อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1153 ข้อแลกเปลี่ยน (ต้น)
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1153 ข้อแลกเปลี่ยน (ต้น)
กู้ชูหน่วนงึมงำเล็กน้อย แต่แล้วก็พยักหน้า “ข้ารับปากก็ได้ แต่ข้าฆ่านังคนเดียวไม่ได้ เจ้าต้องช่วยข้าก่อน”
“ว่ามา”
“ข้อแรก ช่วยข้าถอนพิษกู่สองคนก่อน ช่วยพวกเขาออกมา”
“สองคนไหน”
“ฝูกวงกับเลว่อิ่ง ตอนนี้พวกเขาถูกขังอยู่ในวังแคว้นน้ำแข็ง
เมื่อได้ยินชื่อฝูกวงและเลว่อิ่งสองคนนี้ ดวงตาอ่อนโยนของเวินเส้าหยีก็มีเจตนาสังหารปราดผ่านเล็กน้อย
กู้ชูหน่วนอึ้ง
นางควรคิดได้แต่แรก
ว่าเวินเส้าหยีมีความสัมพันธ์ซับซ้อนกับพวกเซียวหยู่เซวียนและเย่จิ่งหาน
ฝูกวงและเลว่อิ่งใส่ใจเย่จิ่งหานขนาดนั้น
ระหว่างพวกเขาต้องมีความเกี่ยวข้องกันแน่
นางไม่เข้าใจ ด้วยฝีมือของเวินเส้าหยี ต่อให้เป็นราชินีแค่วางแผนให้เหมาะสม ก็ใช่จะกำจัดราชินีไม่ได้
แต่เวินเส้าหยีกลับมาหานาง
ทั้งยังมาตามลำพัง
ถ้านางเดาไม่ผิด น่าจะเป็นเขาเองที่ต้องการฆ่าราชินีไม่ใช่ตระกูลเวินอยากฆ่าราชินี
ดังนั้น…เขาจึงมาหานางโดยไม่ให้คนอื่นๆ ของตระกูลเวินรู้
“ยังไม่ต้องพูดว่าราชินีมีฝีมือถึงระดับไหน แค่ว่านางมียอดฝีมืออยู่ข้างกายมากมาย แถมยังเป็นคนที่กุมอำนาจสูงสุดของแคว้นน้ำแข็ง คิดฆ่านางมีหรือจะง่าย ข้าคงดาหน้าไปฆ่านางมือเปล่าไม่ได้ ข้าอยากได้ผู้ช่วยสองคน คงไม่เกินไปกระมัง”
“ได้”
ใบหน้าเวินเส้าหยีแขวนสัญญาณอันตรายเล็กน้อย
แม้จะตกลง แต่ถ้อยคำของเขาก็ทำให้คนอดครั่นคร้ามไม่ได้
กู้ชูหน่วนรู้ หลังจากราชินีตาย เวินเส้าหยีต้องไม่ปล่อยฝูกวงกับเลว่อิ่งแน่
ช่างเถอะ จัดการเรื่องตรงหน้าก่อนแล้วค่อยว่ากันเถอะ
“แม่หนอนกู่อยู่ในร่างเสด็จอา คิดจะขจัดพิษหนอนกู่ มีแต่ต้องฆ่าเสด็จอาก่อน แต่ความต้องการของข้าคือ เสด็จอาจะตายไม่ได้”
“เผ่าเทียนเฟิ่นย่อมมีเวทมนตร์ขจัดวิชาพิษกู่”
เผ่าเทียนเฟิ่น?
หือ…
ดั่งคาด ตระกูลเวินเป็นแค่ฐานะและอิทธิพลภายนอกเท่านั้น
เผ่าเทียนเฟิ่นถึงจะเป็นของจริงกระมัง
เวินเส้าหยีหัวเราะเย็น “เหอะ…ให้หยางโม่ขึ้นเป็นฮ่องเต้? ทำไมเจ้าไม่ให้ตัวเองขึ้นเองเล่า”
“ข้าก็อยากเหมือนกัน แต่ข้าไม่ใช่คนในราชวงศ์สักหน่อย คนทั่วแผ่นดินใครจะยอมสวามิภักดิ์ข้า”
“ตระกูลเวินไม่ยุ่งเรื่องราชสำนัก”
“ตระกูลเวินไม่ยุ่ง แต่เผ่าเทียนเฟิ่นยุ่งนี่ อีกอย่าง พอราชินีตายแล้ว ถ้ามีทรราชขึ้นมาอีกคนล่ะ เจ้ายังมิต้องเปลืองแรงกำจัดอีกหรือ มิสู้ทำให้ดีรอบเดียวไปเลย”
“หยางโม่ให้ผลประโยชน์อะไรแก่เจ้า ถึงทำให้เจ้าวางแผนช่วยเขาเช่นนี้”
“ไม่มีอะไรเลย แค่เห็นเขานิสัยไม่เลว เป็นฮ่องเต้แล้วน่าจะไม่ผิดต่อประชาชนเท่านั้น”
“แคว้นน้ำแข็งมีแต่ฮ่องเต้ที่เป็นผู้หญิง ไม่มีฮ่องเต้ที่เป็นผู้ชาย หยางโม่ไม่มีโอกาสนั้น”
กู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว “กฎเกณฑ์คือของตาย คนคือของเป็น”
“ฟังได้ดี ตระกูลเวินไม่ยุ่งราชสำนัก ใครจะเป็นฮ่องเต้ก็ไม่เกี่ยวกับพวกเรา
“เจ้าอยากให้แคว้นน้ำแข็งอยู่ไม่เป็นสุขหรือ”
“…”
เวินเส้าหยียืนกราน ไม่เปิดให้ต่อรองแม้แต่น้อย
ทีแรกกู้ชูหน่วนยังอยากหยั่งเชิงเขา
แต่พอดูตอนนี้แล้ว เวินเส้าหยีไม่สนใจบัลลังก์สักนิด
ดูท่าเขาคงอยากแค่ฆ่าราชินีเท่านั้น
เขาไม่สนใจว่าใครจะเป็นฮ่องเต้แคว้นน้ำแข็ง
“ช่างเถอะ เรื่องนี้ไว้ค่อยว่ากัน เงื่อนไขข้อที่สามคือ ปล่อยอาโม่ ไม่หาเรื่องเขาอีกตลอดไป”
“มู่หน่วน ข้อเรียกร้องของเจ้ามากจริงนะ”
“ข้ายังจะกำจัดตระกูลไป๋หลี่ให้เจ้าด้วย”
“ตระกูลไป๋หลี่ทำไม เกี่ยวอะไรกับข้า”
“แน่นอนว่าเกี่ยว ไม่กำจัดตระกูลไป๋หลี่ แล้วจะเอาวิญญาณดวงนั้นมาได้อย่างไร”
ไม่รอให้เวินเส้าหยีกล่าว กู้ชูหน่วนก็แย่งพูดก่อน “ข้ารู้ว่าด้วยฝีมือของเจ้า คิดจะกำจัดตระกูลไป๋หลี่นั้นง่ายมาก แต่ตระกูลไป๋หลี่ก็มียอดฝีมือไม่น้อย เจ้าคิดจะกำจัดพวกเขายังต้องเปลืองแรงอีกหน่อย ที่สำคัญที่สุดคือ กระดาษห่อไฟไม่อยู่ เจ้าทำลายตระกูลไป๋หลี่ ช้าเร็วคนใต้หล้าก็ต้องรู้ว่าเป็นฝีมือพวกเจ้า ถึงตอนนั้น ชื่อเสียงตระกูลเวินคงจะไม่ค่อยดีกระมัง”
“ข้าไม่เพียงกำจัดตระกูลไป๋หลี่ทั้งหมดได้ ยังจะเอาวิญญาณที่ซ่อนอยู่ในตระกูลไป๋หลี่มาได้ด้วย”