม่เพียงไป่หนิงที่คิดเช่นนี้
กู้ชูหน่วนก็คิดเช่นนี้
ถึงราชินีจะสูงศักดิ์ แต่บนตัวของนางนั้นเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมมากกว่า
เย่จิ่งหานไม่พอใจราชินีอย่างมาก ราชินีกลับไม่โกรธ ปลายเล็บที่ทาด้วยสีแดงเพลิงแตะไปตามหลอดเลือดแดงของเย่จิงหาน
นางเลียมุมปาก ราวกับปรารถนาอย่างมาก
“ไม่เลว ร่างกายล่ำสัน เลือดของเจ้าจะต้องอร่อยแน่”
“เอามือปลาหมึกของเจ้าออกไป ข้ารังเกียจ”
“ราชินี ในสายตาคุณชายเย่ไม่ให้เกียรติพระองค์ ข้าน้อยขอให้ราชินีลงโทษสถานหนัก”
“มีความบ้าระห่ำแบบนี้ ข้าชอบ”
“หญิงทรราช เจ้าจะต้องชดใช้ในสิ่งที่เจ้าทำในวันนี้”
“ดี ข้าจะคอยดู”
ราชินีพูดพร้อมกับเปิดผ้าห่ม เผยกระดูกหัวไหล่ กล้ามท้อง…..กระทั่งเอว…..ของเขา
ทุกครั้งที่เขายกขึ้นเล็กน้อย บนตัวเย่จิ่งหานก็ยิ่งเยือกเย็น
เย่จิ่งหานพยายามดิ้นรนโซ่เหล็กพันปีอย่างต่อเนื่อง
พูดเล็ดลอดออกมาจากไรฟันว่า “เจ้ากล้าแตะต้องข้า ข้าจะทำให้เจ้าตายทั้งเป็น”
ซั่ว……
บรรยากาศยิ่งอยู่ยิ่งเย็นลง
สีหน้าเย่จิ่งหานบูดบึ้ง ความอาฆาตท่วมท้นภายในดวงตา
เย็นยะเยือกจนกู้ชูหน่วนกับไป่หนิงต่างอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน
ผู้ชายคนนี้โกรธอย่างมากแล้วจริงๆ
หากเขาสามารถหลุดพ้นจากพันธนาการได้
ต่อให้เขาบาดเจ็บสาหัส ก็สามารถที่จะทำให้พระราชวังนองเลือด
ผู้ชายคนนี้….น่ากลัวมาก
แต่ราชินีไม่หวาดกลัว
นางยังคงดึงลงเรื่อยๆ
จนมาถึงตรงเอว มือของราชินีนิ่งอึ้ง
รอยยิ้มบนใบหน้าก็เหมือนจะแข็งทื่อ ดวงตาสีเข้มคู่นั้นจ้องมองปานรูปสามเหลี่ยมตรงเอวเย่จิ่งหาน
ปานรูไม่ใหญ่ แต่ชัดเจน