อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1180 ฆ่าล้างตระกูล
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1180 ฆ่าล้างตระกูล
“ไม่เป็นไร แค่ข้ารู้ว่า ท่านเป็นหนึ่งในฆาตกรที่ฆ่าล้างทั้งตระกูลมู่ของข้าก็เพียงพอแล้ว”
ไป๋หลี่ป้ากุมหน้าอก พยายามอดทนต่อความเจ็บปวดอย่างสุดชีวิต มองไปทางกู้ชูหน่วนกับเวินเส้าหยีและคนอื่นๆด้วยความเหยียดหยาม หัวเราะด้วยความเย้ยหยัน “อาศัยแค่พวกเจ้าสามคน ก็คิดจะฆ่าข้า?”
“นอกจากอาโม่ พวกเราสามคนก็ล้วนได้รับบาดเจ็บสาหัส ต่างฝ่ายก็ไม่ต่างกัน ข้าและเจ้าผีเสื้อสองคน จะยังจัดการท่านไม่ได้อีกงั้นเหรอ”
“หึ…เจ้าแน่ใจหรือว่าเขายังมีความสามารถที่ยังจะต่อสู้ได้อีก?”
“ไป๋หลี่ป้า ท่านลืมไปแล้วหรือว่า แมงมุมพิษของท่านยิ่งเคลื่อนไหวมากเท่าไหร่ สารพิษก็จะยิ่งแพร่กระจายเร็วขึ้น และแทรกซึมลึกเข้าไปยิ่งขึ้น หากข้าเป็นท่าน ข้าจะนั่งลงอย่างเชื่อฟังไม่เคลื่อนลมปราณ และไม่เคลื่อนไหวมั่วซั่ว ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จะได้รักษาชีวิตน้อยๆไว้”
“เด็กน้อยไร้ความรู้ แมงมุมพิษเป็นสิ่งที่ข้าทำขึ้นเป็นพิเศษ แม้ว่าเจ้าจะดัดแปลงสูตรพิษ มันก็ยังคงเป็นสิ่งที่ข้าสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ คิดจะจัดการข้าโดยอาศัยเพียงแค่สิ่งนี้ ช่างไร้เดียงสาเกินไปหน่อยแล้ว”
ไป๋หลี่ป้าไม่คำนึงถึงชีวิต ฝืนเคลื่อนลมปราณขึ้น ตั้งใจจะบีบคั้นใยแมงมุมทั้งหมดออกไปจากร่างกาย
คิดไม่ถึง เขากระอักเลือดออกมาอีกรอบ
พิษร้ายร้ายแพร่กระจายเร็วขึ้น ไม่ว่าเขาจะปิดผนึกจุดฝังเข็มใหญ่ในเวลาอันสั้นอย่างไรก็ไร้ประโยชน์ สารพิษแพร่กระจายไปยังกระแสเลือด แพร่กระจายไปยังเอ็นและกระดูก กระทั่งแพร่กระจายไปยังหัวใจโดยตรง
เขาเข้าใจในพิษ แต่กลับไม่เคยเห็นพิษที่แข็งแกร่งเพียงนี้ และแพร่กระจายได้เร็วเพียงนี้
ไป๋หลี่ป้าโกรธจนเลือดขึ้นหน้า “นังหนู คิดจะฆ่าข้า เจ้ายังเด็กเกินไปหน่อยแล้ว”
“ย้า…”
ไป๋หลี่ป้าเบิดเสียงคำรามออกมา ภายในร่างกายแผ่สะท้อนกระจายรังสีสีแดงเลือดขนาดใหญ่ออกมา
จากนั้นใยแมงมุมก็ถูกสะเทือนออกจากร่างกายของเขาทีละเส้นๆทันที
“ข้าก้าวเข้าสู่ระดับหกแล้ว ไม่ว่าพิษของเจ้าจะทรงพลังเพียงใด เพียงแค่ให้เวลาข้าเล็กน้อย ข้าก็สามารถยับยั้งไว้ได้ชั่วคราว คิดจะฆ่าข้า ฝันไปเถอะ”
กู้ชูหน่วนยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มอ่อนๆอันโหดร้าย
ไม่ตอบจาวาของไป๋หลี่ป้า แต่กลับผิวปากครั้งหนึ่ง
เสียงผิวปากดังขึ้น แสงของมีดและดาบแฉลบผ่านทันที เงาคนสองร่างปรากฏขึ้นอย่างฉับพลันเหมือนดั่งปีศาจร้ายเช่นนั้น
ทันทีที่ปรากฏตัวขึ้น ปราณมีดและปราณดาบอันเฉียบคมก็พุ่งสังหารไปทางไป๋หลี่ป้า
มีดรวดเร็วแล้ว ดาบรวดเร็วยิ่งกว่า ที่สำคัญคือร่วมมือกันได้อย่างลงตัว
ไป๋หลี่ป้าตกใจทันที กระโดดขึ้น หลีกเลี่ยงพลังการร่วมมือกันสังหารของมีดและดาบ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโดนพิษจึงทำให้อาการบาดเจ็บรุนแรงขึ้น หรือว่าความเร็วของมีดและดาบรวดเร็วมากเกินไปจนไป๋หลี่ป้าไม่ทันสังเกต บนตัวถูกฟันไปหลายมีด เลือดสีแดงสดไหลลงมาช้าๆ
“มีดและดาบช่างรวดเร็วนัก….”
อึดใจเดียว หลังจากที่ไป๋หลี่ป้าได้ประมือกับมีดและดาบไปหลายสิบรอบแล้วจึงได้พบว่า คนที่ใช้มีดและดาบนั้นเป็นชายหนุ่มสองคน
คนหนึ่งเย็นชาจนไร้ไออุ่น เหมือนเครื่องจักรสังหารคนเช่นนั้น รู้จักแต่จะฆ่าฆ่าฆ่า
เขาเป็นเหมือนผู้ที่เกิดมาเพื่อเป็นนักฆ่า แต่ละมีดถึงแก่ชีวิต ทำให้คนไม่มีทางจะหลบหลีกได้
คนหนึ่งหน้าตาอ่อนเยาว์ อายุยังน้อย และค่อนข้างไร้เดียงสาไม่มีพิษมีภัย แต่การลงมือนั้นไม่ได้เบาไปกว่าชายหนุ่มผู้เย็นชาคนนั้นสักนิด กลับยังโหดเหี้ยมซะยิ่งกว่า
“ขั้นสูงสุดระดับห้า…”
คิดไม่ถึงว่าจะเป็นขั้นสูงสุดระดับห้า…..
ยังเป็นชายหนุ่มอายุน้อยขนาดนี้ก็ถึงขั้นสูงสุดระดับห้าแล้ว…
“ซือซือซือ…”
บนร่างถูกฟันไปอีกหลายมีด
ไป๋หลี่ป้าระเบิดเสียงคำรามด้วยความเจ็บปวดเสียงหนึ่ง ก้มลงไปมอง เนื้อทั้งหมดตรงน่องขวาของตัวเขาเองถูกเฉือนออก เหลือเพียงแค่โครงกระดูกโครงหนึ่ง
หากไม่ใช่เพราะเขาถือสิ่งของค้ำยันไว้ ก็คงจะคุกเข่าลงไปนานแล้ว
มีดดาบของฝูกวงเลว่อิ่งแวบผ่าน ยังคิดอยากจะฆ่าเขา
กู้ชูหน่วนทำท่าทางให้หยุด ทั้งสองคนก็หยุดฝีเท้าในพริบตา
กู้ชูหน่วนกล่าวขึ้นอย่างเย็นชาอีกครั้ง “ฆ่าล้างตระกูลมู่ของข้ายังมีผู้ใดอีก”
“เจ้าเลิกคิดว่าจะรู้ไปได้เลย”
แววในดวงตาของกู้ชูหน่วนดุร้ายขึ้นทันที
เลว่อิ่งเข้าใจความหมาย ขณะที่แสงของมีดกวาดไป ผิวหนังที่มือซ้ายของไป๋หลี่ป้าก็ถูกเฉือนเป็นชิ้นๆ เจ็บปวดจนเขากรีดร้องอย่างน่าอนาถ
“มู่หน่วน…..เจ้านังเด็กสารเลว….ข้าจะฆ่าเจ้า…..อ้า….”
ไม่รอให้ไป๋หลี่ป้าลงมือ ดาบของฝูกวงสาดแสง ขาซ้ายของไป๋หลี่ป้าก็ถูกฟันไปอีกหลายมีด
เนื้อที่ข้างหนึ่งถูกเฉือน ขาอีกข้างหนึ่งก็ถูกฟันไปไม่รู้กี่ดาบ ไป๋หลี่ป้ายืนหยัดไม่ไหวอีกต่อไป คุกเข่าลงไปตรงนั้น
“หากท่านบอกมาดีๆ บางทีข้าอาจจะให้เจ้าตายแบบสบายๆ หากว่าท่านยืนกรานว่าจะไม่พูด ข้ารับรองว่าท่านจะรู้สึกเสียใจที่ได้มาถึงโลกใบนี้อย่างแน่นอน”
ไป๋หลี่ป้ายังคงยืนกรานที่จะสู้กลับ แต่ทำอะไรไม่ได้ไม่รู้ว่าทำไมร่างกายถึงได้แข็งทื่อไปเรื่อยๆ แข็งจนเขาไม่มีแม้แต่แรงจะยกมือ ความรู้สึกประเภทนี้เหมือนถูกเยือกแข็งมานับร้อยปี
“หึ…ไม่ต้องดิ้นรนแล้ว ท่านคิดว่าท่านโดนเพียงแค่พิษร้ายและแมงมุมงั้นหรือ? ข้าเพิ่มยาชนิดหนึ่งเข้าไปด้านใน เป็นยาชนิดที่สามารถทำให้ร่างกายของคนขยับเขยื้อนไม่ได้ ยาชนิดนี้ไม่ต้องเอ่ยถึงระดับหก แม้ว่าจะเป็นขั้นสูงสุดระดับหก ก็ยากที่จะทำลายได้”
“อีกอย่าง…ท่านก็เป็นเพียงแค่ขั้นต้นระดับหกที่บาดเจ็บสาหัสและโดนยาพิษเท่านั้น…”
ไป๋หลี่ป้ารู้สึกท้อใจ คิดไม่ถึงว่าตัวเองที่เป็นถึงเจ้าบ้านของตระกูลผู้สูงส่ง จะตกอยู่ในเงื้อมมือของนังเด็กผู้หญิงที่เขาดูถูกดูแคลนเป็นที่สุดจริงๆ
ไป๋หลี่ป้ามองไปทางเสียงร้องตะโกนฆ่าฟันกันที่ค่อยๆทุ้มต่ำลงไปในที่ไกลๆ ในจิตใจยังมีความหวังอยู่เล็กน้อย
ความหวังอันน้อยนิดที่ว่าผู้อาวุโสหรือสุดยอดผู้อาวุโสของตระกูลไป๋หลี่จะมาช่วยเขา
ในไม่ช้า ฝูกวงก็ทำลายความหวังนั่นของข้า
“แม่นางมู่ ลูกศิษย์ของตระกูลไป๋หลี่ที่ตายก็ตาย บาดเจ็บก็บาดเจ็บ ไม่มีสักคนที่รอดออกไปได้ ทั้งหมดถูกคุมตัวไว้แล้ว”
“ผู้อาวุโสและสุดยอดผู้อาวุโสเหล่านั้นก็ถูกพวกเราสังหารไปพอประมาณแล้ว เหลือเพียงไป๋หลี่เฉิงหยวนและสุดยอดผู้อาวุโสคนอื่นๆอีกไม่กี่คน แต่…..พวกเขาล้วนหนีไม่ได้แล้ว คนของพวกเราได้ล้อมรอบเขาไว้หมดแล้ว”
“ผ่านคืนนี้ไป บนโลกนี้ก็จะไม่มีตระกูลไป๋หลี่อีก”
ประโยคเดียวหลังจากคืนนี้ไป บนโลกนี้ก็จะไม่มีตระกูลไป๋หลี่อีก ทำให้สีหน้าของไป๋หลี่ป้าเขียวแล้วเขียวอีก
เขากล่าวด้วยความโกรธ “เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ตระกูลไป๋หลี่ของพวกเรามียอดฝีมือขั้นสูงสุดระดับห้ามากมายขนาดนั้น ทั้งยังมีระดับหก จนกระทั่งถึงผู้แข็งแกร่งขั้นสูงสุดระดับหกอีก จะบอกว่าแพ้ก็แพ้ได้อย่างไร”
“ให้โอกาสท่านอีกครั้ง บอกตัวฆาตกรที่ฆ่าล้างตระกูลมู่ออกมา บางทีข้าอาจจะยังไว้ชีวิตเหล่าลูกศิษย์ตระกูลไป๋หลี่เหล่านั้นของพวกท่าน”
“หากว่าท่านไม่พูด เช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้าโหดเหี้ยมอำมหิต พวกท่านสังหารทั้งตระกูลมู่ของข้ายังไง ข้าก็จะตอบสนองให้เช่นนั้น”
“มู่หน่วน เจ้านังเด็กสารเลว ข้าเป็นถึงหนึ่งในเจ้าบ้านแห่งตระกูลใหญ่สี่ตระกูล อาศัยแค่เจ้าก็คิดจะสังหารข้า หึ แม้จะตาย ข้าก็จะต้องลากพวกเจ้าไปฝังด้วยกัน”
ไป๋หลี่ป้าระเบิดร่างกายโดยตรง ปลดปล่อยพละกำลังอันทรงพลังออกมา ระเบิดไปทางกู้ชูหน่วนและคนอื่นๆ
ฝูกวงเลว่อิ่งต่างพากันตกใจ มีดดาบรวมตัวกัน ดาบชี้ไปที่ขอบฟ้า สร้างเกราะปราณพลังอันแข็งแกร่งขึ้น คุ้มกันทุกคน
แสงมีดไขว้กัน จากหนึ่งกลายเป็นสอง สองกลายเป็นสี่ สี่กลายเป็นแปด แปดกลายเป็นสิบหก…
พริบตาเดียวครึ่งหนึ่งของพื้นที่ก็แน่นขนัดไปด้วยมีดโค้งงอ
มีดโค้งงอฟันตรงไปที่ร่างศพที่ระเบิดออกของไป๋หลี่ป้า เกิดเสียงกระทบกันปึงปังปึงปังออกมา
ระหว่างที่เกิดการทำลายจนพังพินาศอย่างย่อยยับ พลังที่เหลืออยู่ในศพของไป๋หลี่ป้าก็สลายไป ศพที่เหลือถูกเลว่อิ่งทำลาย
แต่กู้ชูหน่วนและคนอื่นๆไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ
หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ผู้ผ่าเผย ไป๋หลี่ป้าหัวหน้าตระกูลไป๋หลี่ก็ตายภายใต้เงื้อมมือของกู้ชูหน่วนและคนอื่นๆเช่นนี้แล้ว
ตระกูลไป๋หลี่ได้ถูกลิขิตให้สูญสิ้นไปนับตั้งแต่บัดนี้
บนโลกนี้เหลือเพียงแค่สามตระกูลใหญ่
ชื่อเดียวของมู่หน่วน โด่งดังไปทั้งทวีปปิงหลิง
หลังจากสงครามใหญ่ กู้ชูหน่วนกุมหน้าอกด้วยความเจ็บปวด
ถูกขั้นสูงสุดระดับหกโจมตี นางบาดเจ็บไม่น้อย
ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานเพียงใดถึงจะสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้
“พี่สาว…..”
“แม่นางมู่….”
ทุกคนมองไปที่กู้ชูหน่วนด้วยความเป็นห่วง
กู้ชูหน่วนยิ้มตอบพวกเขาเล็กน้อย “ข้าไม่เป็นไร”
เปลวไฟยังคงพุ่งทะยานสู่ฟากฟ้า
กู้ชูหน่วนมองไปทางตระกูลมู่
แม้จะสังหารไป๋หลี่ป้าได้ ทำลายล้างตระกูลไป๋หลี่ได้ และนับว่าได้ล้างแค้นให้ตระกูลมู่แล้วเช่นกัน
แต่น่าเสียดาย….
นางไม่สามารถเค้นถามออกมาได้ว่ายังมีผู้ใดเป็นฆาตกรอีก