อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1134 ซือโม่เฟย
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1134 ซือโม่เฟย
สถานการณ์เงียบพลัน ทุกคนต่างมองกู้ชูหน่วนเป็นตาเดียว
ในแคว้นน้ำแข็งหรือกระทั่งทวีปปิงหลิง ขอเพียงมีดวงตาที่สีไม่เหมือนกัน นั่นก็คือเป้าหมายอันดับหนึ่งที่ผู้คนจะโจมตีทุกวิถีทาง
นับแต่โบราณกาล กฎของแคว้นน้ำแข็งก็คือ พอเห็นดวงตาผิดแผก ฆ่าเรียบไม่ละเว้น
แต่นางกลับกล้าช่วยตัวอัปมงคลผู้นี้ นางจะเป็นศัตรูกับคนใต้หล้าหรือ
ไป๋หลี่ป้ารู้สึกตัวขึ้นมาก่อนเป็นคนแรก เขาเอ่ยเสียงหนัก “เจ้ารู้ว่าเจ้ากำลังพูดอะไรอยู่หรือไม่”
“รู้”
กู้ชูหน่วนมองทุกคนด้วยสายตาหนักแน่น นัยน์ตาสีขาวตัดสีดำชัดคู่นั้น ฉายความมุ่งมั่นที่ไม่อาจอธิบายได้ด้วยวาจา
“ถ้าช่วยเขา ก็จะเป็นศัตรูกับแคว้นน้ำแข็งทั้งหมด” เจ้าบ้านไป๋หลี่เตือนอีกครั้ง
กู้ชูหน่วนหัวเราะเยาะ มีความดูแคลนอยู่ในสายตา “ต่อให้เป็นศัตรูกับใต้หล้าแล้วอย่างไร ข้าจะคุ้มครองผู้ชายคนนี้”
เมื่อได้ยินว่า ‘ข้าจะคุ้มครองผู้ชายคนนี้’ แล้ว หนุ่มน้อยก็เงยหน้าขึ้นพรึบ นัยน์ตาข้างหนึ่งสีฟ้า ข้างหนึ่งสีม่วงที่สับสนคู่นั้นมองกู้ชูหน่วนด้วยความตะลึง
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าแม้อัปลักษณ์ แต่หนุ่มน้อยกลับรู้สึกคุ้นเคยผิดปกติ
แค่แวบตาเดียว เขาก็เชื่อถือนางทั้งกายและใจ ความเชื่อถือชนิดนี้ราวกับมาจากไขกระดูกจิตวิญญาณ
หนุ่มน้อยเปิดปากแห้งแตกเล็กน้อย โพล่งปากออกมา “พี่สาว…”
เสียงของเขาใสแววเหมือนกับดวงตาของเขา แต่กลับพกพาความหลงใหลนิดๆ น่าฟังอย่างที่อธิบายไม่ถูก
กู้ชูหน่วนอึ้ง จิตวิญญาณรู้สึกเจ็บแปลบอย่างหนักโดยไม่มีสาเหตุ
พี่…พี่สาว…
คือใคร…
คือใครที่เคยเรียกนางอย่างนี้
กู้ชูหน่วนหันไปมองหนุ่มน้อยที่ผมเผ้ารุงรัง หน้าตามอมแมมตรงหน้า เอ่ยถาม “เมื่อกี้เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ”
“พี่สาว…อาโม่เรียกท่านอย่างนี้ได้หรือไม่”
“เจ้าชื่ออาโม่?”
อาโม่…
เหมือนว่านางเคยได้ยินชื่อนี้จากที่ไหนมาก่อน…
“ไม่…ไม่รู้”
ดวงตาสับสนของหนุ่มน้อยสับสนมากกว่าเดิม
เขาไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองชื่ออะไร และไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครด้วย
สมองเขาว่างเปล่า จำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น
“แล้วทำไมเมื่อกี้เจ้าเรียกตัวเองว่าอาโม่ล่ะ”
หนุ่มน้อยส่ายหน้า แค่เขาคิด ก็จะเจ็บศีรษะอย่างหยุดไม่อยู่
กู้ชูหน่วนไม่สนใจความสกปรกบนตัวเขา ครั้นพลิกมือ มีดสั้นก็ปรากฏอยู่ตรงฝ่ามือตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้
และไม่รู้ว่านางเคลื่อนไหวอย่างไร เฉือนเชือกที่มัดหนุ่มน้อยเป็นเศษยุ่ยแล้ว
นางประคองศีรษะของเขา เอ่ยเสียงนุ่มนวล “คิดไม่ออกก็ไม่ต้องคิดแล้ว ต่อไปพี่สาวจะอยู่เป็นเพื่อนเจ้า เจ้าจะไม่โดดเดี่ยวอีก”
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตนเองก็สูญเสียความทรงจำ มีหัวอกเดียวกับเขาหรืออย่างไร นางจึงอยากปกป้องผู้ชายที่อยู่ตรงหน้ามากกว่าเดิม
ประเดี๋ยวหนุ่มน้อยหัวเราะอย่างโง่งมฮี่ๆ ประเดี๋ยวก็น้ำตาไหลริน สุดท้ายก็แอบอิงอยู่กับตัวกู้ชูหน่วน ซบศีรษะน้อยๆ ของตัวเองกับหน้าอกของนาง ถูไถไม่หยุด
“พี่สาวของข้าจะปกป้องข้า ต่อไปอาโม่ไม่กลัวอะไรอีกแล้ว”
กู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว
ที่นางขมวดคิ้วไม่ใช่เพราะเขาซบนางด้วยเนื้อตัวสกปรก
และไม่ใช่เพราะเขาทำตัวสนิทสนมด้วย
แต่เป็นเพราะ…
หนุ่มน้อยตรงหน้ากลับเป็น…คนโง่งม…
จากความทรงจำในใจของนาง ผู้ชายอย่างนี้ไม่ควรเป็นคนโง่งม
หากจะใช่ อย่างมากก็แค่คนหลงทิศหรือมีความคิดผิดแผกจากคนอื่นเท่านั้น
แต่ตอนนี้…
นางรู้สึกได้อย่างชัดเจน ผู้ชายคนนี้ปราศจากเล่ห์เหลี่ยม อีกทั้งสมองก็ไม่ค่อยปกติ…
กู้ชูหน่วนยื่นมือลูบแผ่นหลังเขาเบาๆ
“ต่อไปพี่สาวจะไม่ให้ใครรังแกเจ้าอีก”
“อื้ม…”
ซือโม่เฟยกรอบตาแดง
ซบแอบอิงอยู่ในอ้อมอกของกู้ชูหน่วน สูดกลิ่นของนางอย่างละโมบ เนิ่นนานก็ไม่ยอมปล่อย
การที่เขาได้กอดผู้หญิงตรงหน้า ก็ราวกับได้กอดโลกทั้งใบ