อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1182 ทำได้หรือไม่
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1182 ทำได้หรือไม่
ทันทีที่ฝ่ามือขวาของเวินเส้าหยีดูด ฝ่ามือซ้ายก็กระตุ้นเป็นละอองน้ำ ระหว่างที่ละอองน้ำแผ่คลุมอย่างหนาแน่น เขาก็แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ลงมาอย่างมั่นคงเบื้องหน้าของกู้ชูหน่วน
กู้ชูหน่วนแฉลบตัวอย่างรวดเร็ว หลบเลี่ยงละอองน้ำ
“เจ้าผีเสื้อ เจ้าช่างใจร้ายยิ่งนัก คนอื่นเขาเพิ่งจะช่วยเจ้า เจ้าไม่ขอบคุณสักคำไม่ว่า ยังคิดจะทำให้ข้าตัวเปียกเป็นลูกหมาตกน้ำอีก”
“ข้อแรก ข้าไม่ได้ให้เจ้าช่วย ข้อสอง เวลาสิบวันได้ผ่านไปแล้ว วิญญาณดวงที่ห้าและหัวของราชินีเจ้าก็เอามาไม่ได้ ข้อสาม เจ้าทำลายเรื่องสำคัญของข้า ข้อสี่ เจ้าไม่ควรไม่ควรเลยจริงๆ ไม่ควรเปลื้องเสื้อผ้าข้าอีก”
เวินเส้าหยีพูดพลาง ร่างกายก็เคลื่อนขวางไปที่เบื้องหน้าของกู้ชูหน่วนเหมือนดั่งสายลมเบาๆ บีบคอนางไว้ แรงอาฆาตในดวงตาดุดัน
กู้ชูหน่วนหายใจไม่ออกทันที นางพยายามดิ้นให้หลุดพ้นหลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถดิ้นให้หลุดได้สำเร็จ
“แค่ก…แค่กแค่ก…เมื่อครู่ข้าเพิ่งจะช่วยเจ้า เจ้าตอบ…..ตอบแทนบุญคุณด้วยความแค้น”
แรงอาฆาตของเวินเส้าหยีไม่ลดลง มองไปที่หน้าผากของนาง ในใจมีความลังเลเล็กน้อย
ผู้หญิงคนนี้สมควรตาย
ฆ่านาง ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ
แต่หลังจากฆ่านางแล้ว เกรงว่าก็คงจะยากที่จะรวบรวมวิญญาณได้อีก
เมื่อนึกถึงทุกๆเรื่องราวที่กู้ชูหน่วนกระทำต่อเขา เวินเส้าหยีก็ยากที่จะโน้มน้าวให้ตัวเองไว้ชีวิตนาง
ฝ่ามือของเขากำแน่นไม่หยุด
เพียงแค่ออกแรงอีกหน่อย ก็สามารถฆ่ากู้ชูหน่วนได้แล้ว
เมื่อเห็นใบหน้าของกู้ชูหน่วนแดงก่ำเพราะหายใจไม่ออก ในดวงตาของเขาไม่ได้มีความหวั่นไหวสักนิด
จนกระทั่งเห็นกู้ชูหน่วนเบ้าตาแดงก่ำ ในดวงตาสีดำดั่งหมึกเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย สีหน้าซีดเซียวเหนื่อยล้า ราวกับว่าไม่ได้พักผ่อนให้ดีมาหลายวัน
แล้วเมื่อตรวจลมหายใจของนาง จึงได้พบว่า วันนั้นที่ถูกไป๋หลี่หมิงเยียนทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส อาการบาดเจ็บบนตัวของนางยังคงอยู่ ไม่ได้ร่องรอยของการรักษาโดยสิ้นเชิง
กลับมามองที่เขา บาดแผลบนตัวของเขาได้รับการรักษาไปพอประมาณแล้ว
แม้แต่พิษโดยพื้นฐานก็ถูกถอนออกไปหมดแล้ว
หรือว่า…
ที่นางพูดเป็นความจริง แปดวันมานี่ นางช่วยทำการรักษาให้เขาทั้งวันทั้งคืนจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน?
เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้นี้ มือของเวินเส้าหยีก็คลายออก
ได้รับอิสระ กู้ชูหน่วนก็พยายามหายใจอย่างสุดชีวิต พิงกำแพงล้มลงไปด้วยร่างกายอันไร้เรี่ยวแรง กระทั่งยังมีเลือดไหลออกมาจากมุมปากอีกด้วย
สักพักใหญ่ นางจึงได้เช็ดเลือดที่มุมปากของตัวเอง กล่าวด้วยความโศกเศร้าว่า “เจ้าผีเสื้อ ข้าเกือบจะตายด้วยน้ำมือเจ้าอีกแล้ว”
“อย่าเรียกข้าว่าเจ้าผีเสื้อ”
“ได้ เส้าหยี”
“…”
เส้าหยีสองคำนี้ แม้แต่พ่อของเขาก็ไม่เคยเรียกมาก่อน
นางนับว่าเป็นใครกัน ถึงได้กล้าเรียกชื่อเขาเช่นนี้?
การกระทำเช่นนี้เหมือนกู้ชูหน่วนเกินไปแล้ว
มองดูมู่หน่วน เขามักจะเอานางและกู้ชูหน่วนผสมผสานเป็นร่างเดียวกันอยู่เสมอ
“หากเจ้าเรียกข้าอีกคำเดียว ข้าจะปลิดชีวิตเจ้าทันที”
“ข้าตายแล้ว เจ้าจะไปหาวิญญาณจากที่ไหน?”
“ข้ามีวิธีของตัวเอง เพียงแค่ต้องใช้เวลานานขึ้นอีกหน่อยก็เท่านั้น”
กู้ชูหน่วนกำลังหอบหนัก พลังหล่อเลี้ยงร่างกายไม่พอ บนใบหน้าปรากฏความเหนื่อยล้าที่ไม่อาจจะพรรณนาได้ออกมา
สุดท้ายเวินเส้าหยีก็ใจอ่อนแล้ว หยิบยาขวดหนึ่งบนตัวของตัวเองออกมาโยนให้กู้ชูหน่วน
“กินไปก่อนละกัน สามารถช่วยบรรเทาความเจ็บปวดให้เจ้าได้ชั่วคราว”
“นี่ถึงจะเป็นท่าทีที่ควรมีในการตอบแทนบุญคุณ”
“…”
เวินเส้าหยีกวาดตามองถ้ำในภูเขา พบว่าถ้ำนี้นอกจากนางแล้ว ก็ไม่มีผู้อื่นอีก
ราวกับว่ากู้ชูหน่วนมองความคิดของเขาออก จึงพูดว่า “อาโม่ไม่ได้อยู่ที่นี่ เจ้าเลิกคิดว่าจะหล่อหลอมอาโม่เพื่อพัฒนาพลังยุทธไปได้เลย”
“เวลาสิบวันที่ข้าให้เจ้าได้ผ่านไปหมดแล้ว เจ้าพูดมาเถอะ เจ้าเตรียมตัวรับไฟโทสะของข้าไว้อย่างไร?”
“ยังจะสามารถรับยังไงได้อีก ข้าหาเรื่องใส่ตัวเอง ทั้งที่รู้ว่าเจ้าต้องการเอาชีวิตข้า แต่ข้าก็กลับช่วยเจ้าไว้นี่”
“เห็นแก่ที่เจ้าช่วยข้า เรื่องนี้หายกัน ข้าต้องการให้เจ้าไปเอาหัวของราชินีมาในคืนนี้ และหาวิญญาณดวงที่ห้ามา”
“พี่น้อง เจ้าดูสภาพของข้าตอนนี้ด้วย จะสามารถทำได้หรือ?”