อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1199 ฮัวอิ่งระดับเจ็ดแล้ว
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1199 ฮัวอิ่งระดับเจ็ดแล้ว
พวกเซียวหยู่เซวียน ไม่รู้ว่าบาดเจ็บสาหัสเกินไป หรือว่าถูกอะไรตรึงไว้ แต่ละคนเอนพิงกำแพงไว้ ไม่สามารถขยับได้
ราชินีนั่งตรงหน้าพวกเขา ดื่มเหล้าไปด้วยหัวเราะอย่างชั่วร้ายไปด้วย ท่าทางนั้นราวกับนักล่าที่จ้องมองเหยื่อของมันอยู่
“พวกเจ้าสองคนเสียงเอะอะโวยวายมาก ข้าไม่ชอบเลย”
ราชินีพูดแล้วก็ยกมือขวาขึ้นเบาๆ ร่างกายของชิงเฟิงเจี่ยงเสวียลอยไปบนอากาศอย่างควบคุมไม่ได้ ไม่ว่าพวกเขาจะดิ้นรนยังไง ก็ดิ้นรนไม่หลุด
ราชินีกวาดสายตามองดูพวกเขาอย่างมีความหมาย
“เลี้ยงมานานขนาดนั้น เลือดเนื้อของพวกเจ้าต้องอร่อยมากแน่”
เซียวหยู่เซวียนตะโกนพูดก่อนที่ราชินีจะดูดวิทยายุทธของพวกเขาหมดว่า “เจ้าจะก้าวไปสู่ระดับเจ็ดแล้ว รูปลักษณ์ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว ต่อให้เจ้าดูดพลังของพวกเขาจนหมดก็ไม่สามารถที่จะเพิ่มพลังได้มากกว่านี้อีกแล้ว”
กู้ชูหน่วนเบิกตาโต
ระดับเจ็ด….
พลังความสามารถของราชินีตัวปลอมคนนี้ไปถึงระดับเจ็ดแล้ว?
งั้นก็เท่ากับว่าแม้แต่เย่จิ่งหานกับเจ้าผีเสื้อก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง?
กู้ชูหน่วนไม่คาดคิด ยังไงก็คิดไม่ถึงว่ากำลังความสามารถของนางจะไปถึงระดับเจ็ด
ระดับเจ็ดเป็นระดับที่สูงที่สุดในโลก สามารถพูดได้ว่าไร้คู่ต่อสู้ในใต้หล้า
เช่นนี้….
ยังจะมีใครสามารถต่อสู้กับนางได้?
เพราะราชินีตัวปลอมหันหลังให้กับนาง นางจึงมองไม่เห็นว่ารูปลักษณ์ที่แท้จริงของราชินีเป็นยังไง
ราชินีได้ยิน ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดังขึ้นมา นางลูบคลำเล็บของตนเองอยู่อย่างอารมณ์ดี พร้อมยิ้มหัวเราะพูดขึ้นว่า “สถานะของราชินีคนนี้ถือว่าไม่เลว หากไม่ใช่เพราะมีสถานะนี้ ข้าจะสามารถดูดเอาวิทยายุทธของยอดฝีมือทั่วทั้งใต้หล้าได้อย่างไร เจ้าควรขอบคุณ วันนี้ข้าอารมณ์ดี ไม่อยากที่จะทรมานพวกเจ้าแล้ว ขอเพียงพวกเจ้ายอมยกทุกอย่างของตนเองให้กับข้า”
“ภายในเวลาอันสั้นขนาดนี้ เจ้าดูดเอาวิทยายุทธของคนตั้งมากมายขนาดนั้น เจ้าไม่กลัวผลสะท้อนกลับหรือ?”
“ผลสะท้อนกลับ? ฮ่าๆ….ในเมื่อข้ากล้าดูด ก็ไม่กลัวผลสะท้อนกลับ อีกอย่าง….ไม่ช้าข้าก็จะไม่ดูดได้เพียงครึ่งเดียวอีกต่อไป แต่จะเป็นทั้งหมด”
อาจเป็นเพราะฟันฝ่ามาถึงระดับเจ็ด ราชินีจึงอารมณ์ดี
ที่ผ่านมาเก็บเซียวหยู่เซวียนไว้ ให้เขาบำเรอพร้อมกับเลว่อิ่ง แต่เลว่อิ่งถูกเวินเส้าหยีช่วยไปแล้ว จนถึงตอนนี้นางก็ไม่สามารถตามจับฝูกวงเลว่อิ่งกลับมาได้
ราชินีเดินมาใกล้เซียวหยู่เซวียนทีละก้าว มองดูเขาจากที่สูง พร้อมพูดขึ้นอย่างน่าสะพรึงกลัวว่า “เจ้าควรที่จะขอบคุณ ที่เจ้ามีพลังความสามารถมากที่แข็งแกร่งขนาดนี้ หากไม่เช่นนั้น เจ้าก็จะกลายเป็นเหมือนอย่างพวกเขาที่จะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไป”
เซียวหยู่เซวียนเอนพิงกำแพง มือทั้งคู่ไม่สามารถที่จะขยับได้
เขามองพิจารณาดูราชินี เหมือนมองเห็นอะไรบางอย่างจากบนใบหน้าของนาง แล้วก็เหมือนมองไม่เห็นอะไรเลย
“คิดถึงเคล็ดวิชากลืนพลังขึ้นมาได้หรือ?”
“เจ้าทำอะไรนาง?”
“ตื่นเต้นทำไม แมงจับหนูต้องค่อยๆเล่น”
“หากเจ้ากล้าแตะต้องนาง ต่อให้ข้าเป็นผีก็จะตามรังควานเจ้า”
สีหน้าราชินีดุร้ายขึ้นมาในทันใด นางตะคอกพูดขึ้นว่า “นังสารเลวคนนั้นมีอะไรดี ทำไมนางกระทำเรื่องชั่วร้ายทุกอย่าง พวกเจ้าก็ยังรักชอบนางอย่างไม่มีข้อแม้? เจ้าเป็นแบบนี้ อี้เฉินเฟยเป็นแบบนี้ เวินเส้าหยีเป็นแบบนี้ ซือโม่เฟยเป็นแบบนี้ แม้แต่เย่จิ่งหานก็เป็นแบบนี้”
“นางดีอยู่แล้ว ความดีของนางไม่สามารถอธิบายเป็นภาษาใดในโลกได้”
“คลั่ก…..”
ราชินีบีบคอของเซียวหยู่เซวียน แรงเยอะจนแทบจะบีบคอเขาตายไปเสีย
กู้ชูหน่วนร้อนใจ
แต่นางทำได้เพียงอดทนไว้
ระดับเจ็ด….
นางเป็นระดับเจ็ด….
ขอเพียงเป็นคนที่นางอยากฆ่า ใครก็ไม่สามารถหลบพ้นได้
แม้แต่เย่จิ่งหานกับเวินเส้าหยีก็ไม่สามารถ
เสี่ยงบุกไป มีแต่จะทำให้เซียวหยู่เซวียนตกที่นั่งลำบาก
เซียวหยู่เซวียนหายใจลำบาก แต่ใบหน้าของเขากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าเป็นเพียง….คนเงา…เป็นเพียงตัวแทนแม่ของนาง….”
“พัฟ….”
“พัฟ….”
ราชินีจับชิงเฟิงเจี่ยงเสวียโยงลง ยกฝ่ามือฟาดตบเซียวหยู่เซวียนอย่างแรง จนฟันเซียวหยู่เซวียนหลุดไปสองซีก กู้ชูหน่วนโกรธจนกัดฟันแน่น
“ข้าขอเตือนเจ้า เจ้าห้ามพูดว่าข้าเป็นคนเงาอีก”
เซียวหยู่เซวียนไม่เกรงกลัวนาง ต่อให้เลือดเต็มปาก เขาก็ยังยิ้มหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “คนเงา….เจ้าคือคนเงา”
กู้ชูหน่วนแทบอยากกระทืบเซียวหยู่เซวียนให้ตายไปเลย
คนสารเลว ไม่รู้จักรักษาชีวิตของตนก่อนหรือ?
กระตุ้นนางทำไม?
คนเงาอะไร?
เซียวหยู่เซวียนรู้จักนาง?
เวินเส้าหยี เย่จิ่งหาน ซือโม่เฟยนางล้วนรู้จัก
อี้เฉินเฟยคือใคร?
คนที่พวกเขาพูดถึงเมื่อกี้คือใคร?
นางหรือ?
หรือว่า….
ราชินีคว้าจับผมเซียวหยู่เซวียนไว้แน่น บีบบังคับให้เขามองดูนาง
“สารเลว เจ้าทำให้ข้าโกรธ ต่อให้เจ้ามีวิทยายุทธเก่งกาจแล้วยังไง ข้าไม่สนใจ”
ช่วงที่ผ่านมานี้ ทุกครั้งที่เจอหน้าเซียวหยู่เซวียน เขาก็จะดูถูกเหยียดหยามนาง เหน็บแนมนาง
ต่อให้ฮัวอิ่งมีความอดทนแค่ไหน ก็อดกลั้นไม่ได้แล้ว
นางรวบรวมพลัง วางมือใหญ่บนหัวของเขา อยากดูดพลังของเขาทั้งหมด
ชิงเฟิงเจี่ยงเสวียร้อนใจอย่างมาก
“ปล่อยเขา รีบปล่อยคุณชายเซียว”
“วางใจ ไม่นานก็จะถึงคิวพวกเจ้าแล้ว”
เซียวหยู่เซวียนพูดขึ้นมาอย่างเหน็บแนม ปล่อยให้นางทำตามอำเภอใจ
“ในเมื่อเจ้าไม่สนใจ งั้นเจ้าดูดวิทยายุทธของข้าทำไม? คนเงา เจ้ามีพลังถึงระดับเจ็ด ก็เพราะล้วนแย่งมาจากคนอื่น ไม่อย่างนั้น….ด้วยความสามารถอันต่ำต้อยของเจ้า แม้แต่เส้นทางฝึกตนก็หลุดพ้นไม่ได้”
ประโยคนี้ประสบความสำเร็จอีกครั้งในการทำให้ราชินีโกรธจัด
เดิมนางก็เป็นยอดฝีมือ
ไม่อย่างนั้นจะสามารถได้เป็นคนเงาของหัวหน้าเผ่าหยกหรือ?
ใช้เคล็ดวิชาวิญญาณปีศาจดูดวิทยายุทธของพวกเขาไปหมด เพียงเพราะต้องการใบหน้าเดิมกลับคืนมา เพียงเพราะต้องการไปถึงระดับเจ็ดได้ภายในเวลาอันสั้น
“เพียงแค่ระดับเจ็ด หน่วงเหนี่ยวข้าไว้ได้หรือ?”
“หน่วงเหนี่ยวเจ้าไว้ไม่ได้ งั้นทำไมเจ้าถึงกลายเป็นแม่มดเฒ่า ยังเพิ่มระดับไม่ได้ ต้องอาศัยวิทยายุทธของคนอื่นมาเพิ่มพลังความแข็งแกร่งของตนเอง”
“เซียวหยู่เซวียน ต่อให้เจ้าตายเป็นร้อยครั้งก็ไม่สามารถดับไฟแห่งความโกรธของข้าได้”
เสียงดัง คลั่ก ดังขึ้น ราชินีฉีกเสื้อผ้าเซียวหยู่เซวียน คิดจะทำมิดีมิร้าย
ชิงเฟิงเจี่ยงเสวียโกรธจนก่นด่าอยู่อย่างต่อเนื่อง
กู้ชูหน่วนกำหมัดแน่น ต่อให้สู้ไม่ไหว ก็ต้องเข้าไปช่วย
ความตื่นตระหนกวาบเข้ามาในใจเซียวหยู่เซวียน
ไม่รอให้กู้ชูหน่วนปรากฏตัว
เขาพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “ยายแก่ เจ้าอายุมากแล้ว ไม่ไหวแล้ว ร้อนใจคิดอยากที่จะพิสูจน์ตนเองหรือ”
“พัฟๆ พัฟ….”
เซียวหยู่เซวียนถูกตบอีกหลายตี แต่เขากลับหัวเราะเสียงดัง
สายตาที่ดูถูก รอยยิ้มที่เหน็บแนม ล้วนกระตุ้นราชินี
ราชินีโกรธโมโหหายใจรุนแรง สีหน้าเขียวม่วงไปหมด
นางผ่อนมือที่ตรึงเซียวหยู่เซวียนไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “นอกจากพวกคนเฒ่าอมตะของเผ่าหยก กับนังสารเลวคนนั้น เจ้าเป็นคนที่ข้าเกลียดชังที่สุด”
เซียวหยู่เซวียนค่อยโล่งอก
ผู้หญิงบ้าคนนี้ทำอะไรแล้วแต่อารมณ์
นอกจากการกระตุ้นให้นางโกรธจัด ไม่อย่างนั้นคืนนี้พวกเขาสามคนหนีไม่พ้นแน่
ถึงแม้จะเสี่ยง แต่ก็คุ้มค่า
เขาเองก็ไม่รู้ว่าตนเองจะสามารถถ่วงเวลาไปได้นานเท่าไหร่
และก็ไม่รู้ว่ายัยขี้เหร่เป็นอย่างไรบ้าง
“คนที่ทำให้ข้าเกลียดชัง ข้าจะทำให้เขาได้ลิ้มรสความทุกข์ทรมานทั้งหมดในใต้หล้า สุดท้ายต้องร้องไห้คุกเข่าขอร้องให้ข้าฆ่าตายเสีย”
สายตาราชินีดุร้ายขึ้นมา มองไปรอบๆ แล้วตะโกนพูดขึ้นว่า “ออกมา”
ได้ยินแบบนี้ เซียวหยู่เซวียนตกใจอย่างมาก
หรือว่าจะเป็นยัยขี้เหร่?