อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1190 ข่าว
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1190 ข่าว
กู้ชูหน่วนหาเรื่องใส่ตัว เลิกขากางเกงของเขาขึ้น คลำไปที่หัวเขาของเขา
เย่จิ่งหานกระโดดขึ้นอย่างฉับพลัน “เจ้าทำอะไร?”
“ตื่นตระหนกขนาดนี้ทำไม แค่ดูบาดแผลที่ขาของท่าน ท่านคิดว่าข้าจะทำอะไรกับท่านได้”
“….”
สีหน้าของเย่จิ่งหานเดี๋ยวก็ขาวเดี๋ยวก็เขียว
ผู้หญิงไร้ยางอายคนนี้ ไม่ว่าเรื่องอะไรนางก็ทำได้หมด ใครจะรู้ว่านางคิดจะทำอะไร
เห็นนางคลำไปคลำมาอยู่ที่ขาของตัวเอง ผ่านไปนานก็ไม่ส่งเสียงสักคำ ความเดือดดาลของเย่จิ่งหานพรั่งพรูขึ้นมา
“เอามือสกปรกของเจ้าออกไป”
กู้ชูหน่วนงัดปากเขาให้เปิดออก ยัดยาเม็ดหนึ่งเข้าไป แทบจะทำให้เย่จิ่งหานสำลัก
สายตาเฉียบคมเหมือนจะฆ่าคนจ้องเขม็งไปทางกู้ชูหน่วน มองดูไกลๆ ยังสามารถมองเห็นหน้าอกของเย่จิ่งหานเคลื่อนไหวได้อย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดว่าเขาโกรธมาก
“ฟื้นตัวได้ดี น่าเสียดายถูกโซ่เหล็กมัดไว้ ไม่เช่นนั้นก็สามารถเคลื่อนไหวได้สักหน่อย ลองยืนขึ้นและเดินดูสิ”
สายตาของเย่จิ่งหานเป็นประกายทันที “ความหมายของเจ้าคือ ขาของข้าสามารถเดินได้แล้วเหรอ?”
“พูดยาก แต่อยากจะยืนขึ้นมาได้ก็ต้องเคลื่อนไหวออกกำลังกาย ตอนนี้ท่าน…..” กู้ชูหน่วนมองไปทางแขนขาทั้งสี่ที่ถูกมัดของเขา ทำปากจึจึ
“บนโต๊ะด้านข้างมีกระบอกพลุอยู่อันหนึ่ง ปล่อยมันออกไป”
“อันนี้?”
“ใช่”
“ท่านวางแผนจะขอกำลังเสริมมาช่วยหรือ? ไม่ถูก หากท่านจะขอกำลังเสริมมาช่วยก็เรียกไปนานแล้ว กระบอกพลุเป็นของสำคัญต้องซ่อนไว้ เป็นไปไม่ได้ที่ท่านจะวางไว้บนโต๊ะเด็ดขาด เสี่ยวเย่เย่ ท่านมีข้อตกลงหรือความลับอะไรกับราชินีใช่หรือไม่”
“ให้เจ้าปล่อยเจ้าก็ปล่อย พูดเพ้อเจ้ออะไรมากมาย”
“ท่านเป็นใคร ที่จะบอกให้ข้าปล่อยแล้วข้าก็ต้องปล่อย? ข้าได้ประโยชน์อะไร?”
“….”
“ท่านเคยรับปากข้า จะช่วยข้าพุ่งขึ้นสู่ระดับห้า”
“เจ้าก็ไม่กลัวว่าจะจุกตายเหรอ”
“ไม่กลัว งั้น พวกเรามาเริ่มกันตอนนี้เลยละกัน”
“….”
เย่จิ่งหานหลับลงทั้งสองข้าง หน้าอกยังคงเคลื่อนไหวไม่หยุด ผ่านไปพักหนึ่งจึงได้พูดประโยคหนึ่งออกมาด้วยความอัดอั้น “เจ้าไม่ปล่อย ก็จะมีคนมาแย่งปล่อยเป็นธรรมดา”
“ปล่อยกระบอกพลุเป็นเรื่องเล็ก แต่โรคที่ขาของท่านยังจำเป็นต้องใช้ตำรับยาอย่างอื่นของข้า นี่เป็นเรื่องใหญ่สินะ”
“อาหน่วนของข้าฟื้นมา จะทำให้ขาข้าหายเป็นแน่”
“ก็เกรงว่าถ้าขาของท่านไม่ฟื้นฟู อาหน่วนของท่านก็จะไม่กลับมาตลอดไป”
“เจ้ากำลังข่มขู่ข้าหรือ?”
“ท่านคิดว่าเป็นการข่มขู่ก็ข่มขู่ละกัน”
“ข้ารู้เบาะแสของเซียวหยู่เซวียน”
คำพูดธรรมดาๆประโยคหนึ่งทำให้รอยยิ้มของกู้ชูหน่วนหยุดไป
“เขาอยู่ที่ไหน?”
“ปล่อยกระบอกพลุก่อน”
“ปัง…”
กู้ชูหน่วนหยิบกระบอกพลุขึ้นมา เล็งไปทางนอกหน้าต่างและปล่อยออกไปโดยตรง ที่เหนือคาดก็คือ หลังจากที่ปล่อยกระบอกพลุแล้ว ในอากาศไม่ได้มีความผิดปกติใด
นางคิดว่าปล่อยไม่สำเร็จ จึงลองอีกหลายครั้ง ก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ
“ได้แล้ว กระบอกพลุปล่อยไปแล้ว”
“ดูท่า กระบอกพลุนี้คงไม่ใช่สิ่งที่ท่านและราชินีแลกเปลี่ยนกัน แต่ราชินีกลับหวังให้ท่านปล่อยใช่หรือไม่? เรื่องบ้าๆของท่านข้าไม่อยากสนใจ เซียวหยู่เซวียนอยู่ที่ไหน?”
“พระราชวัง ถูกราชินีจับขังไว้อย่างลับๆ จากนิสัยที่โหดเหี้ยมอำมหิตของราชินี ยิ่งถ่วงเวลานาน เขาก็จะยิ่งอันตราย”
กู้ชูหน่วนคิดไตร่ตรองคำพูดของเย่จิ่งหาน
เขาถูกขังอยู่ที่นี่แล้วจะสามารถรู้ข่าวได้ยังไง?
แต่เย่จิ่งหานก็ไม่มีอะไรจะต้องโกหกนาง
การตายของนางก็มีแต่ผลเสียไม่มีประโยชน์ต่อเย่จิ่งหาน
“รู้ว่าอยู่ที่ไหนในวังหรือไม่?”
“ตอนนี้ยังไม่สามารถรู้ได้”