อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1132 สีดวงตาที่ผิดแผก
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1132 สีดวงตาที่ผิดแผก
ในตำหนักเฟิงหยี
ราชินีให้กู้ชูหน่วนเข้าพบโดยมีผ้าม่านคั่นอยู่ระหว่างกลาง
กู้ชูหน่วนเอ่ยด้วยท่าทางจริงใจ “ทูลฝ่าบาท อาการของคุณชายเย่สาหัสเกินไป กอปรกับมีพิษหลายชนิดแทรกซึมอยู่ในร่าง กระหม่อมจำใจต้องทุบกระดูกหัวเข่าของเขาให้แตก หวังว่าจะขับพิษและรักษาชีวิตของเขาเอาไว้ได้”
“เท่านี้เองหรือ” ราชินีพูดเอื่อยๆ ฟังอารมณ์ไม่ออก
“พ่ะย่ะค่ะ หากเป็นไปได้ กระหม่อมก็อย่างรักษาขาของคุณชายเย่ให้เป็นปกติ การที่โรคของคุณชายเย่เกิดขึ้นกะทันหัน เป็นเพราะพิษในร่างกายเขาสูญเสียความสมดุล ขอเพียงใช้ตัวยาหนึ่งชนิด อาการบาดเจ็บของคุณชายเย่ก็จะดีขึ้นพ่ะย่ะค่ะ”
“ยาในวังหลวงไม่พอให้เจ้าใช้หรือ”
“ยาตัวนี้มีแต่อ๋องเฉินเท่านั้นที่มีพ่ะย่ะค่ะ”
“อ๋องเฉิน?” เสด็จอาของข้า?
“พ่ะย่ะค่ะ”
“ในจวนอ๋องเฉินมีตัวยาชนิดหนึ่งเรียกว่ากล้วยไม้น้ำค้าง ได้ยินว่าสามร้อยปีออกดอก สามร้อยปีออกผล แคว้นน้ำแข็งอันกว้างใหญ่ จวนอ๋องเฉินเพิ่งจะมีเพียงต้นเดียว ล้ำค่าเป็นอย่างมาก”
“เจ้าต้องการกล้วยไม้น้ำค้าง?”
สายตาฮัวอิ่งเย็นชาบางส่วน
“กระหม่อมมิกล้า กระหม่อมทราบว่าหากต้องการกล้วยไม้น้ำค้าง เกรงว่าอ๋องเฉินจะไม่ยินยอม และฝ่าบาทก็จะลำบากพระทัยด้วย กระหม่อมต้องการใช้แค่ยางของกล้วยไม้น้ำค้างผสมยาเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”
“ข้าให้เขาส่งกล้วยไม้น้ำค้างมาก็ได้”
“กล้วยไม้น้ำค้างเติบโตยาก มีความจำเพาะกับเรื่องดินฟ้าอากาศ หากออกจากจวนอ๋องเฉิน เกรงว่ากล้วยไม้น้ำค้างอาจร่วงโรย หากฝ่าบาทเชื่อใจกระหม่อม ก็อนุญาตให้กระหม่อมไปที่จวนอ๋องเฉินสักครั้ง หากกระหม่อมได้ยางผสมยาแล้ว จะกลับวังทันที”
กู้ชูหน่วนกลัวว่าฮัวอิ่งไม่ตกลง จึงเสริมอีกประโยค “หากได้ยางจะต้องผสมกับยาทันที มิเช่นนั้นจะไม่มีประสิทธิภาพ หวังว่าฝ่าบาทจะทรงอนุญาตพ่ะย่ะค่ะ”
ฮัวอิ่งนิ่งงัน
เนิ่นนานก็ไม่พูด
ภายในตำหนักบรรทมเงียบจนน่ากลัว
กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าราชินีจะรับปากเงื่อนไขของนางหรือไม่
นางรู้สึกว่ามีสายตาเย็นเยียบกำลังพิจารณานางอยู่ตลอด
หลังจากผ่านไปนาน ฮัวอิ่งก็พูดขึ้นช้าๆ
“ได้”
ง่ายอย่างนี้เชียว
กู้ชูหน่วนคิดไม่ถึงอยู่บ้าง
ที่นางจะไปจวนอ๋องเฉิน ก็เพราะอยากทำลายวิชาพิษกู่ที่ตัวฝูกวงและเลว่อิ่ง
“ในเมื่อเจ้าอยากออกวัง เจ้าก็ไปเอาของอย่างหนึ่งมาให้ข้าด้วยก็แล้วกัน”
“พ่ะย่ะค่ะ…ไม่ทราบฝ่าบาทประสงค์ให้กระหม่อมนำสิ่งใดมาหรือ”
“ตอนบ่ายจะมีงานบูชายัญ ข้าต้องการให้เจ้านำดวงตาของคนที่สี่ตระกูลใหญ่จะบูชายัญกลับมา”
กู้ชูหน่วนขมวดคิ้วนิดๆ
งานบูชายัญ?
ควักดวงตาของคน?
นี่จะโหดเหี้ยมเกินไปหน่อยหรือไม่
“ทำไม จะขัดโองการหรือ”
“กระหม่อมมิกล้า”
“เช่นนั้นเจ้าก็ออกเดินทางตอนนี้เถอะ หากช้าจะไม่ทันกาล”
“พ่ะย่ะค่ะ…”
“อย่าลืม ข้าต้องการดวงตาของเขา”
“พ่ะย่ะค่ะ…”
กู้ชูหน่วนควบม้าเร็วลงแส้ออกจากวังหลวงด้วยความฉงนใจ โดยมีราชองครักษ์นำส่งสองคน
กู้ชูหน่วนเดินทางไปถามไป
“พี่ชายทั้งสอง พวกท่านรู้หรือไม่ว่าฝ่าบาทประสงค์ให้ข้านำดวงตาของใครกลับมา”
“เรื่องนี้ข้าก็ไม่แน่ชัด รู้แต่ว่าคนผู้นั้นคือผู้ที่เป็นตัวอัปมงคล ดวงตาทั้งสองข้างไม่เหมือนกัน”
“หมอจิน เจ้าเคยเห็นคนที่สีดวงตาทั้งสองข้างไม่เหมือนกันหรือไม่”
“ไม่เคยเห็น”
“คนที่สี่ตระกูลใหญ่จะบูชายัญ ดวงตาทั้งสองข้างมีสีไม่เหมือนกัน ผู้ที่เป็นตัวอัปมงคลเป็นสิ่งต้องห้ามที่สุดของทวีปปิงหลิงเรา ดังนั้นสี่ตระกูลใหญ่จึงต้องเผาเขาให้ตาย”
“แค่สีของดวงตาทั้งสองข้างไม่เหมือนกันก็ต้องเผาให้ตายทั้งเป็นแล้วหรือ เช่นนี้เขาเคยก่อกรรมทำเข็ญหรือไม่”
“เรื่องนี้…ตอนนี้ยังไม่ได้ทำ แต่ต่อไปต้องทำแน่ เมื่อก่อนที่แคว้นน้ำแข็งเราเกือบต้องล่มสลาย เพราะมีผู้ที่เป็นตัวอัปมงคล ที่มีดวงตาแปลกถือกำเนิดนั่นแหละ”