อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1192 ราชินีตัวปลอม
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1192 ราชินีตัวปลอม
“เรื่องนี้ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร ข้ารู้เพียงว่า ใต้เท้าไป่หนิงหายสาบสูญไปอย่างแปลกประหลาด คิดว่าต้องเกี่ยวข้องกับราชินีแน่”
“นี่เป็นไปไม่ได้ ใต้เท้าไป่หนิงเป็นคนที่ราชินีไว้ใจที่สุด ราชินีฆ่าใครก็ได้ยกเว้นใต้เท้าไป่หนิง”
“ถุยๆ ใครจะไปรู้ละ หากราชินีให้ความสำคัญใต้เท้าไป่หนิงขนาดนั้นจริงๆ แล้วทำไมจนถึงตอนนี้ยังไม่มีพระราชโองการให้สืบเรื่องที่ใต้เท้าไป่หนิงหายตัวไป”
“อีกไม่กี่วันราชินีก็จะอภิเษก ไม่รู้ว่าราชินีจะทรมานฮองเฮากับคุณชายในหอกระบี่เหมือนชายบำเรอพวกนั้นไหม”
“วันนี้เราแอบคุยกันเยอะมากพอแล้ว ไม่ควรพูดต่อไปแล้ว หากมีคนได้ยิน จะต้องโทษประหารเก้าชั่วโคตรนะ”
“ใช่ๆ ที่เจ้าพูดมีเหตุผล”
กู้ชูหน่วนได้ยินคำพูดทั้งหมดของพวกเขา
นางเดินย้อนกลับไป นั่งด้านข้างเย่จิ่งหาน เอามือเท้าคางพร้อมถามขึ้นว่า “เจ้าว่า เป็นไปได้ไหมที่ราชินีคนนี้เป็นตัวปลอม”
“การแอบอ้างเป็นกษัตริย์ของประเทศนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายนะ”
“หากอีกฝ่ายมีวิชาแปลงโฉม หรือมีวรยุทธสูงส่งละ?”
เย่จิ่งหานเงียบ
ใช่ว่าเขาจะไม่สงสัยว่าราชินีคนปัจจุบันใช่ราชินีคนก่อนไหม
ไม่อย่างนั้นทำไมนิสัยใจคอถึงได้เปลี่ยนแปลงไปมากขนาดนั้น?
แต่หากเขาเป็นราชินีตัวปลอม แล้วราชินีตัวจริงอยู่ที่ไหน?
ทำไมผ่านมาตั้งนานขนาดนี้ ถึงไม่มีคนสงสัย
หากนางเป็นราชินีตัวจริง ทำไมแม้แต่อาจารย์ผู้มีพระคุณก็ฆ่า?
รอบๆหอกระบี่ ไม่ว่าในที่ลับหรือที่แจ้ง ล้วนเต็มไปด้วยยอดฝีมือ แม้แต่แมลงวันก็บินออกไปไม่ได้
สองคนนี้กลับกล้ามาแอบพูดคุยกัน ไม่รู้ว่าควรด่าพวกเขาโง่ หรือมีคนสั่งให้พวกเขามาพูด
ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุไหน ทหารราชองครักษ์สองคนนั้น หลังจากถูกย้ายไปแล้วก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย คาดว่าคงถูกทำร้ายไปแล้ว
“คิดอยากให้ราชินียกเลิกงานอภิเษกคงยาก ข้าว่าเอาแบบนี้ไหม เจ้าอภิเษกกับนางเสีย แผนซ้อนแผน แล้วสืบโฉมหน้าที่แท้จริงของนาง”
“นางจะใช่ราชินีตัวจริงหรือไม่ เกี่ยวข้องอะไรกับข้า?”
“เกี่ยวข้องแน่นอนสิ นางจะอภิเษกกับเวินเส้าหยีไม่ใช่หรือ? เจ้าอยากกำจัดเวินเส้าหยีไม่ใช่หรือ? นี่เป็นโอกาสที่ดี เวินเส้าหยีมีอำนาจในทวีปปิงหลิงอย่างมาก เจ้าสามารถอาศัยราชินีกำจัดปีกของเวินเส้าหยี แล้วก็จัดการเขา”
เย่จิ่งหานเงียบ เห็นได้ชัดว่าเงื่อนไขนี้ไม่สามารถดึงดูดเขาได้เลย
กู้ชูหน่วนกะพริบตาไปมา
นางขยับเข้าไปใกล้เย่จิ่งหาน พร้อมพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า “บอกเจ้าตามความจริงนะ หนึ่งในดวงจิตของภรรยาเจ้าอยู่มือเวินเส้าหยี”
และแล้ว ได้ยินประโยคนี้ สายตาเย่จิ่งหานก็เป็นประกายขึ้นมาทันที
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ?”
“เวินเส้าหยีเคยจับตัวข้าไป ข้าสัมผัสได้ถึงหนึ่งในดวงจิตที่อยู่ใกล้ๆ แต่ดวงจิตนั้นลมปราณอ่อนแรงมาก ข้าไม่ค่อยมั่นใจว่าใช่อาหน่วนของเจ้าไหม”
“ปราณอ่อนแรงมาก?”
“ใช่”
เย่จิ่งหานครุ่นคิดคำพูดของกู้ชูหน่วน
เขาไม่รู้ว่านางพูดความจริงหรือเท็จ
แต่เวินเส้าหยีเกลียดชังที่อาหน่วนฆ่าล้างเผ่าเทียนเฟิ่น เขาตามหาดวงจิตของอาหน่วนมาตลอด ทำให้อาหน่วนฟื้นคืนชีพ แล้วค่อยฆ่านางให้กลายเป็นผงด้วยตนเอง
ด้วยอำนาจของเวินเส้าหยีในทวีปปิงหลิง เวินเส้าหยีสามารถตามหาเจอดวงจิตของอาหน่วนหนึ่งดวงนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก
ดวงจิตของอาหน่วนตกอยู่ในมือเวินเส้าหยี ยังไงก็ไม่ใช่เรื่องดีแน่
ถูกเขาทำให้ลมปราณอ่อนแอ แล้วนำเอาไปไว้ไกลๆ ก็จะยากที่จะสัมผัสได้
“ข้าจะเชื่อเจ้าได้ยังไง”
“เจ้าจะเชื่อก็เชื่อ ไม่เชื่อก็แล้วแต่ ยังไงข้าก็ไม่มั่นใจอยู่แล้วว่าดวงจิตนั่นใช่อาหน่วนของเจ้าไหม เพราะอ่อนแออย่างมาก”
“แต่ข้าว่า หากไม่รีบตามหาดวงจิตกลับมา ดวงจิตนั่นอาจจะสูญสลาย”
“เวินเส้าหยีไม่มีทางปล่อยให้นางสูญสลายแน่นอน”
“งั้นก็ถือว่าข้าไม่ได้พูด ยังไงนั่นก็เป็นอาหน่วนของเจ้า ไม่ใช่อาหน่วนของข้า”