อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1178 ยืมมือคนอื่นฆ่าคน
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1178 ยืมมือคนอื่นฆ่าคน
กู้ชูหน่วนหัวเราะอย่างเย็นชา “ไม่ว่าข้าจะให้อยู่หรือไม่ให้อยู่ ปมความแค้นระหว่างพวกเราก็ได้เกิดขึ้นมานานแล้ว”
ฝีเท้าของเจ้าบ้านไป๋หลี่ชะงักลง หันกลับมามองกู้ชูหน่วนด้วยดวงตาที่เหมือนพยับเมฆมืดครึ้ม
“ก็จริง ไม่ว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ ปมความแค้นระหว่างพวกเราก็ไม่มีทางแก้ไขได้แล้ว เจ้าบ้านเวิน นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของข้ากับนาง ตระกูลเวินของพวกท่านคงจะไม่ก้าวก่ายหรอกนะ?”
ไม่รอให้เวินเส้าหยีพูด กู้ชูหน่วนก็แย่งพูดขึ้นก่อน “เจ้าบ้านเวินจะต้องก้าวก่ายเป็นแน่ หากว่าพวกเขาไม่ก้าวก่ายก็จะคงไม่ส่งคนไปขัดขวางพรรคต่างๆที่มาเป็นกองหนุนให้ตระกูลไป๋หลี่ระหว่างทางแล้ว”
ประโยคเดียว เป็นการถ่วงเวินเส้าหยีลงน้ำไปโดยตรง
กู้ชูหน่วนกล่าวต่อ “อีกทั้ง….หากปราศจากความช่วยเหลือของเจ้าบ้านเวิน พวกเราจะสามารถพุ่งตรงเข้ามายังจุดมุ่งหมายบุกโจมตีเข้ามาที่ส่วนลึกของตระกูลไป๋หลี่ ทั้งยังสังหารสุดยอดผู้อาวุโสที่มีศักยภาพแข็งแกร่งเป็นที่สุดในตระกูลไป๋หลี่ของพวกเจ้าได้อย่างไรกัน”
เดิมทีเจ้าบ้านไป๋หลี่คิดจะเพิกเฉยต่อเรื่องชั่วร้ายทั้งหมดที่เวินเส้าหยีได้กระทำต่อตระกูลไป๋หลี่ของพวกเขา
แต่ตอนนี้กู้ชูหน่วนกลับเอ่ยขึ้นมาเช่นนี้
เขาในฐานะที่เป็นเจ้าบ้านของตระกูลไป๋หลี่ ทั้งยังเป็นขั้นต้นระดับหก ที่อยู่อย่างสูงส่งมาโดยตลอด จะทนรับการหยามเกียรติเช่นนี้ได้อย่างไร
ในสถานที่ไกลๆเปลวไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า เสียงของการฆ่าฟันยังคงดังอยู่ไม่หยุด ปลายจมูกอบอวลไปด้วยกลิ่นคาวเลือด
นึกถึงรากฐานที่มั่นคงมาเกือบพันปีของตระกูลไป๋หลี่ที่ถูกทำลายล้างไปเช่นนี้ ไป๋หลี่ป้ายอมไม่ได้จริงๆ
เขากัดฟัน
ช่างเถอะ
สิ้นตระกูลไป๋หลี่แล้ว แม้ว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปก็ไร้ความหมาย
ยิ่งไปกว่านั้นตระกูลเวินก็ยังยืนกรานที่จะอยู่ฝ่ายนางขนาดนี้อีก อนาคตก็คงจะไม่ปล่อยเขาไว้เป็นแน่
ฉวยโอกาสตอนนี้ที่เวินเส้าหยีบาดเจ็บสาหัส ต่อสู้อีกสักครั้งยังจะดีซะกว่า
เพียงแค่เวินเส้าหยีตาย เขาก็ยังสามารถคิดหาวิธีเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์กับตระกูลเวินได้อีก
กระทั่งยังสามารถเอาวิญญาณดวงนั้นและดอกบัวศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสีมา แล้วก้าวเข้าสู่ขั้นสูงสุดระดับหก กระทั่งถึงระดับเจ็ดก็เป็นไปได้
เมื่อคิดเช่นนี้ เจ้าบ้านไป๋หลี่ก็ไม่มีความคิดว่าจะจากไปสักนิด กลับก้าวเข้ามาด้านหน้าทีละก้าวๆ กล่าวอย่างเย็นชาว่า “เจ้าบ้านเวิน ตระกูลไป๋หลี่ของพวกเราไม่ได้ตั้งใจจะเป็นศัตรูกับพวกท่าน แต่ผู้หญิงคนนี้สังหารคนในตระกูลของข้า ทำลายบ้านของข้า หากไม่จัดการนาง ข้าก็เป็นหัวหน้าตระกูลไป๋หลี่ที่ไม่ได้เรื่อง”
“หากว่าเจ้าบ้านเวินไม่เข้ามาแทรกแซง แน่นอนว่าตระกูลไป๋หลี่ของพวกเราจะรู้สึกซาบซึ้ง หากว่าเจ้าบ้านเวินยังดึงดันที่จะช่วยนาง เช่นนั้นแม้ว่าข้าจะสู้ด้วยชีวิตนี้ ก็จะสู้กับพวกท่านจนถึงที่สุด”
เวินเส้าหยีฝืนบังคับให้จิตใจมั่นคง กำลังคิดจะเอ่ยปาก แต่กู้ชูหน่วนก็ไม่ให้โอกาสเขา แย่งพูดก่อนอีกครั้ง
“เจ้าบ้านเวินก็ไม่ได้โง่ วันนี้เขาฆ่าสุดยอดผู้อาวุโสของพวกเจ้าตระกูลไป๋หลี่ไป หากว่าตระกูลไป๋หลี่ของพวกเจ้าไม่ถูกทำลายไปในวันนี้ วันหน้าก็จะต้องแก้แค้นเขา จะบอกความจริงกับเจ้าละกัน ที่ข้ากล้าบุกโจมตีเข้ามาที่ตระกูลไป๋หลี่ นั่นก็เป็นเพราะเบื้องหลังของข้ามีเจ้าบ้านเวินคุ้มอยู่”
ความหมายในคำพูดของกู้ชูหน่วนคือ นางสังหารตระกูลไป๋หลี่ เพราะทำตามคำสั่งของเวินเส้าหยี
เวินเส้าหยีกุมขมับ
ที่ควรพูด ไม่ควรพูด นางล้วนพูดออกมาหมดแล้ว
แม้ว่าเขาจะเปิดปากอธิบาย ก็ไร้ประโยชน์
ยิ่งไปกว่านั้น…
เขาฆ่าไป๋หลี่หมิงเยียนก็เป็นความจริง
หากไม่ใช่เพราะเขาบาดเจ็บสาหัส ไป๋หลี่ป้าเขาก็คงจะไม่ปล่อยไว้
ไป๋หลี่ป้ามองไปทางเวินเส้าหยีด้วยสีหน้าดุร้าย แรงอาฆาตแวบผ่านไป เอ่ยถามว่า “เจ้าบ้านเวิน นังเด็กนี่พูดจริงหรือ?”
“ข้าต้องการเพียงแค่วิญญาณดวงนั้น ความแค้นส่วนตัวระหว่างพวกท่านไม่เกี่ยวข้องกับข้า”
“เกรงว่าคงจะไม่เป็นไปตามที่ท่านปรารถนาแล้ว” ไป๋หลี่ป้าตั้งท่าการต่อสู้ ลูกบอลไฟลูกเล็กๆผุดขึ้นเหนือศีรษะเป็นกลุ่มก้อนๆ
ลูกบอลไฟเดือดพล่าน ระอุเป็นควันสีฟ้าออกมา และไม่รู้ว่าเป็นไฟอะไรกันแน่
เวินเส้าหยีส่งสายตาให้กู้ชูหน่วน บอกใบ้นาง ก่อปัญหาขึ้นเองก็แก้ไขเอง
กู้ชูหน่วนผายมือทั้งสองข้างออก ผลักภาระไปโดยตรง “ระดับหกนะ ข้าเป็นแค่ระดับสี่ตัวเล็กๆจะสู้ได้ยังไง อีกอย่างข้ายังบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้อีก เจ้าผีเสื้อ เจ้าเป็นขั้นสูงสุดระดับหก ความสามารถสูงส่งแข็งแกร่ง แน่นอนว่าต่อกรกับขั้นต้นระดับหกก็ไม่มีอะไรให้เอ่ยถึง มอบเขาให้เจ้า ข้าไม่แย่งกับเจ้าแล้ว”