อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1139 ร้ายกาจ
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1139 ร้ายกาจ
“อ้า…”
ไป๋หลี่หยุนเยว่หวีดร้องเสียงหนึ่ง ดวงตาทั้งสองถูกอาวุธลับของกู้ชูหน่วนแทงทะลุ กลายเป็นคนตาบอดไปในทันที
เขาหลบหลีกอาวุธลับของกู้ชูหน่วนได้แล้ว แต่กลับคิดไม่ถึงว่าอาวุธลับจะมีไส้ใน และร้ายกาจยิ่งกว่าอาวุธลับเปลือกนอกหลายเท่า
ครั้นทุกคนเห็นไป๋หลี่หยุนเยว่หวีดร้องเสียงหลง ก็อดขนลุกขนพองไม่ได้
“โครม…”
เมื่อตระกูลไป๋หลี่สูญเสียอาวุโสไปหลายคน ความเดือดดาลของเจ้าบ้านไป๋หลี่ก็ถูกกระตุ้นจนถึงขีดสูงสุด
แม้กู้ชูหน่วนจะหลบการโจมตีได้หนหนึ่ง แต่เขาก็ไม่คิดจะปล่อยนาง บีบนางด้วยกระบวนท่าพิฆาตติดต่อกัน
ระดับห้าขั้นสูงต่างชั้นกับระดับสี่ขั้นต้นโดยสิ้นเชิง
เจ้าบ้านไป๋หลี่ตีประชิดเนืองๆ แต่ละกระบวนท่าล้วนถึงที่ตาย ครั้นทุกกระบวนท่าปล่อยออกมา ล้วนเป็นการทำลายล้างทั้งสิ้น
กู้ชูหน่วนรู้ว่าหากยังฝืนรับมือจะไม่เป็นผลดีต่อนาง จึงได้แต่ใช้วิชาตัวเบาขั้นสูง ใช้อ่อนสลายแข็ง
ด้วยความต่างชั้นของพลัง ทุกครั้งขณะที่เจ้าบ้านไป๋หลี่กำลังจะสังหารนาง กู้ชูหน่วนก็มักหลบหลีกได้อย่างปราดเปรียวเสมอ
หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง…
ทุกครั้งล้วนขาดไปอีกนิด…
คนจำนวนมากในงานดูจนลุ้นแทนกู้ชูหน่วน
แต่ก็มีคนจำนวนมากที่ร้อนใจแทนเจ้าบ้านไป๋หลี่เหมือนกัน
ต่อหน้าธารกำนัล เขาผู้เป็นถึงเจ้าบ้าน แต่กลับทำอะไรเด็กเมื่อวานซืนระดับสี่ขั้นต้นคนหนึ่งไม่ได้ เจ้าบ้านไป๋หลี่รู้สึกขายหน้านัก
สองมือของเขาทำมุทราชี้ขึ้นฟ้า ล่อสายฟ้าลงมาครอบตัวของกู้ชูหน่วนเอาไว้
คิดใช้สายฟ้าผ่านางโดยตรง
เมื่อถูกปกคลุมด้วยสายฟ้า ต่อให้เป็นระดับหกก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงระดับสี่
ทุกคนตระหนัก เจ้าบ้านไป๋หลี่ตัดสินใจสังหารนาง
แม้จอมมารจะไม่มีวิทยายุทธ์ แต่กลับเห็นทุกอย่างกระจ่างแจ้ง และรู้ว่ากู้ชูหน่วนไม่อาจหลบกระบวนท่านี้ได้ เขาออกท่าตามการตอบสนองแบบมีเงื่อนไข ปล่อยดอกลำโพงออกมา
แต่น่าเสียดาย…
เขาออกท่าแล้ว
แต่ไม่มีดอกไม้อะไรออกมาทั้งนั้น
และไม่เกิดอะไรขึ้นด้วย
ได้แต่ตะโกนเรียกด้วยความร้อนรน “พี่สาว…”
ครั้นกู้ชูหน่วนผิวปาก ก็ไม่รู้ว่าอสรพิษสารพัดมุดออกมาจากแห่งหนใด
พออสรพิษเหล่านี้ออกมาก็โจมตีคนของพรรคต่างๆ
โดยเฉพาะกับเจ้าบ้านไป๋หลี่
สถานการณ์ชุลมุนวุ่นวายอีกครั้ง
กู้ชูหน่วนฉวยโอกาสที่มีคนบังฉุดจอมมารแล้วหนีออกไป
เจ้าบ้านไป๋หลี่ใช้กำลังภายในสะเทือนอสรพิษเหล่านั้นตาย แล้วกระตุ้นกำลังภายในไปทางกู้ชูหน่วนที่อยู่ไกลๆ
เขาตวาด “ตาม…”
เมื่อนั้นก็มีคนไม่น้อยตามไป
แต่ก็มีอีกจำนวนมากที่อยู่สู้กับพวกจ่านเฟิงต่อ
ที่จุดไกลๆ
ไม่รู้ว่ากู้ชูหน่วนพาจอมมารวิ่งอ้าวไปไกลเท่าใดจึงหยุด
นางกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง
“พี่สาว ท่านบาดเจ็บหรือ”
กู้ชูหน่วนปาดฟองเลือดที่อยู่ตรงมุมปาก คลี่รอยยิ้มด้วยใบหน้าซีดเซียว
“ตาแก่นั่นวิทยายุทธ์สูงเกินไป ข้าต้องพยายามต่อถึงสู้กับเขาได้”
“เดี๋ยวพวกเขาก็จะไล่มาแล้ว อาโม่ เจ้าตามงูเล็กพวกนี้ไปจากที่นี่ก่อน”
“ไม่ อาโม่จะอยู่กับพี่สาว”
“ข้าคนเดียวยังพอสลัดตัวจากพวกเขาได้ แต่ถ้าพาเจ้าไปด้วย พวกเราจะรอดยากนะ”
จอมมารกอดเอวบางของนางอย่างเอาแต่ใจ จะพูดอย่างไรก็ไม่ยอมจาก
“ตัวอัปมงคล เจ้าจะหนีไปไหน”
เสียงกร้าวหนึ่งดังขึ้น
กู้ชูหน่วนหันไป พบว่าคนจากสำนักใหญ่ตามมาแล้ว
“พวกเจ้าก็เร็วจริงนะ”
“เฮอะ พรรคเฉิงเทียนเชี่ยวชาญวิชาสะกดรอยมากที่สุด ขอเพียงเป็นคนที่พวกเราต้องการตามหา ต่อให้มันหนีไปสุดหล้าฟ้าเขียว พวกเราก็ตามเจอได้อยู่ดี”
“ล้วนบอกว่าคนชั่วมักจับกลุ่มรวมกัน” กู้ชูหน่วนหัวเราะเยาะ
นางบาดเจ็บ แต่ยังสามารถผยองได้ถึงเพียงนี้ คนของพรรคเฉิงเทียนหรือจะทนต่อไปได้