อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1196 ข้ายกบัลลังก์ฮ่องเต้ให้กับเจ้า
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1196 ข้ายกบัลลังก์ฮ่องเต้ให้กับเจ้า
“ก็ทำบ้าง แต่ก็ยังดี ประเทศของเจ้ายังไม่ล่มสลาย”
“ข้ายกบัลลังก์ให้เจ้า เจ้าอย่าให้แคว้นน้ำแข็งตกอยู่ในมือผู้หญิงโหดเหี้ยมอำมหิตคนนั้น”
กู้ชูหน่วนนั่งคร่อมตัวมองดูผู้หญิงคนนั้นด้วยใบหน้าขบขัน
“ข้าว่าเจ้าถูกขังนานจนสมองมีปัญหาหรือเปล่า เห็นแล้วก็รีบนับญาติไปเรื่อย?”
“เจ้าเป็นลูกสาวของข้า ลูกสาวที่ข้าเลี้ยงไว้นอกวังยี่สิบกว่าปี”
“เอาล่ะ ข้าไม่อยากฟังเจ้าพูดไปเรื่อย สถานการณ์ของเจ้าข้าก็เห็นใจ ข้าสามารถช่วยเจ้าล้มราชินีปลอมได้ แต่ตอนนี้ข้าจะไปตามหาคนที่สำคัญกับข้ามาก เรื่องนี้ต้องพักไว้ก่อน”
เดิมกู้ชูหน่วนอยากเอาปากกามาให้นางเขียนเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพื่อเปิดโปงราชินีตัวปลอม
แต่นางไม่มีมือเท้าแล้ว จะเขียนยังไง?
จะพานางออกไปจากห้องลับ นางก็ถูกล่ามด้วยโซ่เหล็กพันปี ไม่มีกุญแจไม่สามารถที่จะปลดได้
อาศัยตอนนี้ฟ้ายังไม่สว่าง ตามหาเสี่ยวเซวียนเซวียนเร่งด่วนกว่า นางไม่มีเวลาสูญเสียอยู่กับนางมากมายขนาดนั้น
กู้ชูหน่วนยกก้าวเท้าจะจากไป ขาขวาถูกแขนของผู้หญิงคนนั้นคว้ากอดไว้แน่น
“เจ้าเชื่อข้า เจ้าเป็นลูกสาวของข้า มีเพียงลูกสาวของข้าที่สามารถเปิดกำแพงหินนั้น เข้ามาในห้องลับราชวงศ์ได้”
“ปลดออก”
“เจ้าเติบโตอยู่ในตระกูลมู่ใช่ไหม เจ้าคิดว่ามู่ซินเป็นพ่อของเจ้าใช่ไหม? เจ้ามีไฝที่กลางฝ่าเท้าขวาใช่ไหม?”
เดิมกู้ชูหน่วนไม่อยากสนใจนาง ได้ยินคำพูดของนางแล้วก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับมามอง
“เจ้าพูดความจริงมาให้ชัดเจน ไม่อย่างนั้นราชินีตัวปลอมไม่ฆ่าเจ้า ข้าจะฆ่าเจ้า”
“ข้ารู้ว่าข้ามีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว ได้เล่าความจริงให้เจ้าฟังก่อนตาย ข้าก็จะได้ตายอย่างสงบ”
“พูดภาษาคน ข้ามีเวลาจำกัด”
“ก็ได้ เมื่อหลายสิบปีก่อน ข้าขึ้นครองบัลลังก์ เป็นลูกสาวสามคน ซึ่งทั้งสามคนล้วนตายอย่างลึกลับ ข้ารู้ว่ามีคนตั้งใจแอบทำร้าย แต่ข้าสืบไม่ได้ความอะไรเลย ข้ากลัวว่าเจ้าก็จะถูกลอบทำร้าย ดังนั้นเมื่อเจ้าคลอดจึงส่งเจ้าไปยังตระกูลมู่ รอเจ้าเติบโตแล้วค่อยรับเจ้ากลับมา คิดไม่ถึงว่า ตอนที่ข้ายังไม่ได้รับเจ้ากลับมา ก็ถูกผู้หญิงอำมหิตคนนั้นทำร้ายแล้ว”
“เหตุผลนี้ของเจ้าไม่น่าเชื่อถือ หากข้าถูกนำไปฝากตระกูลมู่ งั้นตระกูลมู่ควรที่จะให้เกียรติเคารพนับถือข้าสิ ตั้งแต่เล็กจนโตมีคนรังแกดูถูกเหยียดหยามขนาดนั้นก็ไม่มีใครช่วย”
“ข้ายกให้เจ้ามั่นหมายกับซ่างกวนหมิงหลางแล้ว”
“นั่นเป็นเพราะแม่ของข้าถูกฆ่าตายเพื่อช่วยชีวิตพวกเขา พวกเขาจึงให้คำมั่นสัญญาเรื่องแต่งงาน ถอยหมื่นก้าว หากเรื่องทั้งหมดเป็นแผนของเจ้า งั้นทำไมตระกูลซ่างกวนถึงถอนหมั้นกับข้า ยังทำทุกอย่างเพื่อทำลายชื่อเสียงของข้าอย่างไม่มีชิ้นดี”
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ ตระกูลซ่างกวนยกเลิกการถอนหมั้นกับเจ้า? พวกเขากล้า….แค่กๆ แค่ก….”
เพราะตื่นเต้น ราชินีตัวจริงกระอักออกมาเป็นเลือด ร่างกายโอนเอน ขนาดพิงอยู่บนกำแพงยังค่อนข้างยาก
ความตื่นเต้นของนาง ลักษณะท่าทีของนางล้วนไม่ใช่เสแสร้ง
กู้ชูหน่วนเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมา
ราชินีตัวจริงพูดขึ้นมาอย่างเจ็บปวดว่า “ข้าต้องพูดยังไง เจ้าถึงจะยอมเชื่อ”
นางอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาอย่างเหน็บแนมว่า “ไม่ต้องพูดแล้ว ข้าเชื่อว่าเจ้าพูดความจริง”
“ลูกสาว….”
“แต่ข้าไม่อยากยอมรับเจ้า ข้าเป็นคนของตระกูลมู่ แม่ของข้าก็มีเพียงคนเดียวตลอดไป และนางตายไปนานมากแล้ว”
“ข้า….ข้าเป็นแม่แท้ๆของเจ้า….”
“แม่แท้ๆของข้า? เห้อ…..หากข้าเดาไม่ผิด เจ้าฆ่าลูกสาวแท้ๆของพ่อข้า จากนั้นก็เปลี่ยนตัวพวกเรา พ่อของข้าคิดมาตลอดว่าข้าเป็นลูกสาวแท้ๆของเขา ทุกคนในตระกูลมู่ รวมทั้งคนของตระกูลซ่างกวนไม่มีใครรู้ว่าข้าคือเจ้าหญิง ดังนั้นพวกเขาจึงกล้ารังแกข้า ใช่ไหม?”
ราชินีตัวจริงเงียบ เพียงแต่หายใจเข้าออกรุนแรง อย่างไม่สงบนิ่ง
“ลูกสาวของเจ้าสามคนก็ไม่ใช่คนอื่นฆ่า แต่เป็นฝีมือเจ้าเอง เพื่อให้ได้ครอบครองบัลลังก์ฮ่องเต้ ฆ่าลูกสาวของตนเอง แล้วใส่ร้ายป้ายสีพี่น้องคนอื่นที่แย่งบัลลังก์จากเจ้าใช่ไหม”
ราชินีเงยหน้าขึ้นมา มองดูกู้ชูหน่วนอย่างไม่อยากเชื่อ
ยังไงก็คิดไม่ถึงว่า เพียงเคยเจอหน้ากันแค่ครั้งเดียว นางก็รู้เรื่องมากมายขนาดนี้
เรื่องพวกนี้ ลูกน้องคนสนิทของนางไป่หนิงยังไม่รู้เลย
“อยากรู้ไหมว่า ข้ารู้เรื่องได้อย่างไร?”
ราชินีตัวจริงมองดูนางอย่างรอคอย คิดไม่ถึงว่ากู้ชูหน่วนเพียงกระตุกมุมปากอย่างเยาะเย้ย พร้อมพูดขึ้นอย่างเหน็บแนมว่า “เดาเอา”
คำว่าเดาเอา ทำให้สีหน้าราชินีตัวจริงย่ำแย่ขึ้นมา
“เจ้า….หลอกล่อข้า….”
“หากเจ้าไม่ทำอะไรผิด ทำไมจะต้องกลัวคนอื่นหลอกล่อ”
กู้ชูหน่วนมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างดูถูก
นางไม่รู้ว่าเป็นเพราะนางถูกกักขังเป็นเวลานานเกินไป ถูกทรมานนานเกินไป เมื่อเจอลูกสาวของตนเอง จึงลืมความสุขุมที่ฮ่องเต้คนหนึ่งควรมี
หรือเพราะเดิมนางก็เป็นเพียงฮ่องเต้ไม่มีความสามารถ
แต่นางดำรงตำแหน่งมานานหลายปี แทบจะไม่ได้กระทำคุณความดีอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ
“ที่เจ้าไม่ได้ฆ่าข้า เพียงเพราะตอนนั้นภัยคุกคามที่มีต่อเจ้านั้นมีไม่มากแล้ว บวกกับเจ้าฆ่าลูกสาวไปแล้วสามคน ยังไงในใจก็ต้องรู้สึกผิด ดังนั้นเจ้าจึงให้ข้าไปแทนที่สถานะของมู่หน่วนตัวจริง แล้วเติบโตอยู่ในตระกูลมู่”
ราชินีตัวจริงเงียบ
นางคิดมาตลอดว่า นางเป็นเพียงคนที่ไม่มีความสามารถคนหนึ่ง
นางยังรู้สึกละอายใจ
แต่วันนี้ ลูกสาวของนางไม่เพียงไม่ใช่คนไม่มีความสามารถ หากขึ้นครองราชย์ จะกลายเป็นราชินีในตำนานที่มีความสามารถสูงส่ง
“กาลเวลาเปลี่ยนแปลงไป หลังจากที่เจ้ารักษาบัลลังก์ไว้ได้ เจ้าก็ไม่คิดจะรับพาข้ากลับวัง แสดงว่าอะไรหรือ แสดงว่าเจ้าไม่สนใจคนไร้ค่าคนหนึ่ง ลูกสาวที่ไม่ได้เรื่องทำอะไรไม่เป็นเลย”
“ลูกสาว…..”
“แต่ก็ไม่มีอะไร ข้าไม่อยากยอมรับเจ้า ข้ายิ่งไม่สนใจที่จะยอมรับเจ้า ข้าเป็นลูกสาวมู่ซินไปตลอด เป็นคนในตระกูลมู่”
ราชินีตัวจริงตื่นตระหนก นางพยายามจับมือกู้ชูหน่วนไว้ แต่นางปืนขึ้นไปเกาะไม่ได้ รั้งไว้ก็ไม่อยู่ จึงต้องร้องห่มร้องไห้ มองดูนางอย่างโทษตัวเองและเสียใจ
“ขอโทษ ข้ากระทำผิดต่อเจ้า ข้า….ข้าทำให้เจ้าต้องทุกข์ทรมานมากมายขนาดนั้น ทุกข์ทรมานมากมายขนาดนั้น…..”
“คนที่เจ้าควรขอโทษคือมู่หน่วนตัวจริง พ่อของข้า ทุกคนในตระกูลมู่ เจ้าฆ่าลูกสาวแท้ๆของพ่อข้า ข้าควรแก้แค้นให้กับเขา แต่ตอนนี้….เจ้ามีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว เจ้าหาเรื่องใส่ตัวเองทั้งนั้น”
“ข้ารู้ว่าข้าผิดไปแล้ว ข้าก็ไม่ขอให้เจ้าให้อภัย แต่แคว้นน้ำแข็งจะตกอยู่ในมือผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ เจ้าสามารถ….”
“ไม่ได้ แคว้นน้ำแข็งเกี่ยวข้องอะไรกับข้า คนในราชวงศ์มีตั้งมากมายขนาดนั้น ไม่เกี่ยวอะไรกับข้าเลย สิ่งที่ข้าคาดหวังก็คือเซียวหยู่เซวียนกับอาโม่ปลอดภัยดี ตลอดจน….ตามหาคนร้ายที่ฆ่าล้างตระกูลมู่”
“พวกเขาล้วนไม่ใช่สายเลือดที่แท้จริงของราชวงศ์”
กู้ชูหน่วนไม่รู้จะร้องไห้ หรือหัวเราะดี
“เห้อ…คนบ้า เพื่อบัลลังก์ของเจ้า เจ้าสามารถทำได้ทุกอย่างจริงๆ”
ราชินีตัวจริงรู้สึกผิดอย่างมาก ต่อให้ไม่มีมือแล้ว นางก็ใช้แขนตบตีหน้าอกตนเองอยู่อย่างต่อเนื่อง
เดิมนางก็เป็นคนใกล้สิ้นใจแล้ว
ตอนนี้เมื่อถูกตบตี ร่างกายรับได้เสียที่ไหน กระอักเลือดออกมาอีกครั้ง ล้มกองลงบนพื้นไม่ขยับอยู่นาน แต่ปากพูดอยู่อย่างไม่หยุดว่า
“ข้าผิดไปแล้ว ข้าผิดไปแล้ว เพื่อบัลลังก์ข้าฆ่าคนไปเยอะมาก แม้แต่ลูกสาวแท้ๆของข้ายังฆ่า ข้าผิดไปแล้ว…ข้าผิดไปแล้ว….ข้าสมควรตาย ข้าสมควรตาย….”