อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1130 เลือกปฏิบัติ
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1130 เลือกปฏิบัติ
ฝูกวงร้อนใจอย่างมาก
คุณชายเย่?
เย่จิ่งหานอยู่ในหอกระบี่?
สามีของนายหญิง?
บาดเจ็บสาหัสขนาดนั้นได้อย่างไร?
ใครช่างโหดเหี้ยมอำมหิตขนาดนั้น ทุบกระดูกหัวเข่าของเขาจนแตก?
“ลากลงไป ประหาร”
ฮัวอิ่งพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชา
แล้วก็รีบมีคนมาลากขันทีสองคนไปประหาร
ด้านนอกมีเสียงโอดครวญร้องขอของขันทีดังขึ้น
ฮัวอิ่งหมดอารมณ์เพราะขันทีสองคนนี้
มองดูฝูกวงกับซ่างกวนหมิงหลาง แล้วนางก็ไม่มีอารมณ์กระทำต่อไปแล้ว
หยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่อย่างหลวมๆ ฮัวอิ่งลุกขึ้น กวาดสายตามองดูพวกเขาอย่างเย็นชา แล้วก็ออกไปจากตำหนักเฉิงลู่
“รูปหล่อสองคนไม่ต้องร้อนใจ รอข้าจัดการเรื่องพวกนี้เสร็จแล้ว ค่อยมาร่วมรักกับพวกเจ้าสองคน”
ซ่างกวนหมิงหลางถอนหายใจยาว
ฟ้าสวรรค์รู้ว่าเมื่อกี้เขาหวาดกลัวแค่ไหน สิ้นหวังขนาดไหน
ฝูกวงกลับยิ่งอยู่ก็ยิ่งร้อนใจ
หากเกิดอะไรขึ้นกับเย่จิ่งหาน พวกเขาจะสู้หน้านายหญิงยังไง?
ด้านนอกหน้าต่างมีเสียงทหารองครักษ์ร้องดังขึ้นอย่างตกใจ
“งูงูงู…..มีงูมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร”
“ซี๊ด….”
เงาร่างของคนคนหนึ่งกระโดดเข้ามา ยืนอยู่ตรงหน้าเตียงมองดูพวกเขา
ซ่างกวนหมิงหลางกับฝูกวงพูดออกมาพร้อมกันว่า
“มู่หน่วน……”
“เจ้า….”
“ซูว เสียงเบาหน่อย อย่าส่งเสียงให้ทหารองครักษ์เข้ามา”
กู้ชูหน่วนแปลงโฉมกลับมาเป็นตนเองเหมือนเดิม
อาศัยแสงไฟภายในห้อง นางมองเห็นซ่างกวนหมิงหลางที่เปลือยกับฝูกวงที่สวมผ้าบางเบา
สายตาสบตากัน
ฝูกวงหน้าแดง
ซ่างกวนหมิงหลางก็อับอายอย่างมาก
มีเพียงกู้ชูหน่วนที่สีหน้าเรียบเฉย ราวกับไม่มีความคิดเป็นอื่น เพียงดึงผ้าห่มมาคลุมร่างกายให้พวกเขา
แล้วค่อยพูดขึ้นว่า “ต้องล่วงเกินแล้วนะ”
กู้ชูหน่วนคลายสะกดจุดให้กับพวกเขา
เมื่อคลายสะกดจุด ซ่างกวนหมิงหลางรีบดึงผ้าห่มมาคลุมอย่างแน่นหนาทันที
เขาดึงอย่างค่อนข้างแรง ไม่เพียงดึงผ้าห่มไปทั้งหมด แม้แต่เสื้อผ้าบนกายฝูกวงก็ถูกดึงไปด้วย
ฝูกวงถลึงตาใส่ซ่างกวนหมิงหลางอย่างโกรธจัด รีบเก็บเสื้อผ้ามาสวมใส่ มือปกปิดส่วนสำคัญของตนเองไว้
พร้อมรีบพูดขึ้นว่า “แม่นาง เจ้ารู้ไหมว่าคนที่อยู่ในหอกระบี่เป็นอย่างไรบ้าง?”
“ไม่ตายหรอก”
“จริงหรือ? งั้นเมื่อกี้…..”
“กลลวง รีบใส่เสื้อผ้าเถอะ”
กู้ชูหน่วนถอดเสื้อคลุมของตนออก แล้วคลุมให้กับฝูกวง ปกปิดร่างกายของเขาไว้
ฝูกวงค่อยโล่งอก
“เข่าของคุณชายเย่….ถูกทุบ…แตกจริงหรือ?”
“ที่ทุบก็ช่วยเขา”
“ใครกันช่างโหดเหี้ยม? ไม่มีวิธีรักษาแบบอื่นแล้วหรือ?”
กู้ชูหน่วนกระตุกมุมปาก
นางอยากพูดตอบว่า คนโหดเหี้ยมคนนั้นก็คือนาง
เห็นฝูกวงเป็นกังวลขนาดนั้น นางจึงไม่พูด
“ขอเพียงสามารถรักษาขาของเขาได้ ก็เพียงพอแล้ว”
“คุณชายเย่ขาพิการมาตั้งแต่เด็ก ใช่ว่าจะสามารถรักษาได้ง่ายๆ หมอคนนั้นรักษาไปเรื่อยหรือเปล่า”
“วางใจเถอะ ทำไปเรื่อยไม่ได้หรอก ไม่ต้องสนใจคนอื่น เจ้าสนใจตนเองก่อนเถอะ ยาที่ข้าให้เจ้าไม่ได้กินหรือ? ทำไมถึงได้บาดเจ็บสาหัสขนาดนี้?”
“ให้เลว่อิ่งไปหมดแล้ว”
“เลว่อิ่งก็มียาแล้วไม่ใช่หรือ?”
“เขาเป็นคนเย็นชา ไม่ชอบพูด ข้ากลัวเขาจะบาดเจ็บอีก”
“อ้าปาก”
กู้ชูหน่วนหยิบยาชั้นเลิศออกมาหนึ่งเม็ด พร้อมป้อนให้เขากินด้วยตนเอง
การปรากฏตัวของกู้ชูหน่วน ทำให้ซ่างกวนหมิงหลางรู้สึกอุ่นใจ
นางเป็นเหมือนหญ้าช่วยชุปชีวิต ทำให้ซ่างกวนหมิงหลางมองเห็นถึงความหวัง
ซ่างกวนหมิงหลางมองดูเสื้อคลุมบนตัวฝูกวงอย่างอิจฉา พร้อมถามขึ้นว่า “แม่นางมู่ ยังมีเสื้อคลุมไหม?”
เสื้อผ้าของถูกราชินีฉีกขาดหมดแล้ว
ห่อด้วยผ้าห่มอยู่ตลอดเวลาก็ไม่ใช่เรื่องดี
กู้ชูหน่วนคิดไปคิดมา แล้วก็พูดตอบว่า “ไม่มี”
“งั้นเจ้าสามารถ….”
“ไม่ได้”
เห็นนางว่างมากหรือไง?
หากไม่ใช่เพื่อช่วยฝูกวง
นางไม่อยากคุยกับเขาด้วยซ้ำ
เขาจะถูกราชินีสูบเลือดไปจนหมดหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนาง
สายตาซ่างกวนหมิงหลางเศร้าลง
แต่ก็ยังคงซาบซึ้งที่กู้ชูหน่วนช่วยเขาไว้