อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1116 นางคือกู้ชูหน่วนจริงๆด้วย
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1116 นางคือกู้ชูหน่วนจริงๆด้วย
ในเผ่าเทียนเฟิ่น
เวินเส้าหยีนั่งอยู่บนตำแหน่งประมุข
ลำดับถัดมาคือรองหัวหน้าเผ่า ผู้พิทักษ์ซ้ายขวา ตลอดจนผู้อาวุโส
ตรงกลาง ผู้อาวุโสทั้งแปดกำลังร่ายมนตร์ ส่งเวทมนตร์ของตนเองไหลลงสู่ลูกแก้วขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง
ภายในลูกแก้วมีเพียงเงาร่างพร่ามัวของคนคนหนึ่ง
มองเห็นไม่ชัดเจน
ด้วยแรงกระตุ้นของพวกผู้อาวุโส ภาพชัดขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังมองไม่เห็นอะไร
เวินเส้าหยีขมวดคิ้วที่ดกดำ
ครึ่งเดือนแล้ว….
ผ่านไปครึ่งเดือนแล้ว อาศัยเวทมนตร์สูงสุดของเผ่าเทียนเฟิ่น ก็ยังไม่สามารถที่จะสืบรู้ว่ามู่หน่วนใช่กู้ชูหน่วนหรือไม่
จากข้อบ่งชี้ต่างๆทั้งหมด มู่หน่วนกับกู้ชูหน่วนมีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก แม้แต่เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ยังยอมรับนางเป็นนาย เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าดวงจิตวิญญาณของกู้ชูหน่วนสถิตอยู่ในร่างมู่หน่วน
พวกนางสองคนมีความเป็นไปได้ที่อาจจะเป็นคนคนเดียวกัน
หากมู่หน่วนคือกู้ชูหน่วน เขาจะต้องให้นางชดใช้ด้วยเลือด
คิดถึงภาพเหตุการณ์ที่เผ่าเทียนเฟิ่นถูกฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุ กับสภาพพ่อของเขาที่ตายอย่างอนาถ แววตาเวินเส้าหยียิ่งเยือกเย็น
เขาควบคุมอารมณ์ได้ดีมาโดยตลอด มีเพียงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกู้ชูหน่วน ไม่ว่าเขาจะแสร้งทำเป็นเฉยเมยเพียงใด ก็ทำไม่ได้
สิ่งที่กู้ชูหน่วนทำร้ายเขานั้น มากมายอย่างมาก….
ผู้พิทักษ์ซ้ายพูดขึ้นว่า “คนธรรมดาถูกกระตุ้นโดยเวทมนตร์ของผู้เฒ่าทั้งแปด อดีตของนางจะต้องปรากฏแต่แรกแล้ว แต่ผู้หญิงคนนี้…..ผ่านไปครึ่งเดือนแล้ว ก็ยังไม่พบสิ่งใด”
เวทมนตร์ไม่สามารถใช้ได้ตามอำเภอใจ
เพราะต้องแลกด้วยสิ่งของอย่างมากมาย
ต้องมีเลือดสดเป็นจำนวนมาก
อายุขัยของผู้อาวุโสทั้งแปดที่ร่ายเวทมนตร์ก็จะลดลงมากกว่าสิบปี รวมทั้งพลังก็ลดด้อยลงอย่างมาก
หากไม่มีความจำเป็น ต่อให้เป็นเผ่าเทียนเฟิ่นที่มีเวทมนตร์สูงส่ง ก็จะไม่ใช่เวทมนตร์ง่ายๆ
ผู้พิทักษ์ขวาพูดขึ้นว่า “ยิ่งพบเห็นได้ยากเท่าไหร่ แสดงว่านางยิ่งไม่ธรรมดามากเท่านั้น บางทีนางอาจจะเป็นหัวหน้าเผ่าหยกที่ทำลายหน่วยหลักเผ่าเทียนเฟิ่นของเรา”
ได้ยินแบบนี้ สายตาทุกคนล้วนฉายแววความอาฆาต
แต่ละคนแทบอยากที่จะฉีกเนื้อหักกระดูกผู้หญิงที่อยู่ในลูกแก้ว บดขยี้กระดูกในกลายเป็นขี้เถ้าแล้วโปรยทิ้งไป
รองหัวหน้าเผ่าอายุประมาณสี่สิบ รูปลักษณ์ทรงเหลี่ยม ทุกท่วงท่าแสดงออกถึงความเย่อหยิ่งและความชอบธรรมอย่างสุดจะพรรณนา
เขายกมือประสาน ปากร่ายมนตร์คาถาอยู่อย่างเงียบๆ อักษรรูนประหลาดแต่ละตัวแห่เข้าหาลูกแก้ว
ผู้พิทักษ์ซ้ายขวาพูดขึ้นมาอย่างตกใจว่า “รองหัวหน้าเผ่า ไม่ได้เด็ดขาด ท่านเป็นรองหัวหน้าเผ่าเทียนเฟิ่น จะสูญเสียอายุขัยของตนเองเป็นสิบปีเพื่อกระตุ้นลูกแก้วได้อย่างไร….”
“ภารกิจของหน่วยย่อยเผ่าเทียนเฟิ่นที่อยู่ในทวีปปิงหลิงก็คือกำจัดเผ่าหยก เพื่อเป็นการแก้แค้นแทนพี่น้องหน่วยหลักเผ่าเทียนเฟิ่นที่ตายอย่างอนาถอยู่ในมือเผ่าหยก หากสามารถสืบรู้ว่าคนร้ายคือใคร อย่าว่าแต่อายุขัยสิบปี ต่อให้ยี่สิบปี ห้าสิบปี หรือแลกด้วยชีวิตของข้าก็ไม่เสียดาย”
“รองหัวหน้าเผ่า…”
ทุกคนต่างอธิษฐานเผื่อเขา อย่างทำใจไม่ได้
เห็นได้ชัดว่ารองหัวหน้าเผ่ามีสถานะสูงศักดิ์ในเผ่า เป็นที่เคารพนับถืออย่างมาก
มีรองหัวหน้าเผ่าเข้าร่วม ในที่สุดภาพในลูกแก้วก็ชัดเจนแล้ว
ตรงหน้าผากมู่หน่วนที่อยู่ในลูกแก้ว ปรากฏดวงจิตสามดวง ซึ่งดวงจิตนั้นก็คือกู้ชูหน่วน
ซี๊ด….
ทุกคนหายใจเข้าลึกๆ ไม่นานก็เงียบสงัดอีกครั้ง
เลือดในร่างกายเวินเส้าหยีดูเหมือนจะแข็งตัว ดวงตาที่เคยอบอุ่นและชุ่มชื้นเผยให้เห็นถึงแรงอาฆาตอย่างท่วมท้น ใครก็ตามที่เข้าใกล้เขา ล้วนต้องสั่นสะท้าน
เขาเดาไม่ผิด
ดวงจิตของกู้ชูหน่วนสถิตอยู่ในร่างกายมู่หน่วนจริงๆ
ผู้พิทักษ์ซ้ายพูดขึ้นมาอย่างโกรธแค้นว่า “ดวงจิตหัวหน้าเผ่าหยกเลือกสิงสถิตอยู่ในร่างของนาง นางคิดอยากที่จะนิพพานแล้วเกิดใหม่หรือ? นางยิ่งปรารถนา พวกเรายิ่งต้องทำลายนาง ให้นางไม่สามารถเกิดใหม่ในทุกชาติภพ”