อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1197 ราชินีจริงสวรรคต
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1197 ราชินีจริงสวรรคต
กู้ชูหน่วนเอายาชั้นเลิศออกมาหนึ่งเม็ด ยัดเข้าไปในปากของนาง สีหน้าราชินีตัวจริงค่อยดีขึ้นมาหน่อย
นางไม่สามารถพูดกล่อมตนเองให้เห็นใจนาง
แต่นางมีความสามารถทางการแพทย์ รู้ว่าผู้หญิงคนนี้อยู่ได้อีกไม่นาน
นางควรที่จะตายไปแล้วตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าอะไรทำให้นางอดทนอยู่ได้ขนถึงตอนนี้
ตอนนี้ ลมหายใจที่อดกลั้นไว้ภายในร่างกายของนางกำลังจะพังทลาย เมื่อพังทลายลง นางก็จะไม่มีตัวตนอีกต่อไป
“หน่วนเอ๋อร์……”
“อย่าแต่ต้องข้า”
“ไม่ว่าเจ้าจะยอมรับข้าก็ดี ไม่ยอมรับข้าก็ช่าง ล้วนเป็นเพราะข้าทำตัวข้าเอง ไม่เกี่ยวกับเจ้า”
“เฮ้อ เจ้ามีสิทธิ์โทษข้าหรือ? เสือร้ายไม่กินลูกตัวเอง เพื่ออำนาจ แม้แต่ลูกแท้ๆของเจ้าก็กล้าทำร้าย เจ้าเลวยิ่งกว่าสัตว์เสียอีก”
ราชินีตัวจริงไม่สามารถเถียงอธิบาย และก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง เดิมสิ่งที่นางพูดก็คือความจริง
นับตั้งแต่ถูกผู้หญิงคนนี้กักขังอยู่ในนี้ หลังจากทนทุกข์ทรมานมาทั้งวันทั้งคืน นางค่อยเข้าใจว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในโลกคืออะไร
และเพราะเหตุนี้ ภาพเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมาปรากฏในหัวสมองของนาง นางยิ่งเสียใจ ยิ่งทุกข์ทรมาน
“เจ้าเกลียดข้าเป็นสิ่งที่สมควร…สมควร แค่กๆ…หน่วนเอ๋อร์ ต่อให้เจ้าเกลียดชังข้าแค่ไหน เจ้าก็อย่าปล่อยให้แคว้นน้ำแข็ง ตกอยู่ในมือผู้หญิงคนนั้น เจ้าหญิงทั่วทั้งราชวงศ์มีเพียงเจ้าคนเดียวที่เป็นสายเลือดบริสุทธิ์ ถือว่าข้าขอร้องเจ้าได้ไหม?”
“ข้าจะไปตามหาเพื่อนของข้าแล้ว”
“หน่วนเอ๋อร์ ข้าขอร้องเจ้า ข้าขอร้องเจ้าจริงๆ เจ้าเห็นแก่ประชาชนบริสุทธิ์ของแคว้นน้ำแข็ง เจ้าปกป้องแคว้นน้ำแข็งด้วย ผู้หญิงคนนั้นใจคดอำมหิต แคว้นน้ำแข็งตกอยู่ในมือของนางประเทศชาติจะต้องที่ล่มสลายในสักวันแน่”
เพราะตื่นเต้น ราชินีตัวจริงล้มกองนอนบนพื้น แต่นางใช้ฟันกัดชายเสื้อกู้ชูหน่วนไว้ไม่ยอมปล่อย
เหมือนคนจมน้ำที่คว้าฟางเส้นสุดท้ายไว้อย่างสิ้นหวัง
ลมหายใจของนางอ่อนลงเรื่อยๆ จู่ๆสีหน้าก็บิดเบี้ยวขึ้นมา ปากส่งเสียงร้องอู้อี้อย่างทุกข์ทรมาน เจ็บปวดจนกลิ้งอยู่บนพื้น
กู้ชูหน่วนพบว่าร่างกายของนางปรากฏสีแดง ดำ ขาว สลับกันไปมาเรื่อยๆ น่าจะถูกพิษร้ายแรง
และเป็นพิษร้ายแรงที่ทำให้คนเหมือนตายทั้งเป็น
ถึงแม้จะเกลียดนาง กู้ชูหน่วนก็ยังคงใจอ่อน สะกดจุดฝังเข็มของนางไว้ เพื่อไม่ให้นางเคลื่อนไหวไปเรื่อย จากนั้นเอาเข็มเงินช่วยนางขับพิษไปยังตำแหน่งเดียว แล้วเอามีดกรีดเป็นแผล เพื่อขับเลือดพิษออกมา
“ข้า…ไม่รอดแล้วใช่ไหม”
กู้ชูหน่วนไม่พูดตอบ หลังจากล้างพิษบนเข็มแล้วค่อยเก็บกลับไปยังแหวนมิติ
พิษอำมหิต
พิษแบบนี้ไม่ทำให้คนตายทันที แต่จะทำให้คนตายทั้งเป็น ทุกครั้งที่อาการกำเริบจะเหมือนถูกหั่นเป็นพันหมื่นชิ้น
ความอดทนของนางถือว่าไม่เลว ที่สามารถอดทนมาได้นานหลายปีขนาดนี้
“ข้ามีพระราชกฤษฎีกาสละบัลลังก์เก็บไว้ภายในตำหนักเฟิงหลวน เจ้า…เจ้าตามหาพระราชกฤษฎีกาฉบับนั้นให้เจอ ก็จะ…จะสามารถขึ้นเป็นราชินีได้”
กู้ชูหน่วนนั่งอยู่ด้านข้าง ฟังนางพูดอยู่อย่างเงียบๆ
บัลลังก์อะไร นางไม่สนใจ
“ผู้หญิงคนนั้นไม่มีตราแผ่นดิน ตราแผ่นดินของนางเป็นของปลอม ตราแผ่นดินที่แท้จริงอยู่ที่….เรือนพักร้อนอานหยางนอกพระราชวัง”
“หน่วน…..หน่วนเอ๋อร์….ข้าขอร้องเจ้า อย่าให้แผ่นดินแคว้นน้ำแข็งล่มสลายอยู่ในมือของผู้หญิงคนนั้น นั่นเป็นแผ่นดินที่บรรพบุรุษของเราสืบทอดรักษากันมาหลายชั่วอายุคน”
“หากไม่มีแคว้นน้ำแข็งแล้ว ข้า….ต่อให้ข้าตาย ก็ไม่มีหน้าไปพบบรรพบุรุษ”
ไม่ว่านางจะเสียใจจริงหรือไม่ ท่าทีของนางตอนนี้ไม่เหมือนความเท็จ
กู้ชูหน่วนรู้ ถึงเวลาของนางแล้ว เพียงแค่ยังอดทนรักษาลมหายใจสุดท้ายไว้ไม่ยอมปล่อยวางเท่านั้น
เจ็บปวดสาหัสขนาดนั้น ยังพยายามอดกลั้นไว้ เหมือนตายทั้งเป็น
ปล่อยลมหายใจขาดเสียยังจะสบายกว่า
กู้ชูหน่วนพูดขึ้นว่า “หากนางกระทำเรื่องเลวร้าย ข้าไม่ปล่อยนางไว้แน่ แต่ข้าจะไม่เป็นราชินีแคว้นน้ำแข็ง”
“หน่วนเอ๋อร์……”
“ข้าไม่เป็น หยางม่านเป็นได้”
“นางไม่ใช่สายเลือดราชวงศ์ที่แท้จริง”
“นับตั้งแต่ที่เจ้าให้นางเป็นเจ้าหญิง นางก็คือคนในราชวงศ์แล้ว”
“เจ้า…..ต้องทำถึงขนาดนี้เลยหรือ?”
“ไม่ว่าเจ้าจะยอมรับได้หรือไม่ ข้าก็ทำได้เพียงเท่านี้”
ราชินีตัวจริงก้มหน้าสลดอย่างหมดแรง ความเสียใจมากล้นขึ้นเรื่อยๆ
“แผ่นดินที่ข้าแย่งชิงมาอย่างยากลำบาก สุดท้ายแม้แต่คนจะสืบทอดก็ไม่มี…ข้า…ข้าทำไปเพื่ออะไร…ฮ่าๆ….”
“อย่างน้อยสวรรค์ก็เห็นใจข้า ให้ข้าได้เจอเจ้าก่อนตาย”
“หน่วนเอ๋อร์…..เจ้า…..เรียกข้าว่าเสด็จแม่ได้ไหม?”
“ทำไม่ได้…..”
“งั้นเจ้าสามารถ….กอดข้าได้ไหม?”
กู้ชูหน่วนหันหน้าไป ถึงจะไม่พูดอะไร แต่การกระทำถือเป็นการปฏิเสธอย่างชัดเจน
“ข้าหลงคิดฝันไปเอง….เสด็จแม่ไม่ขออะไร ขอเพียงอนาคตเจ้าพบกับความสุขสงบสบายใจ”
กู้ชูหน่วนไม่สะทกสะท้าน
จนราชินีตัวจริงพูดขึ้นมาประโยคหนึ่ง นางค่อยหันกลับไป มองดูนางอย่างร้อนใจ
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ คนตัวปลอมคนนั้นขังชายหนุ่มหลายคนไว้ในห้องลับ?”
“ใช่….ข้าไม่รู้ว่าใช่คนที่เจ้าต้องการตามหาหรือเปล่า วันนั้นตอนที่นางมาทรมานข้า นางพูดหลุดปากออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ นาง….ดูเหมือนนาง….จะดูดเอาพลังของพวกเขาไป”
“ตอนนี้พูดไปแล้วหรือยัง?”
“ไม่….ไม่รู้”
“ที่นี่มีทางแยกเยอะมาก เจ้ารู้ไหมว่าเป็นห้องลับห้องไหน?”
ราชินีตัวจริงส่ายหัว
พูดมากเกินไปแล้ว ร่างกายอ่อนแรง นางไม่มีแรงที่จะพูดอีกต่อไปแล้ว
“นางพูดเมื่อไหร่ว่าจะดูดพลังของพวกเขา?”
ราชินีตัวจริงส่ายหัว
ที่นี่มืดสนิท ไม่รู้กลางวันกลางคืน
นางก็จำไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ แต่น่าจะเกินสองวันแน่นอน
“นางนอนพักผ่อนก่อนนะ ข้าจะไปตามหาเสี่ยวเซวียนเซวียน”
“หน่วนเอ๋อร์….เสด็จแม่ขอโทษ….ขอโทษนะ….หากมีภพหน้า เสด็จแม่จะไม่ทำแบบนั้น”
“ปัง….”
กู้ชูหน่วนเพิ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็ได้ยินเสียงดังปังกระทบพื้น
นางไปตรวจดูชีพจร ราชินีตัวจริงไม่มีลมหายใจแล้ว
กู้ชูหน่วนเหมือนถูกดูดแรงกำลังไปแล้วทั้งหมด
ตายแล้ว….
นางตายแล้ว….
นางควรเกลียดไหม?
นางไม่มีความรู้สึกอะไรต่อนาง
แต่ยังไงก็เป็นแม่แท้ๆ กู้ชูหน่วนกระวนกระวายใจ
มองดูศพของนาง กู้ชูหน่วนรู้สึกประเดประดังเข้ามาพร้อมกันหมด
เสียเวลาอยู่ที่นี่นานเกินไปแล้ว
นางไม่มีเวลาไปตามหาเซียวหยู่เซวียนแล้ว
ต่อให้ไม่อยาก แต่ก็ต้องถอยกลับไปก่อน แล้วค่อยหาวิธีใหม่
ส่วนศพราชินีตัวจริง นางก็ทำอะไรไม่ได้
ไม่เพียงบนร่างกายนางมีโซ่เหล็กพันปี ต่อให้ไม่มี เคลื่อนย้ายศพของนางไปตอนนี้ จะเป็นการทำให้ราชินีตัวปลอมรู้ตัว
ยังช่วยเซียวหยู่เซวียนออกมาไม่ได้ นางเสี่ยงไม่ได้
“ขออภัยนะ ต่อไปหากมีโอกาส ข้าจะฝังศพเจ้าเป็นอย่างดี ตอนนี้เจ้าอดทนไปก่อนนะ”
กู้ชูหน่วนมองดูศพอย่างลึกซึ้ง แล้วออกมาจากห้องลับอย่างไม่เต็มใจ
เดินวนอยู่ในเส้นทางลับอยู่ตั้งนาน กู้ชูหน่วนค่อยออกมาได้
ภายในหอกระบี่
กู้ชูหน่วนเข้ามาเหมือนอย่างวิญญาณ
เย่จิ่งหานพูดขึ้นว่า “ทำไมไปนานขนาดนี้ ถูกจับได้ไหม?”
“น่าจะไม่ ข้าระวังตลอดทาง”
“งั้นเซียวหยู่เซวียนกับชิงเฟิงเจี่ยงเสวียล่ะ ตามหาเจอไหม?”
“เปล่า”
กู้ชูหน่วนอารมณ์ซึมเศร้า ไม่อยากพูดมาก เดินตรงเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้อง
“เกิดอะไรขึ้น สีหน้าเจ้าไม่ค่อยดี”