อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1129 เหตุสุดวิสัย
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1129 เหตุสุดวิสัย
“ราชินี ขอราชินีพิจารณา”
“ซู…..ห้ามพูด ให้ข้าได้ลิ้มรสชาติของเจ้า”
ในขณะที่ราชินีกำลังใกล้ชิดเข้ามาทีละก้าว คว้าหยิบเสื้อผ้าบางเบาของเขาขึ้นมา หัวใจซ่างกวนหมิงหลางเต้นรุนแรง
ตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้ชิดตัวเขาขนาดนี้
ตอนนี้กลับถูกกระทำด้วยวิธีแบบนี้…..
และข้างกายก็ยังมีผู้ชายอีกคน
เขาจะทนรับได้อย่างไร
“จะตื่นเต้นขนาดนี้ทำไม ขอเพียงเจ้าว่าง่าย ข้ารับประกันว่าจะอ่อนโยน”
ซ่างกวนหมิงหลางดิ้นรน
เขาอยากหนีไปจากราชินี
แต่ไม่สามารถขยับเคลื่อนไหวได้
ความรู้สึกเหมือนปลาบนกระดานเหนียว ช่างไม่เป็นที่พอใจยิ่งนัก
ร่างกายเยือกเย็น
ซ่างกวนหมิงหลางหลับตาลงอย่างเจ็บปวดทรมาน
หากสามารถฆ่าตัวตาย เขาอยากที่จะฆ่าตัวตายเสียตอนนี้ ดีกว่าถูกข่มขืน
แต่ตระกูลซ่างกวน….ล่วงเกินราชินีไม่ไหว
เขาไม่สามารถที่จะก่นด่า เพราะเขาเป็นตัวแทนของตระกูลซ่างกวน
ซ่างกวนหมิงหลางรู้สึกจนใจจากก้นเบื้องลึกของหัวใจ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะราชินีหายใจรุนแรงขึ้น
หรือฝูกวงหายใจรุนแรงขึ้น
เสียงของฮัวอิ่งดังแววขึ้นมาว่า
“วางใจ รอข้าร่วมรักกับเขาแล้ว ก็จะมาร่วมรักกับเจ้า ฝูกวงน้อย เจ้าอย่าใจร้อน”
ซ่างกวนหมิงหลางรอคอยให้มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น เหมือนกับคืนนั้นที่ราชินีบอกว่าจะร่วมรักกับเขา แต่กลับไม่มาอย่างอัศจรรย์
และแล้ว….
ไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น
มีเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นคือฮัวอิ่งครอบอยู่บนร่างของเขา
“ซี๊ด….”
ไหล่เจ็บปวด เป็นเพราะฮัวอิ่งกัดบนแขนของเขา
“หวาน….หวานมาก เลือดของขั้นสูงสุดระดับสามนั้นไม่เหมือนกัน ข้าไม่ได้ลิ้มรสเลือดที่อร่อยแบบนี้มานานมากแล้ว”
ซ่างกวนหมิงหลางเงยหน้าขึ้น ภาพที่ปรากฏตรงหน้ากลับเป็นนัยย์ตากระหายเลือดของฮัวอิ่ง
เมื่อสบกับสายตานี้แล้ว ซ่างกวนหมิงหลางรู้สึกสั่นสะท้าน
เป็นสายตาที่น่ากลัวมาก
ราวกับจะกัดกินคนลงท้องไปทั้งกระดูก
เขารู้สึกว่าราชินีน่ากลัวกว่าที่เขาคิดไว้ขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
ความน่ากลัวนี้เพียงพอที่จะทำลายล้างโลก
“ทำยังไงดี บ้าอดทนไม่ไหวแล้ว….”
“ปล่อยข้า ปล่อยข้า….”
ซ่างกวนหมิงหลางดิ้นรนอยู่อย่างเจ็บปวด ขัดขืนไม่มีราชินีกระทำมากไปกว่านี้
ฝูกวงก็ร้อนใจแทนเขาขึ้นมา
แต่ตัวเขาเองก็เอาตัวไม่รอด
จะช่วยเขายังไง?
ผู้หญิงบ้าคนนี้ไม่ได้ทรมานเขาจนเลือดตกยางออก ก็ดีเท่าไหร่แล้ว
หากถูกนางข่มขืนเหมือนอย่างเลว่อิ่ง เขานึกไม่ออกเลยว่าชายตรงหน้าคนนี้จะทนรับได้ไหม
“พลั่ก….”
น้ำตาซ่างกวนหมิงหลางล่วงไหลลง
อคอยอย่างสิ้นหวัง กับขั้นตอนสุดท้ายที่ราชินีจะกระทำ
ทันใดนั้น ด้านนอกประตูมีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เสียงขันทีคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างร้อนใจว่า
“ราชินี เกิดเรื่องใหญ่แล้ว คุณชายเย่อาการวิกฤต”
ประโยคนี้ ทำให้ฮัวอิ่งหยุดชะงัก
“อาการวิกฤต? หมอจินรักษาอยู่ข้างกายเขาตลอดไม่ใช่หรือ?”
“ใช่ขอรับ….เมื่อเช้ารุ่ง หมอจินรักษาขาคุณชายเย่ โดยการทุบกระดูกคุณชายเย่แล้วต่อขึ้นมาใหม่ คุณชายเย่ทนไม่ไหว สลบไปหลายครั้ง ตอนนี้….ตอนนี้ไม่รู้ทำไม มีไข้สูงอย่างต่อเนื่อง อาเจียนไม่หยุด หมอหลวงบอกว่า คุณชายเย่น่าจะไม่รอดแล้ว”
“หมอจินล่ะ?”
“หมอจินเหน็ดเหนื่อยมาหลายวัน ป่วย….ล้มป่วยไปแล้ว….”
ขันทีแทบไม่อยากพูดต่อไป
เขากลัวราชินีโกรธโมโห แล้วฆ่าหมอจิน พวกเขาก็เดือดร้อนไปด้วย
เดิมคืนนี้ฮัวอิ่งอยากรวบรวมหยางบำรุงหยิน สูบเลือดฝูกวงกับซ่างกวนหมิงหลางก่อน แล้วก็ค่อยๆทรมานเลว่อิ่งกับเซียวหยู่เซวียน จะได้ฟันฝ่าไปถึงระดับเจ็ด
คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้กับเย่จิ่งหาน
นางไม่อยากให้เรื่องของเย่จิ่งหาน ทำลายแผนการใหญ่ของนาง
ราชินีไม่สนใจคำพูดของขันที
กระทำต่อไป
ขันทีอีกคนก็รีบมา เขาไม่รู้ความคิดของฮัวอิ่ง พูดขึ้นมาอย่างหวาดหวั่นว่า “ราชินี คุณชายเย่กระอักออกมาเป็นเลือด หมอบอกว่าคงไม่พ้นคืนนี้แล้ว”